จุดอ่อนสำคัญของ Firefox คือไม่ได้แยกส่วนประมวลผลของแต่ละหน้าเว็บออกจากกัน ทำให้เมื่อเว็บหนึ่งล่ม (โดยเฉพาะเว็บ facebook) ก็ทำให้ Firefox ล่ม ปิดตัวเองไปทั้งหมดเลย รวมถึงประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่าเบราว์เซอร์อย่าง Chrome และ Edge ที่แยกโปรเซสแต่ละแท็บตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก ทำให้หลายคนเลิกใช้ Firefox ไป (แอดมินก็เป็นหนึ่งในนั้น) แต่ตอนนี้ Firefox 54 เวอร์ชั่นล่าสุดได้แก้ไขเรื่องนี้แล้ว

โปรเจกการแยกส่วนประมวลผลหน้าเว็บออกจากกันนี้มีชื่อว่า Electrolysis (E10S) เริ่มพัฒนากันตั้งแต่ 8 ปีก่อน ก็ประมาณช่วงเดียวกับที่ Google Chrome ออกเวอร์ชั่นแรก โดยประสบความสำเร็จขั้นแรกใน Firefox 48 ที่สามารถแยกการทำงานของตัวเบราว์เซอร์กับเนื้อหาได้ และใน Firefox 54 ก็ประสบความสำเร็จในขั้นที่สอง สามารถแยกการทำงานของแต่ละแท็บออกจากกันได้

จุดเด่นที่ Mozilla ผู้สร้าง Firefox ออกมาเคลมคือ กระบวนการแยกการทำงานระหว่างแท็บของ Firefox นั้นกินแรมน้อยกว่า Chrome และ Microsoft Edge ในทุกแพลทฟอร์ม เพราะใน Google Chrome ทุกแท็บใหม่ก็จะมีโปรเซสแยกออกไปเลย ทำให้กินแรมเยอะมาก แต่สำหรับ firefox แล้วจะจำกัดจำนวนโปรเซสเอาไว้ 4 โปรเซส เมื่อเปิดเว็บไปเรื่อยๆ ก็จะแบ่งกันไปใน 4 โปรเซสนี้ ทำให้ไม่กินแรมเยอะเท่ากับการเปิดแยกกันทั้งหมด

ซึ่งสำหรับใครที่ใช้คอมพิวเตอร์ที่มีแรมมากกว่า 8 GB ก็สามารถเข้าหน้า About:config แล้วหาพารามิเตอร์ dom.ipc.processCount เพื่อเปลี่ยนจำนวนโปรเซสได้ รวมถึงใครที่เข้าไปดูแล้วขึ้นแค่ 1 ก็ลองเปลี่ยนเป็น 4 เพื่อเริ่มต้นใช้งานการแบ่งโปรเซสนี้ได้ เพราะ Firefox ยังไม่ได้เปิดการทำงานอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้ทุกคน

เข้าไปแก้ตรงนี้เลย

สำหรับแผนการต่อไปของโปรเจก Electrolysis ในขั้นที่ 3 คือแยกการทำงานของ Extension ออกมา เพื่อให้ Firefox เสถียรขึ้นครับ ก็ต้องรอชมผลงานกันต่อไป

แฟนๆ แบไต๋ใครลอง Firefox 54 แล้วรู้สึกมันเป็นยังไงบ้าง มาเล่าให้ฟังกันได้ครับว่ามันลื่นขึ้น มันกินแรมมากขึ้น หรือมันยังไง

อ้างอิง: Arstechnica