ถ้าหาก Fitness Tracker (Fitbit, Garmin หรือ Polar) ทำงานผิดปกติ เช่น มีการวัดอัตราการเต้นของหัวในที่ผิดปกติ หรือการเผาผลาญแคลลอรี่สูงผิดปกติ สามารถอนุมานได้ว่า Fitness Tracker ของท่านอาจจะเสีย หรือคุณอาจจะกำลังตั้งครรภ์ก็เป็นได้

ผู้ที่ใช้ Reddit ได้โพสต์เกี่ยวกับภรรยาของเขาที่ใช้ Fitness Tracker อย่าง Fitbit ในการออกกำลังกาย และพบว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผลการแสดงอัตราการเต้นของหัวใจเธอนั้นอยู่โซนการเผาผลาญไขมัน (Fat Burn Zone) นาน 10 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะอัตราการเผาผลาญแคลลอรี่ของเธอนั้นปกติ

ผู้ใช้ Reddit ที่ได้อ่านบางท่านได้แนะนำให้พิจารณาที่ประเด็นอื่นว่า ภรรยาของท่านอาจจะมีปัญหาที่ส่งผลต่อความเครียดเป็นอย่างมากหรือเป็นไปได้ว่าเธออาจจะตั้งครรภ์

และเมื่อเจ้าของกระทู้ได้พาภรรยาไปตรวจสอบก็พบว่าเธอตั้งครรภ์จริงๆ

image

นับว่าเป็นการดีที่ Fitness Tracker สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ และผู้ใช้สามารถสังเกตความผิดปกติและสามารถคาดเดาสาเหตุต่างๆได้ด้วยตนเอง ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีแค่การคาดเดาว่าผู้ใช้นั้นกำลังตั้งครรภ์หรือไม่เท่านั้น แต่กับโรคหัวใจ เบาหวาน หรือไทรอยด์ ก็สามารถทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นมากกว่าปกติได้เช่นกัน อันจะนำไปสู่การรักษาได้อย่างทันท่วงที

เป็นเรื่องที่เราทราบกันดีว่า Fitness Tracker ในปัจจุบันนั้น ได้พัฒนาความสามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจได้ค่อนข้างแม่นยำ 90 – 98 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับแบบเดิมที่ต้องอาศัยเซ็นเซอร์คาดหน้าอกช่วยเสริม

image

แน่นอนว่าค่าการวัดอัตรการเต้นของหัวใจนั้นสามารถคลาดเคลื่อนได้ ทั้งแบบที่สวมใส่ข้อมือหรือแบบคาดหน้าอก คือ ในกรณีที่ผิวหนังของเราแห้งจนเกินไป หรืออากาศเย็นเกินไป ค่าที่วัดจะออกมาสูงกว่าปกติมาก ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปเมื่อเราเริ่มออกกำลังกายไปสักระยะให้เหงื่อไหลออกมากๆ หรือนำน้ำมาลูบบริเวณผิวหนังที่เซ็นเซอร์สัมผัส แล้วเซ็นเซอร์จะค่อยๆปรับการตรวจจับให้ถูกต้อง

ที่มา : MSN.com