หลังจากที่ทางภาครัฐฯ ได้ประกาศ #เลิกสำเนา แล้วไม่นาน วันนี้หน่วยงานรัฐฯ ก็ประกาศข่าวดีอีกเรื่องในด้านการผลักดันประเทศสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการจับมือสตาร์ทอัพสัญชาติไทย บริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด (Creden) ผู้สร้างระบบใช้เอกสารและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Document &Signature) เพื่อผลักดันและส่งเสริมทุกภาคส่วน ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับต่างชาติ สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยมีกรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ร่วมลงนามข้อตกลงในครั้งนี้

สิ่งที่ Creden ทำคือ ให้คุณเข้ามาทำการลงทะเบียนข้อมูลส่วนบุคคล + หน้าของผู้ยืนยันตัวตน เพื่อสร้างเอกสารสำหรับลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้ภายใน 1 นาที และสามารถนำไปใช้กับเอกสารราชการต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน โดยจุดสำคัญของระบบนี้คือการมีส่วนช่วยในด้านลดการใช้กระดาษลงอย่างมาก และยังสามารถเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินการ โดยนำเอาเอกสารที่เข้าสู่ระบบแล้ว เมื่อส่งเอกสารให้กับผู้มีอำนาจได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา สามารถเซ็นต์เอกสารผ่านมือถือหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ทันที และข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่บน Blockchain จึงมั่นใจได้ว่าไม่ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน และระบบทุกอย่างได้รับมาตรฐานจาก ETDA จึงแน่ใจได้ว่าเอกสารทั้งหมดที่ดำเนินการผ่าน Creden จะสามารถนำไปใช้กับภาครัฐฯ ที่รองรับได้ทั้งหมด พร้อมประทับรับรองเวลาอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรับรองการมีอยู่ของเอกสาร ณ เวลานั้น ๆ อีกด้วย

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “ในวันนี้ผมมีความยินดีที่ได้เห็นบริษัทสตาร์ทอัพของคนไทยอย่าง บริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด ซึ่งได้ริเริ่มธุรกิจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลโดยให้บริการสร้างเอกสารและลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทางออนไลน์ ซึ่งบริการดังกล่าวนับเป็นบริการที่มีความสำคัญสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ รวมถึงนโยบาย Thailand 4.0 ในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะระบบราชการต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการทำงานใหม่ ต้องปรับตัวเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล (Digitalization) นำเทคโนโลยีที่มีมาบูรณาการและช่วยอํานวยความสะดวกให้ประชาชน ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายการลดการใช้กระดาษในองค์กร ตามมติคณะรัฐมนตรี จะช่วยให้ลดปริมาณขยะ ลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของภาครัฐ สร้างความสะดวกในการทำงานยิ่งขึ้น

คุณ ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงในครังนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ ครีเดน ในการร่วมมือกับภาครัฐเพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในองค์กร การให้บริการประชาชน และเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจสามารถแข่งขันกับต่างประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรม

โดยบริการของครีเดนนั้นจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการระบุตัวตน (Identification) และ พิสูจน์ตัวตน (Verification) ด้วยระบบการยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (eKYC) และระบบการจัดการเอกสารและลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้จริงตามกฎหมาย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการของครีเดนในการทำธุรกรรมออนไลน์ได้

ซึ่งครีเดนได้มีการร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA  กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการประทับรับรองเวลาเพื่อยืนยันว่าเอกสารมีความถูกต้อง การทำประทับเวลาจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้เอกสารว่าเป็นเอกสารจริงที่มีตัวตน ณ เวลาประทับ  และบริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เป็นต้น ในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ใช้เอกสารและลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ในการขอรับบริการกับหน่วยงานต่างๆ ข้างต้น

ภายในงานมีการเสวนาในหัวข้อ “ก้าวสำคัญของภาครัฐสู่ยุคดิจิทัล” โดยมีตัวแทนหน่วยงานจากภาครัฐที่ร่วม     ลงนามความร่วมมือดังกล่าว อาทิ คุณภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รศ.นพ.ประยุทธ ศิริวงษ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล และผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)  ได้ร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเกี่ยวกับการนำระบบเอกสารและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่องค์กรและประชาชนเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างยั่งยืน

ครีเดนเป็นผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (eKYC) ระบบจัดการเอกสารและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Document &Signature) และระบบประเมินความสามารถทางการเงิน (Credit Scoring) โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตน (eKYC) เพื่อระบุตัวตน (Identification) และพิสูจน์ตัวตน (Verification) ของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง โดยเป็นการตรวจสอบความถูกต้องกับหน่วยงานรัฐ ตามประกาศข้อเสนอแนะมาตรฐานฯ แนวทางการใช้ดิจิทัลไอดีสำหรับประเทศไทย
  2. ระบบจัดการเอกสารและลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Document &Signature) เป็นการจัดทำและลงลายมือชื่อเอกสารที่อยู่ในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลผู้เป็นเจ้าของลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือแสดงตนเป็นเจ้าของของข้อความและรวมถึงการยอมรับในข้อความหรือข้อมูลในอิเล็กทรอนิกส์ด้วย เป็นตาม พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
  3. ระบบประเมินความสามารถทางการเงิน (Credit Scoring) เป็นระบบในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงขององค์กร หรือบุคคลทั่วไป จากข้อมูลที่มี เช่น งบการเงิน ความเกี่ยวข้องของผู้บริหาร เป็นต้น

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://creden.co/ เพื่อทดสอบระบบได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ