หลังจากที่ iOS 9 เปิดตัวมาได้เกือบปีแล้ว ส่วนอีกค่ายนึงฝั่ง Android ก็เปิด Android N ให้นักพัฒนาทดลองกัน ซึ่งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่มาหลายฟีเจอร์ และหลายๆฟีเจอร์ก็ดูว่าจะเหมือนกัน วันนี้เราจะมาดู 5 ฟีเจอร์ที่เหมือนกันเป็นอะไรบ้างไปดูกันเลย

Split View (iOS) Vs. Multi-Window (Android)

ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถแบ่งหน้าจอได้ ซึ่งใน iOS นั้นจะสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้ใน iPad เท่านั้น แต่ Android N นั้นสามารถใช้ได้ในทั้งแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน

splitview_2x

mw-splitscreen

Picture-in-Picture (iOS) Vs. Picture-in-Picture (Android)

Picture-in-Picture นี้เป็นฟีเจอร์ที่สามารถเล่นวีดีโอไว้บนหน้าจอได้โดยจะลอยอยู่ ผู้ใช้สามารถไปเล่นแอพอื่นๆได้โดยไม่ต้องหยุดวีดีโอ โดยฟีเจอร์นี้ใน iOS จะใช้ได้ใน iPad ส่วน Android นั้นใช้ได้ใน Android TV

swift-book-with-pip_2x

pip-active

Night Shift (iOS) Vs. Night Mode (Android)

ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่ฮือฮากันอยู่สักพักนึงเมื่อฝั่ง Apple ได้เปิดตัวมาใน iOS 9.3 และหลังจากนั้นฟีเจอร์นี้ใน Android ก็ตามมาติดๆ

night-shift-low-power-mode-again

android-n-screen-dimming-e1457971143153

Quick Reply (iOS) Vs. Direct Reply (Android)

ฟีเจอร์นี้หลายๆคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเพราะ Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่ iOS 8 แล้ว แต่จะเป็นในส่วนของแอพของ Apple เท่านั้น และใน iOS 9 นี้ Apple ได้เปิดให้กับนักพัฒนาทั่วไปได้ใช้กัน ซึ่ง Android N นั้นก็มีเหมือนกัน

ios-9-facebook-messenger-quick-reply-feature

inline-type-reply

Notifications: Group By App (iOS) Vs. Bundled Notifications (Android)

ในการแจ้งเตือนนั้นจะถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งก็ว่าได้ จะมีการจัดตามช่วงเวลาหรือตามแอพก็ได้ ซึ่งใน iOS ถ้าจะให้จัดตามแอพนั้นก็สามารถไปตั้งค่าได้ที่ Settings > Notifications > Notifications View > Group By App และสำหรับ Android N นั้นจะเป็นค่าเริ่มต้นมาให้เลยใน Android N

iOS-9-Settings-Notifications-Group-by-App-iPhone-screenshot-005

bundles

สังเกตดีๆ 2 ฝ่ายนี้ก็มีอะไรต่างกันไม่มาก “อย่างว่าวงการสมาร์ทโฟนก็เหมือนกับการทำการบ้าน เราได้ไอเดียจากอีกฝั่งนึงเราเห็นว่าดี เราก็เอามาประยุกต์กับของของเราให้ดียิ่งขึ้น แล้วถ้าอีกฝั่งนึงเห็นว่าของเราดี เขาก็จะเอาไปประยุกต์กับของของเขาเหมือนกัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนกันเปะๆกันทุกอย่าง เพราะเป็นเพียงไอเดียเท่านั้น ก็เหมือนกับการที่เราคิดอะไรไม่ออกและไปดูผลงานที่มีไว้แล้วมาประยุกต์กับผลงานของเรานั่นเอง”

ที่มา: Redmondpie