เชื่อว่าถึงวันนี้ หลาย ๆ คนน่าจะได้ชม Metal Lord กันไปแล้ว หนัง 3 วัยรุ่นไฮสคูลฟอร์มวง Skull Flower วงดนตรีเมทัล 3 ชิ้น กีตาร์ เบส กลอง แล้วฉากสำคัญของเรื่องก็คือฉากโชว์ท้ายเรื่อง ที่ทั้งสามได้โชว์เพลง ‘machinery of torment’ แบบเต็ม ๆ เพลงสุดมันส์ จนเราต้องโยกหัวตามผู้ชมในเรื่องไปด้วย และฉากนี้ล่ะ ที่กล้องก็จับภาพของแต่ละคนขณะกำลังโซโลแบบเมามัน ยิ่งทำให้ชวนสงสัยว่า จริง ๆ แล้วเพลงที่เราได้ชมได้ฟังนี่เป็นฝีมือของ 3 คนนี่จริง ๆ หรือไม่?

https://www.youtube.com/watch?v=BoNMfcXewgk

ถึงจะเห็นว่าเล่นกันเมามัน สมจริงขนาดนั้น แต่ที่จริงแล้ว เจเด็น มาร์เท็ล (Jaeden Martell), เอเดรียน กรีนสมิธ (Adrian Greensmith) และ ไอซิส เฮนสเวิร์ธ (Isis Hainsworth)ทั้ง 3 คนนี้ไม่เคยมีประสบการณ์กับดนตรีเมทัลมาก่อนเลย ก่อนที่จะเซ็นสัญญารับแสดงในเรื่องนี้ ถ้าจะพูดถึงประสบการณ์ดนตรี ก็เห็นจะมีเพียงกรีนสมิธ คนเดียวเท่านั้นที่เป็นนักกีตาร์แจ๊สมาก่อน

เจเด็น มาร์เท็ล (Jaeden Martell)

เจเด็น มาร์เท็ล ผู้รับบทเป็นเควิน ยอมรับก่อนเลยว่าเมทัลไม่ใช่แนวดนตรีโปรดของเขาเลย
“ผมออกแนวชอบดนตรีหวาน ๆ ฟังสบาย ๆ เสียมากกว่า อย่างเช่นแจ๊ส หรือฮิปฮอปยุค 90s ผมเป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็นนะ แต่บางครั้งเราก็ต้องการเพิ่มพลังสักหน่อยใช่ไหมล่ะ?”

เอเดรียน กรีนสมิธ (Adrian Greensmith)

เอเดรียน กรีนสมิธ ผู้รับบท ฮันเตอร์ ผู้ลุ่มหลงในดนตรีเมทัลอย่างหัวปักหัวปำ
“ผมเคยเล่นกีตาร์มาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่ผมก็เล่นแจ๊สบ้าง คลาสสิกบ้าง อะไรแนว ๆ นี้ ซึ่งมันก็สามารถต่อยอดไปเป็นดนตรีเมทัลได้ ก็นับว่าผมโชคดีนะ ผมก็รู้สึกได้เลยว่าผมจะต้องรับบทนี้ให้ได้”

ไอซิส เฮนสเวิร์ธ (Isis Hainsworth)

และคนสุดท้าย สาวน้อย ไอซิส เฮนสเวิร์ธ ผู้รับบทเป็น เอมิลี่
“ฉันไม่เคยเล่นเชลโลมาก่อนเลยครับ ไม่เคย ไม่เคย ไม่เคย มาก่อนเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นฉันจึงต้องเรียนรู้เพื่อแสดงในหนังเรื่องนี้ บอกตามตรงว่าฉันตื่นเต้นมาก แต่ตอนเล่นจริง ๆ มันก็ต้องมีทริกเล็กน้อยล่ะนะ แต่อย่างไรก็ตาม มันสนุกมาก แล้วฉันก็มีความสุขกับมันด้วยจริง ๆ”

เมื่อนักแสดงนำทั้งสามต่างก็ไม่มีประสบการณ์กับดนตรีเมทัลที่เป็นหัวใจหลักของหนัง ผู้สร้างจึงต้องหวังพึ่งบุคคลสำคัญให้มาแปรสภาพนักแสดงนำทั้งสามให้กลายเป็น นักดนตรีเมทัลให้ดูสมจริงบนหน้าจอให้ได้ และผู้ที่รับผิดชอบหน้าที่นี้ก็คือ ทอม โมเรลโล (Tom Morello) มือกีตาร์แห่งวง Rage Against the Machine ที่ ดี.บี. ไวส์ (D.B. Weiss) ผู้อำนวยการสร้างและผู้เขียนบทภาพยนตร์ มอบหมายตำแหน่งให้โมเรลโลอย่างเป็นทางการว่า “หัวหน้าที่ปรึกษาทางดนตรีเมทัล” หน้าที่นี้ก็คือ สอนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกียวกับดนตรีเมทัล ทั้งการเล่นเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น และสุนทรียศาสตร์ของดนตรีเมทัล

ทอม โมเรลโล (Tom Morello)

โมเรลโลเล่าถึงประสบการณ์ในการทำหน้าที่นี้ว่า
“เพราะว่าพวกเขาไม่ใช่คอเพลงเมทัล ฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอนให้พวกเขาเล่นเพลงเมทัลให้ถูกต้องสมจริงที่สุด แต่พวกเขาก็ทำกันออกมาได้ดีนะ ในฐานะนักแสดงเขาสามารถสื่อออกมาได้เหมือนว่าพวกเขากำลังเล่นเพลงนั้นเองจริง ๆ”

วาเนสซา ฟรีเบร์น-สมิธ (vanessa freebairn-smith)

ซึ่งกว่าจะได้ภาพบนเวทีอย่างที่เราเห็นกัน ทั้งสามก็ต้องฝึกฝนกันอย่างขมักเขม้นจริงนานนับเดือน ซึ่งพวกเขาก็ใช้เวลาหลังจากการถ่ายทำแต่ละวันนั่นล่ะ ที่มาฝึกเล่นเครื่องดนตรีที่แต่ละคนต้องเล่นในหนัง อย่างมาร์เทลนั้นก็ฝึกกับกลองชุด ส่วนเฮนสเวิร์ธก็ฝึกการเล่นเชลโล กับ วาเนสซา ฟรีเบร์น-สมิธ (vanessa freebairn-smith) นักเชลโลมืออาชีพ

แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดที่โมเรลโล เพราะสำหรับเขาแล้วการสวมบทบาทเป็นนักดนตรีเมทัลนั้นแค่เล่นถูกต้องยังไม่พอ แต่จะต้องเข้าถึงความรู้สึกของดนตรีเมทัลด้วย

“ตอนที่พวกเขาแสดงในฉากท้ายเรื่อง (ฉากบนเวที battle of the bands) ผมก็คิดว่า ‘ไม่ได้การล่ะ พวกเขาจะต้องลืมทุกอย่างไปก่อน ไม่ว่าจะเรื่องการวางนิ้วให้ถูกตำแหน่งอะไรแบบนั้น แล้วมีสมาธิกับงานแสดง”
โมเรลโลยังคงย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่นักแสดงทั้งสามจะต้องฝึกฝนเรียนรู้ก็คือการ “เข้าถึง” ดนตรีเมทัล คุณต้องยอมรับจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของดนตรีเมทัล คุณต้องปลดปล่อยความบ้าคลั่งออกมา แต่ถ้าเมื่อใดคุณคิดว่าคุณได้ทำมันมาเพียงพอแล้ว นั่นล่ะ คุณมาผิดทางแล้ว คุณยังจะต้องทุ่มเทให้มันมากกว่านี้เข้าไปอีก”

ดี.บี. ไวส์ (D.B. Weiss)

ในกระบวนการทำงานนี้ โมเรลโลจึงได้จัดทำ moodboard (แผ่นงานที่สรุปธีมไอเดียและแรงบันดาลใจ) มานำเสนอกับไวส์ ว่านี่คืออารมณ์ต่าง ๆ ที่เขาต้องการสื่อกับนักแสดงทั้งสาม บน moodboard นั้นมีภาพของ เจมส์ เฮตฟิลด์ (James Hetfield) นักร้องนำ Metallica กำลังกรีดร้อง, ภาพของเสือจากัวร์กำลังคำราม และภาพของชายที่กำลังมึน ๆ เหมือนเพิ่งโดนขวดเบียร์ตีหัวมา

โมเรลโลยังช่วยให้คำแนะนำกับเจเด็นในเรื่องการตีกลองอีกด้วย เขาส่งข้อความไปหาเจเด็นบอกว่าควรจะตีกลองให้แรงขนาดไหน
“ฉันจะไม่ตัดสินอะไรด้วยการตีความเอาเองหรอกนะ มันอยู่ที่ว่าถ้านายตีกลองแรง ๆ แล้วนายรู้สึกเจ็บ หรือว่าตีกลองแรงมาก ๆ แล้วนายมีความสุข ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ แปลว่านายได้ถูกหล่อหลอมมาจนถึงจุดที่นายจะได้หวดกลองแล้วรู้สึกเหมือนมือกลองวงเมทัลจริง ๆ แล้ว ถ้าเมื่อใดนายรู้สึกเหมอืนเป็นมือกลองวงเมทัล นายก็จะกลายสภาพเป็นเหมือนมือกลองวงเมทัลจริง ๆ แล้วล่ะ”

และเมื่อทุกความพยายามทุ่มเทส่งผลของมัน ดี.บี. ไวส์ ก็ยอมรับว่าเมื่อเขาเองเองได้ดูนักแสดงทั้งสามโชว์ออกมา เขาเองยังไม่แน่ใจเลยว่า นั่นพวกเขากำลังแสดงหรือเล่นดนตรีกันจริง ๆ
“พวกเขาหลอกผมได้สำเร็จแล้ว ซึ่งผมยอมรับเลยว่ามันออกมาดีจริง ๆ”

อ้างอิง อ้างอิง