ผลการทดสอบใหม่จากห้องปฏิบัติการหรือเรียกง่าย ๆ ว่าห้องแล็บพบว่ากล้องของ Samsung Galaxy S20 Ultra นั้นมีปัญหาตั้งแต่ฮาร์ดแวร์เป็นพื้นฐาน นั่นหมายความว่าแม้ Samsung จะปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ออกมาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้ทั้งสิ้น

นับตั้งแต่ Samsung เปิดตัว Galaxy S20 Ultra เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทได้ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่สำหรับเรือธงสองครั้ง ซึ่งซอฟต์แวร์อัปเดตดังกล่าวเน้นปรับปรุงคุณภาพของกล้อง แต่จากการทดสอบของ DxOMark พบว่าประสิทธิภาพของ Galaxy S20 Ultra นั้นค่อนข้างไม่ดีนัก

ปัญหากล้องใน Galaxy S20 Ultra

  • ระบบออโต้โฟกัส: จากการทดสอบของ DxOMark พบว่าระบบออโต้โฟกัสของ Galaxy S20 Ultra มีปัญหาเป็นอย่างมากในที่แสงน้อย ใช้เวลาในการโฟกัสนานกว่า Huawei P40 และเรือธงรุ่นเก่าอย่าง Galaxy Note 10+
  • ระบบซูม: ถึงแม้ว่า Galaxy S20 Ultra จะมีความสามารถซูมได้ระยะไกลถึง 100 เท่า แต่ผลการทดสอบพบว่าประสิทธิภาพที่ได้ออกมานั้นยังไม่ดีพอ รายละเอียดของภาพที่หายไป แถมมี Fusion Artifacts เพียบ

s20 ultra camera

DxOMark ทดสอบโดยติดตั้งเฟิร์มแวร์ของ Samsung ใหม่ทุกรุ่น นั่นหมายความว่า เฟิร์มแวร์ที่ถูกอัปเดตให้สองรอบนั้นช่วยเรื่องประสิทธิภาพของกล้องน้อยมาก เบื้องต้นเพียงระบบโฟกัสบางส่วน

Fusion Artifacts เกิดขึ้นเมื่อกล้องรวมภาพที่ได้จากการซูมทำให้เกิดผลจากการซูมอย่างต่อเนื่อง

s20 ultra camera

ส่วนปัญหาของระบบโฟกัสนั้นมีปัญหาตั้งแต่การออกแบบเซนเซอร์ 108 ล้านพิกเซลของ Galaxy S20 Ultra เซนเซอร์เทคโนโลยี Nonacell มอบประสิทธิภาพด้านความละเอียดและเพิ่มพื้นที่สำหรับรับแสงได้ดีมากก็จริง แต่ขาดระบบโฟกัสชนิด dual-pixel autofocus ที่มีความเร็วสูง ซึ่งพบใน Galaxy S20 รุ่นอื่น ๆ จึงเป็นไปได้ยากที่ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้อย่างดีเพียงการอัปเดตซอฟต์แวร์เท่านั้น

ก็ต้องรอดูว่า Samsung จะแก้ปัญหานี้อย่างไรต่อไปครับ

อ้างอิง Forbes

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส