เชื่อว่าทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ ต่างต้องเคยพบเจอเรื่องราวแย่ ๆ ที่หนักที่สุดในชีวิตมาบ้างครั้งหรือสองครั้ง ซึ่งเราก็เชื่อว่ากว่าที่คุณจะผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาได้ คุณต้องใช้ความพยายามและต่อสู้มากมายกว่าจะมายืนอยู่ในตอนนี้ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่คุณต้องผ่านมานั้น บางทีมันก็ตามมาหลอกหลอนคุณ จนทำให้คุณเครียดเมื่อคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นในบางครั้ง แต่คุณก็สามารถยิ้มและพร้อมจะสู้กับมันต่อไป เหมือนตัวละครเหล่านี้ที่พวกเขาหรือเธอนั้นก็พร้อมจะยิ้มสู้แม้สิ่งที่เจอมันจะโหดร้ายมาก ๆ ก็ตาม เรามาดูกันดีกว่าว่าตัวละครเหล่านี้ในอนิเมะต้องเจอกับเรื่องราวอะไรมา และตอนนี้พวกเขาและเธอเหล่านั้นยิ้มสู้มันได้อย่างไร เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังท้อแท้ได้มีแรงสู้ต่อไปเหมือนตัวละครเหล่านี้ จะมีตัวละครไหนจากอนิเมะเรื่องอะไรบ้างนั้นมาดูไปพร้อมกันเลย

พ่อทิ้งหนี้เอาไว้มากมายจนต้องมาปราบปีศาจใช้หนี้แต่ก็หวังว่าวันหนึ่งจะใช้หนี้หมดและได้อ้อมกอดของสาว ๆ Denji จาก Chenso Man

 Chenso Man

เริ่มต้นตัวละครแรกกับตอนแรกของอนิเมะที่ออกฉาย เราก็ได้เห็นชีวิตอันแสนรันทดของ เด็นจิ (Denji) หนุ่มน้อยมนุษย์เลื่อยจาก ‘Chenso Man’ ที่เปิดเรื่องมาเราก็ได้เห็นชีวิตเด็กชายที่อยู่กับปีศาจหมาเลื่อยที่อดมื้อกินมื้อ ขนาดที่ว่าขนมปังแผ่นเดียวต้องแบ่งกันกินกับน้องหมา แถมยังต้องแอบนอนในห้องเก็บของเล็ก ๆ ต้องทำงานตัดต้นไม้กับล่าปีศาจใช้หนี้ยากูซ่า (ชิ้นส่วนปีศาจขายในตลาดมืดได้) เพราะพ่อที่ฆ่าตัวตายทิ้งหนี้ก้อนโตเอาไว้ จนเด็นจิต้องขายดวงตา ไต และลูกอัณฑะอย่างละข้างเพื่อใช้หนี้ที่ก็ใช้หนี้ได้แค่ส่วนเดียวจากหนี้ทั้งหมด เรียกว่าชีวิตรันทดแบบสุด ๆ ซึ่งสิ่งที่ยังทำให้เด็นจิยังยิ้มสู้คือความหวังว่าวันหนึ่งเขาจะใช้หนี้หมด จะได้เป็นอิสระใช้ชีวิตของตัวเองเสียที และจะได้มีแฟนแล้วก็ได้อ้อมกอดจากสาว ๆ แต่ชีวิตของเด็นจิไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่เป็นหนามกุหลาบมากกว่า เพราะหนี้ที่ใช้นั้นไม่หมดลงเลยแถมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เด็นจิก็ยังสู้ต่อไปพร้อมกับชะตากรรมต้องสาปของเขา ที่ต้องมาเอาใจช่วยว่าชายหนุ่มคนนี้จะยิ้มสู้ได้อีกนานแค่ไหน ใครที่ชอบการ์ตูนสายโหดเลือดสาดลุยแหลกต้องไม่พลาด

 Chenso Man

แบกรับความรู้สึกผิดในฐานะนักฆ่าแต่ก็พร้อมเดินหน้าต่อไป Himura Kenshin จาก Rurouni Kenshin

Rurouni Kenshin

ว่ากันว่าอดีตที่เลวร้ายนั้นยากที่จะลบเลือนไปจากใจ มีเพียงแค่เราจะยอมรับมันได้มากน้อยแค่ไหนก็เท่านั้น เหมือนอย่าง ฮิมุระ เคนชิน (Himura Kenshin) จาก ‘Rurouni Kenshin’ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ซามูไรพเนจร” ที่บอกเล่าเรื่องราวของอดีตนักฆ่าในตำนานเจ้าของฉายาว่า “ฮิโตะคิริ บัตโตไซ” (Hitokiri Battosai) ที่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นนับร้อยศพจนกลายเป็นตำนาน จนเมื่อการปฏิวัติจบลงบัตโตไซก็หายตัวไปเหลือเพียงชายที่ชื่อฮิมุระ เคนชิน ที่ต้องแบกรับอดีตที่ต้องฆ่าคนไปมากมาย รวมถึงสองคนสำคัญที่ฝากรอยแผลเป็นเอาไว้ที่แก้มของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเค็นชินก็ไม่คิดจะเอาอดีตมาตอกย้ำในชีวิต แต่เขาพร้อมจะเดินทางต่อไปและแก้ไขในสิ่งที่ตนเองทำเท่าที่ทำได้ นับเป็นการยอมรับความผิดพลาดให้กับอดีต และพร้อมจะเดินหน้าสู่อนาคตที่หลายตัวละครทั้งในอนิเมะและชีวิตจริงน้อยคนจะทำได้ เหมือนเป็นการบอกเราให้รู้ว่าอดีคคือสิ่งที่ผ่านไปแล้วอย่าเอามาเป็นภาระในปัจจุบัน แค่เราไม่ทำผิดซ้ำกับในอดีตก็พอ นั่นคือสิ่งที่อนิเมะเรื่องนี้บอกกับคนดู

Rurouni Kenshin

พ่อแม่กลายเป็นหมูตัวเองต้องไปอยู่ร่วมในโรงแรมผีแต่ก็มีแสงแห่งความหวังแม้จะเล็กน้อยก็ตาม Ogino Chihiro จาก Spirited Away

Spirited Away

ว่ากันว่าความหวังแม้จะเพียงเล็กน้อยเท่าแสงยากันยุงท่ามกลางความมืด แต่มันก็ยังให้แสงสว่างท่ามกลางความมืดได้ ที่บอกเราว่าแม้ในที่ที่มืดสนิทก็ยังมีแสงแห่งความหวังอยู่ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสาวน้อย โอกิโนะ จิฮิโระ (Ogino Chihiro) จาก ‘Spirited Away’ รับรู้และสัมผัสถึงมันได้ แม้สิ่งที่เด็กน้อยเจอมันอาจจะไม่มีความหวังเลย ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยดูเรื่องราวใน ‘Spirited Away’ จะบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวพ่อแม่ลูกที่ต้องย้ายบ้านไปอยู่ชนบท แต่ทั้งสามคนนั้นกลับหลงทางจนไปเจอหมู่บ้านวิญญาณ และด้วยเหตุบางอย่างจึงทำให้พ่อแม่ของจิฮิโระกลายเป็นหมูและถูกย้ายไปโรงแรมที่มีแต่ผีปีศาจ จิฮิโระเลยต้องไปทำงานในโรงแรมผีเพื่อจะหาทางช่วยพ่อแม่ ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนเด็กน้อยก็ไม่น่าจะแก้คำสาปให้พ่อแม่ได้ แต่ด้วยแสงแห่งความหวังว่ามันต้องมีทางทำได้อยู่ในใจ พร้อมกับจิตใจที่ดีคิดดีทำดีพูดดีของจิฮิโระ จึงพาเธอไปสู่เรื่องราวต่าง ๆ จนช่วยพ่อแม่สำเร็จ เรื่องราวของปีศาจที่มีหัวใจมนุษย์กับสิ่งที่เรียกว่าทำดีได้ดีดูแล้วอบอุ่นหัวใจที่บอกคุณว่า ภายในความมืดมิดก็มีแสงสว่าง เพียงแค่ตอนนั้นคุณกำลังหลับตาหรือมองหาแสงนั้นรึเปล่าเท่านั้น

Spirited Away

เติบโตมากับการไร้ซึ่งพลังการดูถูกแต่ก็ยังยิ้มได้และเห็นคุณค่ากับโอกาสที่ได้มา Miforiya Izuku จาก My Hero Academia

My Hero Academia

ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องเติบโตมาในโลกที่ทุกคนมีพลังความสามารถพิเศษ ที่เรียกว่าอัตลักษณ์กันหมด แต่ตัวคุณนั้นเป็นเพียงแค่คน 1% จากทั้งหมดบนโลกที่ไม่มีพลังนี้ ซึ่งตลอดชีวิตของคุณในตอนเด็กนั้นจะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดเข้ากับเพื่อนไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นเด็กที่ไม่รู้ความจึงคิดว่าวันหนึ่งตนเองจะมีพลังแบบคนอื่น ๆ บ้างจนเมื่อมาถึงจุด ๆ หนึ่งคุณก็รู้ความจริงว่าตัวคุณนั้นเกิดมาไม่มีพลังอะไรเลยแบบ มิโดริยะ อิซึคุ (Midoriya Izuku) จาก ‘My Hero Academia’ คุณก็คงจะรู้สึกแย่มาก ๆ และมันก็คงจะเป็นแบบนั้นไปตลอดชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับพลังในการมีอัตลักษณ์แบบคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่ต้องแลกมากับพลังนี้มิโดริยะต้องเก็บขยะที่ชายหาดให้หมด (กองขยะเป็นภูเขาและมีแต่ของใหญ่) ซึ่งเขาก็สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวตลอดปีที่ผ่านมา ที่บอกให้เรารู้ว่าบางทีในความสิ้นหวังก็ยังมีคนยื่นโอกาสให้ เมื่อเป็นอย่างนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือการรับโอกาสนั้นมา และทำมันให้ดีให้สมกับสิ่งที่ได้มาเหมือนอย่างที่มิโดริยะทำ ซึ่งถ้าคุณได้ดูเรื่องราวของหนุ่มน้อยคนนี้ในตอนแรก ๆ คุณจะรู้เลยว่ากว่าจะมาถึงจุด ๆ นี้มิโดริยะทุ่มเทขนาดไหน

My Hero Academia

เคยหลงมัวเมาไปกับการแก้แค้นแต่ตอนนี้ก้าวข้ามจนไม่คิดอะไรเลย Sakata Gintoki จาก Gintama

Gintama

ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ ซากาตะ กินโทกิ (Sakata Gintoki) กับสิ่งที่เคนชินเป็นนั้นเหมือนกัน นั่นคือในอดีตทั้งคู่คือนักฆ่าที่ฆ่าคนเพื่อคนอื่นและความเชื่อว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้อง จนมาถึงจุด ๆ หนึ่งที่เราพ่ายแพ้ในสงครามและรู้ว่าสิ่งที่เราเชื่อมาทั้งชีวิตนั้นความจริงก็ไม่ได้เลวร้ายหรือเป็นปีศาจอย่างที่เราคิด แถมการต่อสู้นั้นก็ไม่ได้อะไรคืนมานอกจากการสูญเสียและความตาย เมื่อเป็นอย่างนั้นทั้งคู่จึงทิ้งอดีตและมุ่งหน้าสู่อนาคต ขณะที่เคนชินนั้นเลือกที่จะเดินทางไปเรื่อย ๆ เพื่อหาที่อยู่ในตัวเอง แต่ของกินโทกิกลับเลือกที่จะปักหลักและอยู่ร่วมกับอดีตที่ตนเองเคยทำผิดพลาด ขณะที่เพื่อน ๆ สมัยเด็กยังคงยึดติดกับสิ่งที่เคยเป็นและพยายามดึงกินโทกิกลับไปเป็นปีศาจสีขาวเหมือในอดีต ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้แล้วเพราะกินโทกิก้าวข้ามแบบกระโดดมาเลย จนไม่หันไปยุ่งอะไรแบบนี้อีกแม้เพื่อน ๆ จะทำอะไรก็ตามกินโทกิก็ไม่ไปขัดขวาง ตราบเท่าที่มันไม่ได้ทำใครเดือดร้อนหรือไปยุ่งกับเพื่อน ๆ ของกินโทกิพี่แกก็ไม่เข้าไปยุ่ง ต่างกับเคนชินที่ยังทิ้งอดีตไม่หมดและเข้าไปยุ่งไปแก้ไขตลอดเมื่อทำได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนทั้งคู่ก็สามารถก้าวข้ามอดีตมาได้ทั้งคู่ และเมื่อก้าวข้ามมาได้พอเราหันกลับไปมองเราก็จะเห็นว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง แบบที่กินโทกิพูดเสมอว่า “เรื่องมันผ่านมาแล้วก็แค่ยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ก็พอ”

Gintama

แทนที่จะกลัวแต่มันกลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้นที่ได้สู้กับคนเก่ง Son Goku จาก Dragon Ball

Dragon Ball

เชื่อว่าหลายคนคงจะสงสัยแน่ ๆ ว่า เรื่องราวการสู้ชีวิตแต่ก็ยังยิ้มสู้ของตัวละครต่าง ๆ ในอนิเมะจะมี ซง โกคู (Son Goku) จาก ‘Dragon Ball’ มาเกี่ยวได้อย่างไร เพราะในเรื่องเราจะเห็นแค่โกคูสู้ ๆ อย่างเดียว จะมีแพ้บ้างอะไรบ้างแต่ก็มาชนะทีหลังแบบพระเอกทั่วไป แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือความรู้สึกอยากเอาชนะและท้าทายตัวเองของโกคู อย่างตอนที่เขาได้เจอกับ ฟรีเซอร์ (Freezer) ครั้งแรกโกคูมือสั่นด้วยความกลัว จนเจ้าตัวถึงกับพูดว่า “เรากลัวหมอนี่จนมือสั่น แต่แทนที่เราอยากจะวิ่งหนีแต่เรากลับดีใจที่จะได้เจอกับคนเก่ง ๆ” นั่นคือสิ่งที่โกคูมี ที่บอกเราให้รู้ว่าต่อให้ถูกอัดจนลงไปนอนกี่ครั้งหรือต้องเจอปัญหาใหญ่ ๆ เข้ามา เขาก็มองว่ามันน่าสนุกที่เราจะได้ลอง ถ้าพ่ายแพ้ก็ลองดูใหม่หรือแก้ไขข้อผิดพลาดแบบที่โกคูทำในเรื่อง ที่สุดท้ายเราก็สามารถเอาชนะมันได้เหมือนการยิ้มให้กับปัญหาแล้วตะโกนดัง ๆ ออกไปว่า “ก็มาซิครับกลัวที่ไหน” ออกมาดัง ๆ เพราะถ้าโกคูขี้ขลาดขี้กลัวโกคูก็คงมาไม่ถึงจุดสูงสุดของตัวเองแน่นอน ตัวคุณก็เช่นกันถ้ามัวแต่กลัวไม่กล้าทำนั่นนี่หรือเจอปัญหาก็ยอมแพ้ ชีวิตก็คงวนอยู่ที่เดิม เพราะบางทีปัญหาก็สอนเราให้แข็งแกร่งแม้จะแพ้ก็ตาม

Dragon Ball

ครอบครัวถูกฆ่าจนหมดเหลือแค่น้องสาวที่เป็นแสงแห่งความหวังให้ยิ้มได้ Kamado Tanjiro จาก Kimetsu no yaiba

Kimetsu no yaiba

ถ้ามีการจัดอันดับตัวละครที่มีชีวิตอาภัพที่สุด คามาโด ทันจิโร่ (Kamado Tanjiro) จาก ‘Kimetsu no yaiba’ หรือ “ดาบพิฆาตอสูร” ต้องติดอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะลองคิดดูเอาเองว่าจะมีตัวละครสักกี่คนที่จะได้เจอแม่และน้อง ๆ ตายยกบ้าน เหลือแค่น้องสาวคนเดียว ที่ในตอนนั้นเป็นใครก็คงจะหัวใจแหลกสลาย หรือในจิตใจคงมีแต่ความแค้นที่ต้องการล้างแค้นโดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่สิ่งที่ฉุดรั้งจิตใจของทันจิโร่ไม่ให้ไปทางด้านที่กล่าวมา ก็คือแสงแห่งความหวังที่เรียกว่าน้องสาวที่ไม่ให้ทันจิโร่จมดิ่ง เพราะภายใต้จิตใจที่อยากแก้แค้นทันจิโร่อยากรักษาน้องสาวให้กลับเป็นมนุษย์มากกว่า นอกจากนี้ทันจิโร่ยังมีความรู้สึกเข้าใจและเห็นใจผู้อื่นที่เจอแบบเดียวกันมา ซึ่งน้อยคนนักที่จะสามารถเป็นแบบทันจิโร่ได้ในชีวิตจริง เพราะปกติถ้าใครเจอปัญหาหรือถูกกระทำถ้าไม่โกรธจนหน้ามืดก็เกลียดจนไม่อยากยุ่งอีก น้อยคนที่จะมองข้ามและมองหาสิ่งดี ๆ ในเรื่องนั้นแล้วมุ่งไปทางนั้นแทน เมื่อเป็นอย่างนั้นตัวเราก็จะไม่ทุกข์และพร้อมจะมุ่งหน้าเดินต่อไปบนโลกอันโหดร้ายนี้ หวังว่าสิ่งที่ทันจิโร่เป็นจะช่วยให้หลายคนที่กำลังโกรธเกลียดแค้นใครอยู่มองหาสิ่งดี ๆ แสงแห่งความหวังในจุดนั้นแล้วยิ้มให้มัน คุณก็จะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

Kimetsu no yaiba

ถูกชาวบ้านเกลียดเพราะเป็นร่างสถิตของปีศาจที่ทำลายหมู่บ้านแต่ก็มีเป้าหมายให้ทุกคนยอมรับ Uzumaki Naruto จาก Naruto

Naruto

ปิดท้ายกับตัวละครที่ยังยิ้มได้แม้จะถูกกล่าวหาว่าเป็นร่างสถิตของปีศาจที่ทำลายหมู่บ้านในอดีต จนถูกชาวบ้านเมินและต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนโตอย่าง อุซึมากิ นารูโตะ (Uzumaki Naruto) จากเรื่อง ‘Naruto’ หรือชื่อไทยอย่าง “นารูโตะ นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ” ที่ถ้าใครได้ดูอนิเมะตอนแรก ๆ ของซีรีส์นี้ได้คุณจะเข้าใจเลยว่าทำไมเด็กผู้ชายคนนี้ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นและสร้างความวุ่นวาย นั่นก็เพราะนารูโตะไม่มีใครมาสนใจไม่มีพ่อแม่ปลอบยามร้องไห้ หรือยิ้มให้ตอนประสบความสำเร็จ ดังนั้นสิ่งที่เด็กน้อยทำคือการให้คนอื่นหันมาสนใจตน จนเมื่อมาถึงจุด ๆ หนึ่งเขาก็มีเป้าหมายใหม่นั่นคือการเป็น ‘Hokage’ หรือผู้นำหมู่บ้าน คราวนี้ทุกคนก็จะสนใจตนเอง ซึ่งตลอดทางที่นารูโตะเดินไปนั้นทุกคนต่างคิดว่าสิ่งที่เด็กชายคนนี้ทำไม่มีทางสำเร็จแถมยังดูถูกตลอดเวลา แต่นารูโตะก็ยิ้มสู้ไม่ยอมแพ้ที่เหมือนเรากำลังหลอกตัวเองว่าเราทำได้ยังไหว ที่ในสายตาคนอื่นอาจจะมองว่าโง่เง่าที่คิดแบบนั้น (หลอกตัวเองว่าทำได้ทั้งที่เป็นไปได้ยาก) แต่ในสายตาของเรามันคือความพยายามที่บอกตัวเองว่าเราทำได้ ดีกว่าบางคนที่คิดลบแล้วบอกตัวเองว่าคนอย่างเราคงทำไม่ได้หรอก ถ้าคิดแบบนั้นชาตินี้ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ถ้าเราคิดว่าตัวเองทำได้เราไม่เห็นทางตันเราก็จะพยายามต่อไป แม้จะใช้เวลาเป็นปีก็ตามเราก็ยังสู้ต่ไป เพราะเรามีความหวังจึงมีพลังแบบที่นารูโตะเป็นจนเขาสามารถเป็น ‘Hokage’ ได้ในที่สุดนั่นเอง หรือสรุปสั้น ๆ ก็คือความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น แบบที่นารูโตะทำนั่นเอง

Naruto

ก็จบกันไปแล้วกับ 8 ตัวละครที่เจอเรื่องราวที่เลวร้ายย่ำแย่ แต่ก็ยังยิ้มได้และพร้อมจะสู้มันผ่านตัวละครต่าง ๆ ที่ต้องเจอเรื่องราวแตกต่างกัน แต่ทั้งหมดนั้นมีสิ่งที่เหมือนกันคือการยิ้มสู้กับชีวิต แบบชีวิตมันเลวร้ายก็จริงแต่ก็ยังมีแสงแห่งความหวังหรือมีเป้าหมายในชีวิตแบบสู้มาก็สู้กลับ ที่เราก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นการให้กำลังใจทุกคนที่กำลังท้อแท้หรือเจอปัญหา ที่ได้อ่านบทความนี้จะมีแรงสู้กันต่อไป เพราะตราบที่ชีวิตยังไม้สิ้นก็ดิ้นรนกันต่อไป คงไม่มีใครที่เจอเรื่องราวเลวร้ายไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการอนิเมะก็รอติดตามกันได้ที่แบไต๋ได้เลย หรือจะย้อนไปอ่านบทความเก่า ๆ ก็ได้เพราะที่แบไต๋มีครบทุกข่าวสารความบันเทิงเพื่อคุณ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส