SCBX ประกาศความสำเร็จในการยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญที่พัฒนาโดย SCBX R&D and Innovation Lab ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างมีความรับผิดชอบ ปลอดภัย โปร่งใส และเตรียมความพร้อมรับมือหลังยุคควอนตัม 

โดยสิทธิบัตรทั้ง 3 ฉบับครอบคลุมประเด็นสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่

  1. การคุ้มครองลูกค้าผ่านเทคโนโลยีแปลงเสียงเป็นข้อความเพื่อตรวจจับพฤติกรรมการขาย
  2. ควบคุมคุณภาพบริการ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้วยระบบฝึกอบรมพนักงานด้วยการจำลองบทสนทนากับ AI เพื่อยกระดับทักษะการสื่อสารและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
  3. การทำกรอบการประเมินเครดิตที่ใช้เทคโนโลยี Post-Quantum Cryptography และ Zero-Knowledge Proof เพื่อให้กรอบการประเมินเครดิตที่ขับเคลื่อนด้วย Privacy-Preserving Technologies ที่ช่วยให้ทั้งภาคการเงินและธุรกิจ Non-Bank

เปิด 3 สิทธิบัตร AI เปลี่ยนโลกการเงินของกลุ่ม SCBX

นวัตกรรมที่ยื่นจดสิทธิบัตรในครั้งนี้ มุ่งเน้นการแก้ปัญหาจริงในภาคธุรกิจและเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามในอนาคต ประกอบไปด้วย

  1. Voice-to-Understanding : ระบบแปลงบทสนทนาระหว่างลูกค้าและพนักงานเป็นข้อความโดยใช้เทคโนโลยีการรู้จำเสียงอัตโนมัติ (ASR)ที่มีการปรับแต่งสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะและการวิเคราะห์ด้วย LLM ช่วยตรวจจับการละเมิดกฎระเบียบการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ และช่องว่างด้านการควบคุมคุณภาพการให้บริการแบบอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถติดตามพฤติกรรมการขายของพนักงานได้เร็วขึ้นและมีความสม่ำเสมอมากขึ้น ปัจจุบันได้นำมาใช้งานจริงที่ AutoX และ CardX ภายใต้กลุ่มSCBX เพื่อเสริมความโปร่งใสและความมั่นคงในการดำเนินงาน
  2. Voice-to-Voice AI Trainer : ระบบจำลองการสนทนาด้วย AI เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและการปฏิบัติตามกฎระเบียบของพนักงานแนวหน้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ระบบจะปรับคำถามและประเมินความถูกต้องและความครบถ้วนของข้อมูลแบบไดนามิก เทคโนโลยีนี้ช่วยสนับสนุนโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับ RM ตัวแทน และทีมขายของบริษัทภายใต้กลุ่มSCBX
  3. Distributed Credit Scoring : ปลอดภัยด้วย Post-Quantum Cryptography (PQC) และ Zero-Knowledge Proof (ZKP) กรอบการประเมินเครดิตสกอร์ที่ช่วยให้ทั้งภาคการเงินและธุรกิจ Non-bank (เช่น โทรคมนาคม, รีเทล)สามารถคำนวณคะแนนเครดิตร่วมกันโดยไม่ต้องแชร์ข้อมูลดิบของลูกค้า ด้วยการใช้เทคโนโลยี PQCและZKPเพื่อป้องกันภัยจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ สร้างรากฐานสำหรับโครงสร้างพื้นฐานการให้คะแนนเครดิตที่คุ้มครองความเป็นส่วนตัวในอนาคต

ก้าวต่อไปของ SCBX

นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) และ Chief Executive Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด กล่าวว่า การจดสิทธิบัตรครั้งนี้คือการสร้างรากฐานทรัพย์สินทางปัญญาที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล ท่ามกลางยุคที่ AI และ Quantum Computing กำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรม

ด้าน ดร.ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ Head of R&D บริษัท SCBX เสริมว่า นี่คือหลักฐานของการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างเครื่องยนต์นวัตกรรม ให้กลุ่ม SCBX มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ตั้งแต่ระบบ AI ที่ตรวจสอบการโต้ตอบกับลูกค้าไปจนถึงการประเมินเครดิตที่ป้องกันภัยจากควอนตัม และพิสูจน์ว่าสถาบันการเงินไทยสามารถสร้างเทคโนโลยีระดับโลกที่ทนทานต่อกาลเวลาได้

ขณะที่ นางสาววีรินท์ ฉันทโรจน์ Head of Innovation บริษัท SCBX ทิ้งท้ายว่า นวัตกรรมเหล่านี้เกิดจากการแก้ปัญหาหน้างานจริง (Pain Points) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงสร้างมูลค่าทางธุรกิจ แต่ยังเป็นรากฐานในการขยายผลเทคโนโลยี AI ไปใช้ทั่วทั้งกลุ่มธุรกิจต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่ม SCBX R&D ยืนยันที่จะเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในทุกระดับองค์กร เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเงินที่สำคัญของภูมิภาคต่อไป