Google ออกมายอมรับว่า ลูกค้าโฆษณาออนไลน์มีสิทธิ์สูญเงินให้กับโฆษณาเกินกว่าครึ่งที่อาจไม่มีใครเห็นมันเลย
A Google search page is reflected in sunglasses in this photo illustration taken in Brussels
จุดอ่อนข้อนึงของโฆษณาออนไลน์ (Online advertising) คือ มันไม่สามารถตอบได้แน่นอนว่าโฆษณาตัวนั้นๆที่ลงไปถูกเห็นโดยมนุษย์หรือไม่

ล่าสุด Google ก็ได้ออกมายอมรับว่า โฆษณาเกินกว่าครึ่งนั้น ไม่เคยโผล่มาให้เห็นบนจอเลยแม้แต่วินาทีเดียว

Screen Shot 2557-12-07 at 8.15.09 PM
ภาพอินโฟกราฟิคหัวข้อ “Five Factors of Viewabilities” ของ Google เอง ระบุว่า

“many display ads that are served never actually have the opportunity to be seen by a user.” หรือ โฆษราจำนวนมากไม่มีโอกาสจะปรากฎให้ผู้ใช้งานได้เห็นเลย

โดยอัตราส่วนที่แท้จริงอยู่ที่ 56.1% ของโฆษณาทั้งหมดที่ Google และ DoubleClick ทำการแสดงให้เห็น และ comScore ได้ประมาณการว่า มีโฆษณาอีกประมาณ 46.1%  ที่ไม่มีไม่ถูกนำไปแสดง

ซึ่ง Google ได้ให้นิยาม เกี่ยวกับการโฆษณาออนไลน์ (โดยอ้างอิงคำนิยามจาก Media Rating Council) ว่า โฆษณาที่มองเห็นได้คือ . . . “when 50 percent of an ad’s pixels are in view on the screen for a minimum of one second.” หรือ เมื่อ 50% ของโฆษณาตัวนั้นได้ปรากฎอยู่บนหน้าจอ 1 วินาที เป็นอย่างน้อย

และยังให้เหตุผลเกี่ยวกับพวกโฆษณาที่ไม่ถูกเห็น (non-viewabilities) ว่า

  • ผู้ใช้งานอาจจะเลื่อนผ่านไปเอง ทำให้ไม่เห็นโฆษณาตัวนั้นๆ
  • มันอาจไม่ถูกนำไปแสดงผลจริงๆ
  • มันถูกนำไปแสดงผลแล้ว แต่คนดู (viewer) กลับเป็น software bot

Screen Shot 2557-12-07 at 8.50.17 PM

โฆษณาออนไลน์แบบ Below-the-fold หรือ โฆษณาแบบที่ผู้ใช้งานต้องเลื่อนลงไปดูเอง ย่อมมีสิทธิ์ถูก view น้อยเป็นปกติ ซึ่งโฆษณาประเภทนี้นั้นมีอัตราที่ไม่มีคนมองเห็นสูงถึง 60% เลยทีเดียว

ส่วนโฆษณาออนไลน์แบบ Above-the-fold ก็ไม่ถูก view ถึง 32% (ตำแหน่งที่โฆษณาจะถูกมองเห็นมากที่สุด เรียกว่า right above the fold . . . เหมือนอยู่ถูกที่ถูกเวลา)

สำหรับอินโฟกราฟิค “Five Factors of Viewabilities” สามารถดูได้ที่นี่ >> 5 factors of viewability <<

เมื่อความจริงเรื่องการแสดงผลโฆณาออนไลน์ปรากฎ เชื่อว่าลูกค้าโฆษณาหลายคนก็คงเปลี่ยนจ่ายเงินให้สื่ออื่นๆที่โฆษณาของตัวจะถูกเห็นให้มากขึ้น ให้คุ้มเงินที่จ่ายไป

ที่มา : venturebeatQZ