การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถ้าใช้ไม่ดีใช้ไม่เป็นก็อาจจะส่งผลเสียได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม ซึ่งผลดีผลเสียหลายคนก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ล่าสุดมีการศึกษาระยะยาวครั้งใหม่โดยนักวิจัยที่ NYU พบว่าการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำของผู้สูงอายุมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของภาวะสมองเสื่อมได้ แต่เป็นเรื่องของการสร้างสมดุล โดยมีหลักฐานว่าการใช้งานมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพการรับรู้

ปกติของสมองมนุษย์จะมีความสามารถและหน้าที่เป็นศูนย์กลางในร่างกายเช่น การแก้ปัญหา ความเร็วในการตอบสนอง การควบคุมและรับรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งสามารถสั่งการจัดการไปยังอวัยวะอื่น ๆ ได้ โดยจะมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงวัยรุ่นกลาง ๆ ประมาณ 25 เป็นต้นไปและจะลดลงเรื่อย ๆ ไปจนถึงอายุ 60 ปี เมื่อหลาย ๆ อย่างเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วแต่ในทางกลับกัน ความสามารถที่ตกผลึกซึ่งรวมถึงความรู้และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมโดยต้องอาศัยความจำระยะยาวกลับเพิ่มขึ้นความชราและโรคภัยส่งผลน้อยมากกับสิ่งเหล่านี้

ในการศึกษาครั้งนี้นักวิจัยได้ติดตามผู้ใหญ่กว่า 18,154 คนที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อมโดยมีอายุระหว่าง 50 ถึง 65 ปีเป็นระยะเวลาในการวิจัยสูงสุด 17 ปี (เวลาเฉลี่ยประมาณ 8 ปี) การทำงานด้านความรู้ความเข้าใจของผู้เข้าร่วมได้รับการทดสอบระหว่างการสัมภาษณ์ปีละ 2 ครั้ง โดยพวกเขาจะถูกถามด้วยว่าใช้อินเทอร์เน็ตบ่อยแค่ไหน และแยกเป็นผู้ใช้ “เป็นประจำ” และ “ไม่ประจำ”

นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ออนไลน์ 6-8 ชั่วโมงต่อวันมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะสมองเสื่อม แต่การค้นพบนี้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ พวกเขากล่าว และจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม นักวิจัยยังไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อม ดังนั้นงานวิจัยใหม่จึงไม่สามารถระบุความเชื่อมโยงที่แน่นอนระหว่างการใช้อินเทอร์เน็ตกับสุขภาพของสมองได้ ผู้ร่วมวิจัย Dr. Virginia W. Chang กล่าวว่า “การมีส่วนร่วมทางออนไลน์อาจช่วยในการพัฒนาและรักษาระดับความรู้ความเข้าใจ ซึ่งจะช่วยชดเชยความชราของสมองและลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมได้”

การศึกษายังไม่ได้พิจารณาว่าผู้คนกำลังสำรวจอะไรให้ความสนใจด้านไหนบนโลกออนไลน์ ถึงแม้ว่าปัจจุบันไวรัลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตจะเต็มไปด้วยวิดีโอเกี่ยวกับแมวและทฤษฎีสมคบคิดแต่ก็สามารถกระตุ้นสติปัญญาได้เช่นกัน และการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าการกระตุ้นทางสติปัญญาอาจช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ ซึ่งการศึกษาในปี 2020 พบความสัมพันธ์ระหว่างงานที่กระตุ้นการรับรู้และความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม

ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ประมาณ 6.2 ล้านคนเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ระบุตัวเลขดังกล่าวและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา newatlas, CNN