[รีวิว] OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ: จังหวะกล้าแปร่งที่น่าสนใจ
Our score
7.0

Release Date

27/10/2022

ความยาว

124 นาที

ผู้กำกับ

ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี

ผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับ

หนังสั้น 'The Only One จีบได้แฟนตายแล้ว', MV "ซ่อนกลิ่น" - Palmy, MV "ขอ" - Lomosonic

[รีวิว] OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ: จังหวะกล้าแปร่งที่น่าสนใจ
Our score
7.0

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

จุดเด่น

  1. การแสดงที่ดีของคู่พระนาง และการเล่าเรื่องที่ลูกเล่นลีลาเยอะเป็นจุดเด่น รวมถึงเรื่องที่เล่าก็ใกล้ตัวและผู้ชมน่าจะอินได้ไม่ยาก

จุดสังเกต

  1. โปรดักชันยังมีบางฉากที่ดูเป็นการประดิษฐ์ไปหน่อย บทและการสร้างตัวละครที่ยังตกผลึกไม่แน่นพอจะโน้มน้าวผู้ชมให้เชื่อหรือเอาใจช่วยตัวละคร วิธีการเปลี่ยนแนวหนังระหว่างแฟนซีกับดราม่าสมจริงยังไม่ค่อยกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน
  • บท

    5.5

  • โปรดักชัน

    7.0

  • การแสดง

    8.5

  • ความบันเทิงตามแนวหนัง

    6.5

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    7.0

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ: คนสองคนที่เคมีเข้ากัน แต่พระเจ้าดันไม่เข้าใจ​ เมื่อกายโสดจูนมีแฟน จูนเลิกกายมีแฟน กายเลิกจูนมีแฟน จังหวะรักของคนสองคนที่ดูเหมือนพระเจ้าจะกลั่นแกล้งให้ผิดที่ผิดเวลาอยู่ตลอด กายพยายามตัดใจ แต่ก็ทำได้แค่มูฟออนเป็นวงกลมเสมอมา จนสุดท้าย..เขาตัดสินใจว่า จะลองเดินหน้าสู้กับพระเจ้าดูสักตั้ง!

‘OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ’ ถือว่าเป็นหนังจากค่าย GDH ที่น่าจับตามองเรื่องหนึ่ง ยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบผลงานไวรัลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต เพราะนี่คือผลงานกำกับหนังเรื่องแรกของ พงศ์-ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอที่มีผลงานระดับหลายร้อยล้านวิวอย่าง “ขอ” ของ Lomosonic และผลงานหนังสั้นขนาด 11 นาทีสำหรับโฆษณาอย่าง ‘The Only One จีบได้แฟนตายแล้ว’ ซึ่งความสามารถของฐิติพงศ์อาจจะเรียกได้ว่าหมดคำถามในการเล่าเรื่องในรูปแบบที่มีเวลาจำกัดตามที่เขาได้พิสูจน์มานับครั้งไม่ถ้วน

ความสามารถนี้ไม่มีทางที่จะหลุดรอดสายตาของค่ายใหญ่ เขาเป็นนักเล่าเรื่องที่ฉลาดที่น่าลงทุนด้วยอย่างมาก แต่ความท้าทายสำหรับหนังยาวคือเขาไม่เคยต้องเล่าเรื่องยาวขนาดนี้ แล้วเขาจัดเต็มกับมันถึง 2 ชั่วโมง นั่นก็ดูน่าเอาใจช่วยไม่เบา

‘รักจังวะ..ผิดจังหวะ’ จึงมีเนื้อหาที่อาจเรียกว่าเพลย์เซฟอยู่เหมือนกัน มันเดินบนจังหวะหนังรักวัยรุ่น ความรักที่ผิดช่วงเวลา เป็นอะไรที่คนทุกคนเข้าถึงได้กับประสบการณ์แอบรักคนที่เขามีเจ้าของ หรือมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็เจอคนที่ชอบมาก ๆ การจัดการความคิดและเผชิญช่วงเวลานี้เป็นความท้าทายในช่วงที่เรากำลังเติบโตทั้งความเป็นผู้ใหญ่และจิตใจ และมันก็เป็นบทที่ไม่ไกลตัวและความสนใจในระดับวัยของผู้กำกับ รวมถึงยังตอบโจทย์ทางการตลาดที่ดีสำหรับค่ายด้วย

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

การเลือกนักแสดงที่มารับบทเข้าคู่กันอย่าง สกาย-วงศ์รวี นทีธร และ จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน ในบทของกายและจูน ถือได้ว่าถูกต้องกับบทที่เขียนมา แต่จะทำให้ผู้ชมเชื่อหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ผู้ชมแต่ละคนต้องตอบตัวเอง แต่ถ้าตอบว่าไม่อินขอให้รู้ว่านั่นไม่ใช่ความผิดนักแสดงแต่เพราะเราไม่เชื่อในบทที่เขาต้องเล่นเท่านั้นเอง

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

สกายแสดงในแบบเนิร์ดที่ไม่สนใจความรักไปจนถึงแบดบอยที่หัวใจพังทลายมาหลายครั้งได้ดีทั้งคู่ แต่ก็อาจจะไม่โดดเด่นมากนักเพราะต้องยอมรับว่าบทหนังไม่ได้เปิดช่องให้เขาโชว์ของอะไรจริงจัง จนขนาดว่าเพื่อนพระเอกยังดูคาแรกเตอร์เด่นกว่าด้วยซ้ำ โดยเฉพาะว่าพระเอกเป็นตัวละครเดียวที่มีเสียงบรรยายช่วยบอกความคิดและความรู้สึกในบางช่วงมันก็ทำลายการแสดงของสกายไปไม่น้อยเลย

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

ในขณะที่จูเน่เรียกได้ว่าจะในด้านเสน่ห์ส่วนตัวที่จะตรึงสายตาผู้ชม ถ่ายทอดทั้งความอ่อนหวานและแข็งกร้าวรวมถึงความรู้สึกลึก ๆ ที่ขัดแย้งกันให้ผู้ชมสัมผัสถึงได้ หรือจะเป็นการสร้างเคมีเข้าคู่กับนักแสดงชายหลาย ๆ คนก็ถือว่าเอาอยู่ทั้งหมด เป็นอีกครั้งที่คิดว่าจูเน่น่าจะไปได้ไกลในสายการแสดงคนหนึ่ง

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

ด้วยความเป็นนักเล่าเรื่องที่คิดเยอะ บทหนังของฐิติพงศ์จึงมีความซับซ้อนในแง่สถานการณ์ที่ทับถมวนลูปไปมาผสมปนเปด้วยการนำเสนอรสชาติของหนังหลากแนว ไม่ได้เป็นแบบหมัดหนัก ๆ เน้น ๆ แบบใน ‘เพื่อนสนิท’ (2548) ที่เล่าการแอบรักเพื่อนที่ผิดจังหวะไม่แพ้กัน แต่ ‘รักจังวะ..ผิดจังหวะ’ เต็มไปด้วยลีลาฟุตเวิร์กกับแย็บ มีหมัดหนักน่าลุ้นบ้างแต่มองภาพรวมเราอาจไม่ได้จำหมัดหนักของเขาได้มากนัก

และไม่ใช่แค่เพียงการขยับโยกไปมาระหว่างหนังรอมคอมแบบแฟนตาซีกับดราม่าชีวิตจริงสุดดาร์ก หรือการใช้ท่าทีแบบหนังอินดี้ที่ไม่ตามสูตรสำเร็จของแนวหนังซึ่งทำให้คาดเดายากและเป็นลีลาเด็ดของหนังเท่านั้น การผสมผสานมันยังลามไปถึงวิธีการเล่าเช่น การใช้เสียงบรรยายแบบพระเจ้าผู้เฝ้ามองในบางช่วง การใช้กราฟิก การสร้างตัวละครที่เหนือจริงแบบการ์ตูน ผสมกับเนื้อหาหนักแบบดูเพลิน ๆ อยู่ต้องสำลักอ้ำอึ้ง

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

แต่แทนที่ทั้ง 2 โหมดนี้จะไปกันได้ดีแบบที่ ‘500 Days of Summer’ (2009) ของผู้กำกับ มาร์ก เว็บบ์ (Marc Webb) เคยบุกเบิกสร้างปรากฏการณ์มาแล้วในยุคสมัยหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าอาจเป็นอิทธิพลหนึ่งสำหรับหนัง ‘รักจังวะ..ผิดจังหวะ’ อย่างน้อยชื่อ จูน (มิถุนายน) ก็อาจเป็นได้ทั้งเดือนแรกของฤดูร้อนฝั่งประเทศตะวันตก แต่ถ้ามองในไทยมันก็เป็นเดือนแรกหลังฤดูร้อนสิ้นสุดลงเช่นกัน

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

แต่หนังของฐิติพงศ์กลับเต็มไปด้วยสิ่งผิดแผก เช่น ตัวละครน้องสาวของพระเอกที่เป็นตัวละครเหนือจริงทั้งคู่ในหนังทั้ง 2 เรื่องน่าจะเป็นตัวเปรียบเทียบที่ดี คือ ตัวละครของ โคลอี เกรซ มอเรตซ์ (Chloë Grace Moretz) ยังให้ความรู้สึกเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจมากกว่าตัวละครของ ปันปัน ยีย์ยีย์ ที่เหมือนอยู่คนละมัลติเวิร์สกับนักแสดงอื่นตลอดเวลาอย่างจงใจ (จริง ๆ ก็มีฉากที่เธอดูเป็นคนปกติที่เธอกอดหลาน ๆ เอาไว้ แต่หนังก็ข้ามที่จะเล่าไป) เป็นต้น การเสริมองค์ประกอบแฟนซีมาแบบไม่คำนึงว่ามันเกื้อหนุนแก่นของหนัง แต่คิดว่าเสริมเปลือกให้สวยก็พอ น่าจะเป็นจุดพลาดสำคัญโดยรวมของหนังเรื่องนี้

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

จริง ๆ ก็เป็นเรื่องน่าชมที่ผู้กำกับกล้าลองโยนอารมณ์หนัก ๆ ใส่หนังรักเบาสมอง แต่ก็ยังต้องติงกับภาพรวมที่ยังไม่กลมกลืนกัน โดนเฉพาะอย่างยิ่งคือเนื้อหาที่หนังสื่อสารออกมามันห่างไกลจากความพยายามที่จะคงความเป็นหนังฟีลกู้ดเอาไว้ การเลือกเส้นทางที่ระยำตำบอนไปเรื่อย ๆ ของพระเอกยิ่งไล่ต้อนผู้ชมให้เอาใจช่วยเขามากขึ้นทุกที และยิ่งพบว่าหนังไม่ได้ต้องการให้ตัวละครของสกายเรียนรู้อะไรจากสิ่งเหล่านั้นแต่หวังผลให้มันวิ่งไปตามบทที่ตกเหวความโง่ชั้นลึกลงไปเรื่อย ๆ เพื่อสนองพลอตที่กำหนดมา แล้วเลือกให้ตัวนางเอกต้องลดตัวลงมาแทนมันก็ทำใจยากที่จะอยากเชียร์หรือยอมรับการลูบหลังว่ามันเป็นหนังโรแมนติก ภายหลังผู้สร้างตบหัวเราไปแล้วอย่างที่หนังพยายามทำ และบางทัศนคติที่หนังสื่อออกมาผ่านตัวละครของสกายและตัวละครของ พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ก็ดูเป็นยาที่มองได้ทั้งเป็นยาขมช่วยรักษาและยาพิษสำหรับผู้ชมที่ประสบการณ์ชีวิตน้อยอยู่ในทีเช่นกัน

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

เอาจริงถ้าหนังเอาให้สุดไมล์คือดาร์กให้ความโง่ของพระเอกมันสร้างผลลัพธ์ที่เลวร้ายสุด ๆ ไปเลย มันอาจเป็นหนังที่น่าจดจำมากกว่าที่จะเดินทางแตกต่างมาทั้งเรื่องแต่ดันจะจบแบบตามสูตรสำเร็จให้ได้อย่างนี้ แต่นั่นเองมันก็อาจไม่ใช่ลายเซ็นค่ายหนังและอาจไม่ใช่ลายเซ็นผู้กำกับด้วย

และในแง่หนึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในเรื่องเล่าเรื่องนี้มีเรื่องจริงของใครสักคนซ่อนอยู่ไม่มากก็น้อย และถ้าวันหนึ่งเราอยากแก้ไขอดีตบางอย่างได้ผ่านการสร้างหนังสักเรื่อง เราก็คงหวังฉากจบที่มีความสุขที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้หลังผ่านเหตุการณ์ที่ย่ำแย่ขนาดนั้นมา อย่างน้อยถ้ากายและจูนในชีวิตจริงจะได้มาฝันถึงปัจจุบันที่ไม่มีจริงผ่านการดูหนังเรื่องนี้ได้ ก็คงเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ

เป็นอีกหนังรักที่ดูสนุก ช่วงเวลา 2 ชั่วโมงกว่าไม่ได้มีผลแย่กับหนังเลย เป็นจังหวะแปร่ง ๆ ผิดแผกจากหนังไทยปกติ ที่น่าสนใจทีเดียว อาจจะเหมือนติงเยอะแต่ก็ต้องบอกว่าเป็นการติงเพราะรักและเสียดายในหลายส่วนมากกว่าจะจงเกลียดจงชังหนัง ส่วนตัวยังคาดหวังให้หนังทำเงินเพื่อสร้างพัฒนาการกับ 2 สิ่งต่อไปในอนาคต หนึ่งคือตัวผู้กำกับ และสองคือจูเน่

บทยังไม่ขนาดให้เชื่อหรือเห็นคล้อยอินกับสิ่งที่ตัวละครทำได้ ซึ่งพอมองว่าหนังยังอยากจะยึดความเป็นฟีลกู้ด เลยกลายเป็นหาทางให้นางเอกที่เป็นคนดีและไม่ได้ทำผิดอะไรต้องมาศีลเสมอพระเอกที่ต่ำตมแทน เกิดเป็นคำถามว่าตูจะฟีลกู้ดกับมันดีอยู่มั้ยนะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส