Digital Chat Station ทิปสเตอร์จากประเทศจีน ได้โพสต์บน Weibo แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของประเทศจีน เปิดเผยรายงานล่าสุด อ้างว่า บริษัทผู้พัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) รายใหญ่ทุกแบรนด์ จะเปิดตัวชิปเซตระดับเรือธงรุ่นใหม่ในครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งนอกจาก Apple, Qualcomm และ MediaTek แล้วนั้น ก็จะมี Huawei รวมอยู่ด้วย
Digital Chat Station อ้างว่า Apple จะเปิดตัวชิปเซตเรือธง A19 Pro ในเดือนกันยายน 2025 ซึ่งจะเป็นกำหนดการเดิมที่ Apple ใช้เป็นประจำทุกปี ในขณะที่ Qualcomm นั้น คาดว่าจะเปิดตัวชิปเซตรุ่นถัดไปอย่าง Snapdragon 8 Elite 2 (หมายเลขรุ่น SM8850) ถัดจาก Apple เล็กน้อย
ทั้ง A19 Pro และ Snapdragon 8 Elite 2 นั้น คาดว่าจะได้รับการผลิตด้วยกระบวนการ N3P ระดับ 3 นาโนเมตร ของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company, Limited) บริษัทผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งทาง Digital Chat Station อ้างว่า ชิปเซตทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมความเร็วในประมวลผลสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา และปรับปรุงการจัดการพลังงานให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน
สำหรับ Dimensity 9500 ของ MediaTek นั้น คาดว่าจะได้รับการเปิดตัวในปลายเดือนกันยายน 2025 ในขณะที่ Kirin 9030 ของ Huawei นั้น มีรายงานว่าจะเปิดตัวในช่วงสิ้นปี 2025 แต่ยังไม่มีการเผยข้อมูลสเปกที่ชัดเจนของ Kirin 9030 ให้ทราบในขณะนี้แต่อย่างใด

หากข้อมูลข้างต้นแม่นยำ จะหมายความว่า ชิปเซตเรือธงเหล่านี้จะได้สู่ตลาดพร้อมกับสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นถัดไปในปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026
อย่างไรก็ดี แบรนด์เทคโนโลยีรายหนึ่งที่หายไปในการแข่งขันครั้งนี้ คือ Xiaomi
Xiaomi นั้น เป็นหนึ่งในแบรนด์เทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากประเทศจีน (เช่นเดียวกับ Huawei) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวชิปเซต XRING O1 ที่ทางแบรนด์ได้ออกแบบและพัฒนาเองเป็นรุ่นแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา โดยได้รับการผลิตด้วยกระบวนการ N3E ระดับ 3 นาโนเมตร รุ่นที่ 2 ของ TSMC และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.90 GHz
Digital Chat Station อ้างว่า เหลย จวิน (Lei Jun) ผู้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ Xiaomi มิได้คาดว่า XRING O1 จะมีประสิทธิภาพการทำงานที่น่าประทับใจเช่นนี้ และได้รับความสนใจจากสื่อต่าง ๆ มากมาย จึงยังมิได้วางแผนพัฒนารุ่นที่ 2 ในทันที แต่ทางทิปสเตอร์อ้างว่า XRING O2 จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้มีรายงานจาก IT Homes อ้างว่า Apple ยังเตรียมเปิดตัวชิปเซตระดับพรีเมียมรุ่น M5 ในปลายปี 2025 นี้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นขุมพลังขับเคลื่อน iPad Pro และ MacBook Pro รุ่นใหม่