สิ้นสุดมหากาพย์ของการรอคอย ไม่ต้องเสี่ยงทาย ไม่ต้องวุ่นวายทำนายกัน เปิดซะที!!บนปฐพีแผ่นดินไทย!!สมใจอยากเหล่าโอตะ BNK48 THE CAMPUS บ้าน มหาวิทยาลัย วิทยาเขต สถาบัน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียกกัน เปลี่ยนจากการเช่าห้องซ้อมมาเช่าห้างอยู่ นี่คือสถานที่เพาะบ่มและเรียนรู้ รวมถึงการแสดงโชว์ของน้องๆ เมมเบอร์ BNK48 ที่จะแสดงความสามารถให้เหล่าสาวกและแฟนคลับได้รับชมกันแบบใกล้ชิด

บนพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. บริเวณ ชั้น 4 ของห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ BNK48 THE CAMPUS นั้นแบ่งโซนไว้ 3 ส่วนหลัก ๆ ก็คือ โซน คาเฟ่ โซนนี้ก็จะเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการเหล่าแฟนคลับช่วงระหว่างการรอเข้าชมการแสดง รวมถึงการพูดคุยจับกลุ่มแลกเปลี่ยนเสวนานัดพบของเหล่าโอตะ BNK48 อีกด้วย

SHOP ก็จะเป็นที่จำหน่ายของที่ระลึกหลายๆอย่างให้คุณได้เลือกซื้อตามใจชอบ อาทิ เช่น เสื้อยืด, หมวก, เข็มกลัด, ผ้าเชียร์, ริสแบนด์ , Photoset และอื่น ๆ อีกมากมาย

THEATRE น่าจะเป็นที่ที่โอตะหลายๆคนใฝ่ฝันอยากเข้าไปสัมผัสสักครั้งนึงในชีวิต ส่วนนี้จะอยู่บริเวณด้านในของ CAMPUS ซึ่งแน่นอน คนที่จะเข้าไปอยู่ในโซนนี้ได้ ก็ต้องมี BNK48 Campus Card หรือบัตรที่นั่งเข้าชมการแสดงของน้อง ๆ BNK48 มีจำนวน 20,000 ใบ ซึ่งได้ขายหมดเกลี้ยงไปแล้วตั้งแต่ปีมะโว้ คนที่อยากดูในส่วนนี้ก็ต้องรอเป็นปีละครับ ดูว่าเขาจะประกาศขายกันอีกทีเมื่อไหร่

ที่นั่งในเธียเตอร์ก็จะมีทั้งหมด 350 ที่นั่ง เปิดการแสดงแค่ เสาร์-อาทิตย์ (เสาร์ 2 รอบ อาทิตย์ 1 รอบ ) คนที่อยากดูในส่วนนี้ก็ต้องรอเป็นปีละครับ

ทางทีมงานแบไต๋ก็ได้รับเกียรติให้เข้าไปชมในส่วนนี้ด้วยนะครับ แหม่!!แต่น่าเสียดายครับ ที่เขาห้ามถ่ายภาพห้ามบันทึกวิดิโอเด็ดขาด เอาเป็นว่าผมจะสาธยายแบบใช้จินตนาการเปลี่ยนเป็นสัญญาณภาพให้เห็นก็แล้วกันนะครับ

เดินตรงเข้าประตูสีชมพู ขวามือมี Backdrop BNK48 ให้ถ่ายภาพ เลี้ยวซ้ายเดินเข้าเธียเตอร์ เข้าไปนั่งข้างในจะมีที่นั่งให้ทั้งหมด 350 ที่นั่ง (ผมได้ที่นั่งหมายเลข 16) ก็เหมือนเราเข้าไปดูหนังที่โรงแหละครับ แต่ที่นี่จะแตกต่างจากโรงหนังก็คือเก้าอี้ที่เรานั่งจะเสมอราบกับพื้นเท่ากันหมด บรรยากาศข้างในถูกปกคลุมไปด้วยแสงไฟสลัว ๆ หน้าหลัง ซ้ายขวา ห่อหุ้มด้วยผ้าม่านสีแดงผืนใหญ่รอบทิศทาง ช่วงระหว่างรอชมการแสดง ท่านจะถูกโหมโรงและขับกล่อมให้เคลิบเคลิ้มหลงใหลเข้าไปในห้วงอาณาจักรของเพลง BNK48 (รอประมาณ 10 นาที) ในที่สุดช่วงเวลาแห่งการลอยคอ เฮ้ย!!รอคอย ก็มาถึง ไฟปิดผ้าม่านเปิด พลั๊วะ!!เจอ LED สีสันสวยงามแนะนำเตรียมความพร้อมให้เจอกับน้อง ๆ ทั้ง 16 คนในทีม BIII(บีทรี) โดยมีน้อง ปัญ ,เฌอปราง,มิวสิค,แก้ว,อร,ตาหวาน,ปูเป้,เจนนิษฐ์,ก่อน,จ๋า,เจน,ไข่มุก,มายด์,น้ำหนึ่ง และโมบายล์ จั่วหัวด้วยเพลง ปาร์ตี้ในฝัน (PARTY ga Hajimaru yo) สร้างความคึกคักให้กองทัพนักข่าวกันมากเลยทีเดียว

ตามมาด้วยเพลง Dear My Teacher สมาชิกแต่ละคนก็จะสลับหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ ตามบทเพลงนะครับ เพื่อให้ทุกคนได้ไปพักแล้วก็เปลี่ยนชุดในเพลงถัดไป บางเพลงก็ร้อง 3 คน 5 คน 6 คน แล้วแต่ พักเบรกแนะนำตัวและพูดถึงความรู้สึกของแต่ละคน ซีนนี้เรียกได้ว่าเรียกน้ำตาจากโอตะได้เลยนะครับ โดยเฉพาะน้องเฌอปราง เธอพูดไปร้องไห้ไป เธอพูดประมาณว่าเธอรู้สึกดีใจมากที่มีวันนี้ วันที่เธอได้มาเล่น มาแสดงโชว์ให้กับแฟนคลับของตัวเองได้ดูได้เห็นได้รับรู้ เพราะมันเป็นเหมือนการพูดในบ้าน ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็เหมือนสโมสรฟุตบอลที่เตะในบ้านของตัวเองนั่นแหละครับ ความฮึกเหิม พลัง มนต์ขลัง กำลังใจ ทุก ๆ อย่างของกองเชียร์แฟนคลับ มันมีพลังส่งให้นักเตะได้รับชัยชนะ ผมเชื่อว่าเธอรู้สึกอย่างนั้นนะ

นอกจากนั้นก็จะมีเพลง แอปเปิ้ลอาบยาพิษ (Doku Ringo wo – Tabesasete), พลิ้ว (Skirt ,Hirari), เพื่อนคนพิเศษ (Classmatte),คำสัญญาแห่งคริสต์มาสอีฟ (Anata to acahrismas Eve), จูบ…ไม่ได้นะ (Kiss wa Dame yo),อุณหภูมิของดวงดาว (Hoshi no Ondo),ความทรงจำและคำอำลา (Sakura no Hanabiratachi) , ฟ้าสีคราม (Aozora no Soba ni lte)

เหมือนใกล้จะจบการแสดงโชว์ กล่าวขอบคุณจบ แล้วเดินหลบข้ามสายไมค์ค่อย ๆ เดินเข้าไปในความมืด ทิ้งให้คนดูอึ้งทึ่งวังเวงอยู่ประมาณ 40 วินาที สุดท้ายก็มีเสียง  ENCORE ตะโกน!!!ดังกึกก้อง BNK48!! BNK48!! BNK48!! ดังกึกก้องกังวานอยู่นานพอสมควร สปอร์ตไลท์เปิด แสงจอ LED โผล่ เมมเบอร์ 16 คน กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งนึง มาด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้น เต้นกันสะบัดกับเพลงชาติ ปลุกกระชากความรู้สึกอีกครั้งนึง

ต้องบอกตามตรงผมงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือทุกคนช่วยกันร้องเพลงนี้เกือบทุกคน (เพลงชาติ BNK48) มีผมคนเดียวที่ร้องไม่ได้ เพราะผมชอบเพลง “ปอยฝ้าย มาลัยพร “ อ๊ะจ๊าก!!! มาต่อกันที่เพลงพลิ้วอีกรอบ เพลงนี้ผมชอบส่วนตัว ท่าเต้นน่ารักดี ตามมาด้วยเพลงช้าฟังเพราะซาบซึ้งกินใจถูกใจแฟนคลับ “365 วันกับเครื่องบินกระดาษ”  ทิ้งภาพความประทับใจไว้ให้ใคร ๆ ต้องคิดถึง ในบทเพลงสุดท้าย “ ความทรงจำและคำอำลา (Sakura no Hanabiratachi)  ชั่วโมงกว่า ๆ ที่ผมได้นั่งชมการแสดงของน้อง ๆ BNK48 พูดได้เต็มปากครับว่าคุ้มค่า ก่อนออกจากเธียเตอร์ ผมได้กระซิบถามคนข้าง ๆ ว่าน้องคนที่เต้นอยู่แถว 2 คนรองสุดท้าย ชื่อว่าอะไร เค้าบอกให้ผมไปถามคนที่ยืนถือแท่งไฟ ก่อนเขาจะเดินออกไป เขาหันหลังกลับมาบอกผมว่าชื่อ ”น้องเนย “ เรียบร้อยโดยดุษฎี การันตีว่าผมโดน”น้องเนย” ตก!!! เป็นที่เรียบร้อยครับ