เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน (ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ) หุ้นของ Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของ Elon Musk ได้ทำราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยปิดตลาดที่ราคา 521.85 เหรียญฯ ต่อหุ้น (ปรับตัวมากขึ้นถึง 506% ใน 1 ปี) ซึ่งส่งผลให้มูลค่าบริษัท Tesla เพิ่มขึ้นวันเดียว 7,240 ล้านเหรียญฯ หรือราว 219,679 ล้านบาท และส่งผลให้ทรัพย์สินสุทธิของ Elon Musk ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พุ่งสูงขึ้นกว่า 100,300 ล้านเหรียญฯ หรือกว่า 3 ล้านล้านบาทภายในปีเดียว รวมถึงทำให้เขามีทรัพย์สินที่ได้รับการประเมินรวมกันแล้วเป็นมูลค่า 128,000 ล้านเหรียญฯ  หรือกว่า 3.8 ล้านล้านบาท

นั่นทำให้เขาขึ้นแท่นมหาเศรษฐีรวยสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก แซงหน้า Bill Gates แห่ง Microsoft, Mark Zuckerberg แห่ง Facebook และ Warren Buffett นักลงทุนหุ้นในตำนาน แต่ยังตามหลังเพียงคนเดียวคือ มหาเศรษฐี Jeff Bezos CEO ของ Amazon ที่มีทรัพย์สินที่ได้รับการประเมินแล้ว รวมกว่า 182,000 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 5.52 ล้านล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาเคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการมีสินทรัพย์รวมทะลุหลัก 200,000 ล้านเหรียญฯ ได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลกก่อนจะมีการขายหุ้น Amazon ออกไปเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้

นอกจากนี้เมื่อเทียบกับการจัดอันดับของดัชนีมหาเศรษฐีโลกของ Bloomberg Billionaires Index ตอนเดือนมกราคมนั้น เขาเพิ่งจะอยู่อันดับที่ 35 ซึ่งเท่ากับว่าเขากระโดดข้ามมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกมาถึง 33 คนเลยทีเดียว โดยนักวิเคราะห์มองว่า หุ้นของ Tesla ที่มีมูลค่าในตลาดเพิ่งขึ้นนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จในการส่งมอบรถยนต์ที่ทำได้ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ในปีนี้ และยังได้รับผลดีจากนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ อย่าง Joe Biden ด้วย นอกจากนี้Tesla สามารถทำกำไรได้ 5 ไตรมาสติดต่อกัน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส