ตำรวจจีนตรวจสอบเข้มงวด โดยจับกุมผู้ต้องหาอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ไปแล้วกว่า 15,000 คน

สัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนได้ออกมากล่าวว่า พวกเขาได้จับกุมผู้กระทำผิดในคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ไปแล้วกว่า 15,000 คนแล้ว เนื่องจากรัฐบาลเริ่มมีมาตรการคุมเข้มบนอินเตอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น

ตั้งแต่ที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนคนปัจจุบัน ได้เพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามอาชญกรรมบนโลกออนไลน์มากขึ้นตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งทางพรรคคอมมิวนิสต์เอง หรือแม้แต่นักวิจัย นักวิชาการก็เห็นด้วยที่รัฐบาลเข้ามาคุมเข้มและควบคุมในจุดนี้มากยิ่งขึ้น

โดยทางตำรวจได้สืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมบนโลกไซเบอร์ไปแล้วกว่า 7,400 คดีด้วยกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มาจาก website ของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (ตัวเลขดังกล่าว ไม่ได้มีการระบุแน่ชัดว่า ข้อมูลเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เป็นข้อมูลถึงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา)

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้เปิดตัวโครงการ “Cleaning the Internet” ซึ่งเป็นโครงการที่มีระยะเวลา 6 เดือนด้วยกัน

ขั้นต่อไปของโครงการ มาตรการความปลอดภัยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และบทลงโทษของผู้ที่กระทำความผิดก็จะรุนแรงขึ้น

เป้าหมายของโครงการนี้เล็งไปการล้มล้างอาชญากรบนโลกอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ๆ หรือพวกมาเฟียบนโลกไซเบอร์ให้หมดไปด้วย

ทางตำรวจได้กวาดล้าง website ที่ผิดกฏหมาย และให้ข้อมูลที่เป็นอันตรายไปแล้วกว่า 66,000 เว็บ ซึ่งประกอบไปด้วย เว็บที่มีการโฆษณาภาพลามกอนาจาร , การพนัน และ เว็บที่เกี่ยวกับอาวุธต่างๆ เป็นต้น

ทางการจีนได้ทำการรันเครื่องมือที่ช่วยเซนเซอร์บนโลกออนไลน์ที่มีความซับซ้อนที่สุดตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า “Great Firewall” โดยตัวเซนเซอร์จะคอยตรวจสอบข้อมูลที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะข้อมูลที่ล่อแหลม และผิดกฏของพรรคคอมมิวนิสต์

ในเดือนกุมภาพันธ์ หน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตของจีนจะทำการแบน account ปลอม ไม่ว่าจะปลอมเป็นบุคคล หรือปลอมเป็นองค์กรก็ตาม พร้อมทั้งยังบังคับให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเปลี่ยนไปใช้ชื่อจริง เมื่อทำการลงทะเบียนใช้งาน online account

ที่มา : reuters
รูปจาก : sophosnews