ในที่สุด realme ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ครอสโอเวอร์กับซีรีส์ Game of Thrones นั่นคือ realme 15 Pro x Game of Thrones Edition ซึ่งได้รับการปรับดีไซน์ให้สอดคล้องรายละเอียดของดินแดนเวสเทอรอส (Westeros) ตามที่ปรากฏในซีรีส์ระดับสร้างปรากฏการณ์ทั่วโลก เพื่อตอบสนองต่อแฟน ๆ ที่ติดตามซีรีส์นี้อย่างจริงจัง รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยเฉพาะ และธีมบนยูสเซอร์อินเทอร์เฟสที่เต็มไปด้วยความแฟนตาซีระดับมหากาพย์อย่างชัดเจน

realme 15 Pro เวอร์ชัน Game of Thrones Edition นี้ ได้รับการประดับด้วยตราสัญลักษณ์สีทองของตระกูลทาร์แกเรียน (Targaryen) อันโดดเด่นจากซีรีส์ พร้อมตัวกล้องและโมดูลที่ล้อมรอบด้วยเส้นสายสีทองคำ และกรงเล็บมังกร ซึ่งสะท้อนความเป็นตระกูลทาร์แกเรียนที่สามารถควบคุมมังกร และเคยครองความยิ่งใหญ่ในเวสเทอรอสมาก่อน

Realme 15 Pro Game of Thrones

ในขณะที่ฝาหลังสามารถเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงเข้ม เมื่อุณหภูมิเพิ่มสูงเกิน 44 องศาเซลเซียส ซึ่งทาง realme อ้างว่าสะท้อนเป็น ‘Born in Fire’ ซึ่งกล่าวอ้างถึงตัวละคร แดเนริส ทาร์แกเรียน (Daenerys Targaryen) หรือที่รู้จักในฐานะ ‘แม่มังกร’ คนสุดท้ายของตระกูล

นอกจากนี้ยังมาพร้อมยูสเซอร์อินเทอร์เฟส (UI) ที่ได้รับการปรับแต่งพิเศษในธีม ‘A Song of Fire and Ice’ ซึ่งเป็นชื่อของนิยายชุดที่ได้รับการดัดแปลงเป็นซีรีส์ Game of Thrones และฟีเจอร์ AI Edit Genie ซึ่งสามารถเปลี่ยนภาพเป็นธีมเครื่องในซีรีส์ Game of Thrones ได้อย่างสวยงาม

อีกความโดดเด่น คือ กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการผลิตด้วยวัสดุไม้เนื้อแข็งและโลหะแกะสลักที่มีความประณีต รวมถึงของสะสมสุดพิเศษ ดังนี้

  • ตราสัญลักษณ์ของทั้ง 9 ตระกุลหลัก ในเวสเทอรอส
  • บัลลังก์ Iron Throne จำลอง
  • แผนที่ทวีปในเวสเทอรอส
  • บทแนะนำตระกูลทาร์แกเรียน และตระกูลสตาร์ค (Stark) ซึ่งเป็นคู่ต่อกรกันโดยตรง
  • ฟิกเกอร์ตัวละคร จอน สโนว์ (Jon Snow), แดเนริส และทีเรียน (Tyrion) ที่ผู้ชมชื่นชอบ
Realme 15 Pro Game of Thrones

realme 15 Pro เวอร์ชัน Game of Thrones Edition ยังได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอขอบโค้ง 4D ซึ่งรองรับรีเฟรชเรต 144 Hz, ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 ที่มีความเร็วสูงสุด 2.80 GHz, แรม 12 GB, สตอรเจ 512 GB และแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 7,000 mAh

realme 15 Pro เวอร์ชัน Game of Thrones Edition จะได้รับการจัดจำหน่ายทั่วโลกเพียง 5,000 เครื่องเท่านั้น พร้อมราคา 44,999 รูปีอินเดีย หรือประมาณ 16,500 บาท