[รีวิวซีรีส์] Cobra Kai – ซีรีส์สุดมันสานต่อเรื่องราวจาก Karate Kid
Our score
8.3

2 Seasons - 20 Episodes

นักแสดงนำ:ราล์ฟ แมคคีโอ,วิลเลียม แซบก้า,โซโล มาริดวนยา
ผู้สร้าง:จอช ฮีลด์,จอน เฮอร์วิตซ์,เฮย์เดน ชลอสเบิร์ก

จุดเด่น

  1. คงเอกลักษณ์จากหนัง Karate Kid ไว้ได้อย่างครบถ้วน
  2. ฉากแอ็กชันดุดัน
  3. เนื้อหาชวนติดตามไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่หรือเก่า

จุดสังเกต

  • บทซีรีส์ดีแค่ไหน

    8.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    8.0

  • คุณภาพนักแสดง

    8.5

  • ความสนุกน่าติดตาม

    8.5

  • ความคุ้มค่าเวลาในการชม

    8.5

เชื่อว่าใครที่ใช้ชีวิตเติบโตมาช่วงระหว่างยุค 80s – 90s คงต้องคุ้นชื่อ Karate Kid หรือ “คิด คิด ต้องสู้” หนังวัยรุ่นอเมริกันที่ขอฉีกกฎข้ามวัฒนธรรมเอาคาราเต้ศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นมาปรุงรสจนได้หนังแอ็กชันวัยรุ่นอเมริกันประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อ 2 ภาคและหนังรีบูตอีกหนึ่งเรื่องที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้เวลาจะผ่านมาร่วม 35 ปีแล้วแต่ตัวละครและเรื่องราวอันเป็นรักยังคงอยู่ในใจคอหนังเสมอมาและสัปดาห์นี้ก็มีข่าวดีเมื่อ Netflix ในภูมิภาคเราได้ฤกษ์นำ Cobra Kai ซีรีส์ที่เดินเรื่องราวต่อจาก Karate Kid ภาคแรก

และสาเหตุที่ซีรีส์ใช้ชื่อ Cobra Kai ก็เพราะว่าเรื่องราวจะมาเล่าในมุมของ จอห์นนี ลอว์เรนซ์ (วิลเลียม แซบกา) ผู้ปราชัยในศึกคาราเต้ของออลวัลเลย์ปี 1984 และชีวิตล้มเหลวในแทบทุกด้าน แต่หลังจากมีโอกาสได้ใช้คาราเต้ช่วยเหลือ มิเกล (โซโล มาริดัวญา) หนุ่มละตินที่ถูกรังแกและขอให้รับเขาเป็นศิษย์จนจอห์นนีตัดสินใจเปิดสำนัก โคบรา ไค ขึ้นใหม่และต้องต่อสู้เพื่อให้ธุรกิจสอนคาราเต้อยู่รอดในยุคที่เด็กยุคใหม่ใช้ชีวิตกับมือถือ

และแน่นอนว่าในเมื่อซีรีส์คิดจะเล่าเรื่องต่อจาก Karate Kid แล้วจะขาด แดเนียล ลารุสโซ (ราล์ฟ มัคชิโอ) อดีตคู่ต่อสู้ไปได้อย่างไร แต่ในวันนี้แดเนียลได้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจโชว์รูมรถและได้รับความนับถือจากผู้คนมากมายเขาแต่งงานและมีลูกสาววัยรุ่นสุดสวยอย่างซาแมนธา (แมรี เมาเซอร์) ที่เคยเรียนคาราเต้กับเขาเพื่อป้องกันตัว แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อซาแมนธาดันไปตกหลุมรักมิเกลแห่งสำนักโคบรา ไค และทำให้จอห์นนีกับแดเนียลต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

ความดีงามอย่างแรกของซีรีส์คือการได้ โรเบิร์ต มาร์ก คาเมน ผู้เขียนบท Karate Kid ทุกภาครวมถึงฉบับซีรีส์ปี 1989 มาเขียนบท Cobra Kai จนเราสัมผัสได้เลยว่าพอได้ผู้ให้กำเนิดมาถักทอเรื่องราวเลยทำให้จิตวิญญาณของ Karate Kid อยู่ครบในทุกตอนไม่ว่าจะเป็นการเป็นหนังวัยรุ่นใน Kobra Kai ก็มีเรื่องราวการบูลลีในโรงเรียนและเรื่องรักสามเส้าที่ถูกเล่าได้อย่างหนักแน่น

ไปจนถึงรายละเอียดจากหนังภาคแรกทั้งการแข่งคาราเต้ตอนท้ายเรื่องของหนังภาคแรกไปจนถึงคอสตูมและฉากหลังที่เหมือนย้อนวันวานไปสู่หนังภาคแรกได้อย่างสมบูรณ์ไปจนถึงการสร้างบรรยากาศแบบหนังยุค 80s ทั้งเพลงประกอบและงานภาพที่ต่อติดกับ Karate Kid ยุค 80s ได้อย่างมหัศจรรย์แต่อะไรก็ไม่ดีเท่าการที่มันไม่ได้พยายามเปลี่ยนให้จอห์นนีเป็นคนดีแต่เป็นผู้ใหญ่ล้มเหลวที่หาทางกลับมายืนด้วยสองขาของตัวเองในขณะที่มีภาพในอดีตคอยหลอกหลอนอยู่ที่ทำให้คนดูพร้อมเอาใจช่วยแม้จะมีช่วงเวลาที่เขาเกเรอยู่บ้างก็ตาม

หรือจะเป็นในส่วนของฉากแอ็กชันที่ต้องยอมรับว่าที่ซีรีส์ได้เสนอชื่อชิงรางวัลด้านสตันท์ 2 ปีซ้อนรางวัล Emmy Primetime ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะเหมือนผู้สร้างรู้ว่ากำลังทำซีรีส์ให้คนดูในยุคที่คุ้นเคยกับงานสตันท์แบบ John Wick ดังนั้นฉากแอ็กชันของซีรีส์เลยออกมาดุดันสะใจและเหมือนจะเพิ่มเรตให้ดูรุนแรงกว่าฉบับหนังเสียอีก แนะนำหนัก ๆ สำหรับฉากคาราเต้ตะลุมบอนซัดกันนัวในโรงเรียนของซีซัน 2 ที่ทำออกมาบ้าระห่ำมาก

นอกจากนี้เรายังต้องยอมรับว่า Cobra Kai ไม่ได้มีดีแค่เอาจุดเด่นของหนังมาใส่ในซีรีส์เท่านั้น แต่มันเอาใจใส่กับการสร้างตัวละครมาก ๆ นอกจากจะลุ้นให้จอห์นนี กับ แดเนียล ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว เหล่าบรรดาวัยรุ่นหน้าตาดีและพกฝีมือการแสดงมาเต็ม ๆ ก็มีส่วนทำให้ตัวละครต่าง ๆ ในซีรีส์มีชีวิตและทำให้เราต้องทำให้ลุ้นไปกับพวกเขาทั้งสังเวียนคาราเต้และสังเวียนชีวิต

ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะได้ ราล์ฟ มักชีโอ กับ วิลเลียม แซบกา กลับมาเป็น แดเนียล กับ จอห์นนี่ ที่คราวนี้ต้องรับมือกับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่และยังต้องดำรงศักดิ์ศรีของกีฬาคาราเต้แล้ว ด้านนักแสดงรุ่นเยาว์ก็น่าจับตามองไม่น้อยเริ่มที่ 2 หนุ่มหล่ออย่าง โซโล มาริดัวญา ในบทมิเกลศิษย์ของจอห์นนี และ แทนเนอร์ บูคาเนน ในบทรอบบี คีน ลูกชายของจอห์นนีที่ไปเป็นศิษย์เอกของแดเนียล ที่บอกเลยว่า 2 หนุ่มไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่ยังถ่ายทอดบทของลูกผู้ชายต้องสู้ออกมาได้ถึงกึ๋น

และไม่ได้มีเพียงนักแสดงหนุ่ม ๆ เท่านั้นแต่ 2 สาวทั้ง แมรี เมาเซอร์ ในบทซาแมนธาลูกสาวของแดเนียลที่เป็นที่หมายปองของทั้งมิเกลกับรอบบี และ เพย์ตัน ลิสต์ ในบททอรี แฟนสาวนักบู๊ของมิเกลก็ทำให้ซีรีส์ได้มีซีนคาราเต้และซีนปะทะของทั้ง 2 สาวเติมความแซ่บให้ซีรีส์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมถึงบรรดาตัวละครแวดล้อมที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วยอีกเพียบ

ตอนนี้ทาง Netflix ได้สตรีมซีรีส์ Cobra Kai ครบ 2 ซีซันแล้วและได้ประกาศสร้างซีซัน 3 ต่อซี่งบอกเลยว่าการทิ้งท้ายของซีซัน 2 ชวนให้ติดตามชะตากรรมของพวกเขามาก ๆ ดังนี้อย่ารอช้าคลิกที่ภาพด้านล่างแล้วไปดูกันเลย

WHAT THE FACT รีวืวซีรีส์ COBRA KAI
คลิกเพื่อดู COBRA KAI บน Netflix

ตัวอย่างซีรีส์ซีซัน 1

ตัวอย่างซีรีส์ซีซัน 2

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส