ทีเอ็มเอ็กซ์ โกลบอล (TMX Global) บริษัทที่ปรึกษาด้านการทรานส์ฟอร์เมชันซัพพลายเชนแบบครบวงจร เปิดตัว ทีเอ็มเอ็กซ์ เมตาเวิร์ส (TMX Metaverse) สุดยอดนวัตกรรมการออกแบบโซลูชันของอุตสาหกรรมในเอเชีย ที่จะมาปฏิวัติการออกแบบซัพพลายเชนด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริง เพื่อรองรับความต้องการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพซัพพลายเชนที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและในภูมิภาค

ในงานเปิดตัวที่จัดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค นายทราวิส เออร์ริดจ์  ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMX Global ได้เผยโฉมโซลูชันใหม่นี้ต่อผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารระดับสูง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคนสำคัญในวงการซัพพลายเชน

TMX Metaverse เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการrพลิกโฉมซัพพลายเชน ซึ่งจะช่วยให้ ภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงโลกเสมือนจริงโดยการจำลองแผนผังพื้นที่ในอัตราส่วนที่เท่ากับพื้นที่และผู้ใช้งานจริงตลอดกระบวนการออกแบบ การใช้ประโยชน์จากความสามารถของเทคโนโลยีเมตาเวิร์สทำให้เราสามารถเปลี่ยนข้อมูลการออกแบบที่เป็นดิจิตัลให้เป็นโลกเสมือนจริงที่จะ ช่วยให้ธุรกิจและ TMX สามารถร่วมกันกำหนดองค์ประกอบต่างๆ ในการออกแบบ ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถบริหารต้นทุนที่ประเมินค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดโครงการ นอกจากนี้ ความสามารถในการออกแบบด้วยเมตาเวิร์ส ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ในช่วงกระบวนการกำหนดกรอบแนวคิด โดยในบางโครงการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงถึง 50%

หนึ่งในฟีเจอร์หลักของแพลตฟอร์ม TMX Metaverse คือ Campus ที่นำเสนอเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบซัพพลายเชนอัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่สมจริงในการเรียนรู้ และทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถนำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านซัพพลายเชนอย่างไรบ้าง

นายทราวิส กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญในงานเปิดตัวว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการเปิดตัวโซลูชันเมตาเวิร์สครั้งแรกที่ออสเตรเลียซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง สำหรับการเปิดตัวโซลูชันในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ภาคธุรกิจให้ความสำคัญต่อภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมซัพพลายเชนในเอเชียกำลังเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากผู้บริโภค ผู้บริหารธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายทราวิส ยังกล่าวด้วยว่า “เราพบว่าปัญหาการหยุดชะงักของระบบซัพพลายเชน (Supply chain disruptions) อย่างต่อเนื่องได้สร้างความสูญเสียให้เศรษฐกิจอาเซียนถึง 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 586,845 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากภูมิภาคนี้มีบทบาทในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนโลกท่ามกลางความผันผวนในภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ ในเอเชียกำลังพิจารณาหาแนวทางเพื่อลดผลกระทบจากการหยุดชะงักดังกล่าว และทำให้มั่นใจว่าซัพพลายเชนมีความสามารถในการปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี

“การออกแบบซัพพลายเชนที่มีประสิทธิผลและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงได้นั้น มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การมองเห็นภาพการทำงานล่วงหน้า สิ่งนี้เป็นปัจจัยที่จุดประกายให้เราริเริ่มการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ TMX Metaverse ไม่เพียงทำให้ได้เกิดประสบการณ์ตรงจากแนวคิดและการออกแบบพื้นที่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น แต่ยังทลายพรมแดนให้ธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ตลอดกระบวนการออกแบบ ทำให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้ตรงตามความต้องการด้านซัพพลายเชน”

“อาเซียนมอบโอกาสในการเติบโตที่โดดเด่นในทุกด้าน และ TMX จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วยการสร้างเสริมความคล่องตัวและความสามารถในการปรับตัวของซัพพลายเชนในภูมิภาค” นายทราวิส กล่าวเสริม

ภายในงาน TMX Global ยังได้เชิญวิทยากรระดับแนวหน้ามาแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมซัพพลายเชนด้วย ได้แก่ ดร. คเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการ ด้านเขตส่งเสริม อุตสาหกรรม และนวัตกรรมดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) นายไมเคิล เฮลเลมาน กรรมาธิการอาวุโสด้านการค้าและการลงทุน ประจำประเทศไทยและลาวของสำนักงานการพาณิชย์และการลงทุนออสเตรเลีย (ออสเทรด) นายแอรอน หลิง ผู้อำนวยการฝ่ายปัญญาประดิษฐ์และดาต้า เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายแอนดรูว์ แมคเคียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท LogChain การเสวนาครอบคลุมเนื้อหาในหลากหลายประเด็น อาทิ เทรนด์ล่าสุดในแวดวงโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ภูมิทัศน์ซัพพลายเชนของไทย และความคืบหน้าของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค

สำหรับเหตุผลที่ TMX Global เลือกเปิดตัว TMX Metaverse ในประเทศไทย นายดีน โจนส์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า “ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการดำเนินกลยุทธ์ของเราในเอเชีย เนื่องจากเป็นตลาดซัพพลายเชนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ไทยมีการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซซึ่งดึงดูดการลงทุนในคลังสินค้าและโลจิสติกส์  นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีการดำเนินโครงการระดับประเทศเพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค ครอบคลุมการคมนาคมขนส่งภาคพื้นดิน อากาศ และทางทะเลในอาเซียน

“การเปิดตัว TMX Metaverse ในเอเชีย ที่จัดขึ้นใน ประเทศไทยในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเราที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและพร้อมเติบโตต่อไป สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเราในเอเชีย ในการต่อยอดจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากอุตสาหกรรมซัพพลายเชนที่ผนวกกับโซลูชันส์ดิจิทัล ดังนั้นเราจึงเลือกประเทศไทยเป็นหมุดหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจเพื่อความสำเร็จในระดับสากล” นายดีน ทิ้งท้าย