Space Camp Thailand ร่วมกับ Gistda, อสมท, บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” และ OnDemand Education นำการศึกษา STEM-SPACE ไทยสู่ระดับโลก จับมือศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ (US Space and Rocket Center- USSRC) และศูนย์ข้อมูลองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA Visitor Center) เปิดตัวกิจกรรมและทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย ปี 3 (Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program, Episode 3) พร้อมดึง 4 ศิลปิน BNK48 ร่วมประชาสัมพันธ์ทุนการศึกษา STEM-SPACE และร่วมเดินทาง ไปกับนักเรียนทุนเพื่อศึกษาวิชาสำรวจอวกาศเบื้องต้นที่ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และ ศูนย์ข้อมูล NASA ที่รัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา

ดร. อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การ มหาชน) หรือ Gistda ในสังกัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม กล่าวว่า อวกาศมีความสำคัญ ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ไม่ว่าจะเป็นการดูพยากรณ์อากาศ การใช้ GPS เพื่อเดินทางไปประชุมและท่องเที่ยว รวมถึง การค้นหาข่าวและข้อมูลก่อนเข้านอน ขณะที่ธุรกิจอวกาศกำลังทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจดาวเทียม ตั้งแต่เพื่อการสื่อสาร บริหารทรัพยากรธรรมชาติ จนถึงเรื่องความมั่นคง นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจท่องเที่ยวอวกาศ และการแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติของบริษัทเอกชน เช่น Virgin Galactic, SpaceX และ Blue Origin แนวโน้มนี้เป็น สัญญาณบ่งชี้ว่า ประเทศไทย สังคมไทย และ เยาวชนไทยจะต้องตื่นตัว เรียนรู้ และ แสวงหาโอกาสทั้งทางวิชาการ และธุรกิจกับโอกาสอันยิ่งใหญ่ของความก้าวหน้าในการสำรวจและค้นพบในอวกาศ ด้วยเหตุนี้ Gistda จึงเข้าร่วมกับ ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และ ศูนย์ข้อมูล NASA ในการสนับสนุนและส่งเสริมโครงการทุนการศึกษา ค้นพบนักบินอวกาศไทย ปี 3 เพื่อให้เยาวชนและพ่อแม่ผู้ปกครองไทยเข้าใจ และเตรียมตัวให้พร้อมต่อแนวโน้มนี้

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ผู้นำการบริการสมาร์ตแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า “FPT” เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนาบุคคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อรองรับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ในโอกาสนี้ บริษัทความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาของเยาวชนไทยในโครงการค้นพบนักบินอวกาศไทย ปี 3 ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้แก่เยาวชนไทยที่มีความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เปิดโลกแห่งการเรียนรู้และประสบการณ์กับองค์กรระดับโลก โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีส่วนช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ ความสามารถทางการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาวชนไทยให้มีทักษะความรู้ ความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทได้ในระยะยาว” 

ด้านนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในนามของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ อสมท ได้ร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักของโครงการ ทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทยปี 3 ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐฯ ศูนย์ข้อมูลองค์การ บริหารการบินและอวกาศแห่งชาติเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่สนใจในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าแข่งขัน ทดสอบความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อชิงทุนการศึกษาจำนวน 4 ทุน ซึ่ง อสมท ได้ให้การ สนับสนุนทุนการศึกษาจำนวน 1 ทุน เป็นเงินจำนวน 3 แสนบาท โดยผู้สมัครจะต้องเข้าร่วมทำแบบทดสอบ Space Camp Aptitude Test (SCAT) เพื่อเฟ้นหาผู้ผ่านเข้ารอบ 21 คน ที่จะก้าวเข้าสู่การเรียนรู้ใน STEM Camp ที่จะทำให้เด็กไทยได้พัฒนาความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญ ของทักษะในศตวรรษที่ 21 เพื่อให้ได้ผู้ชนะ 3 คนสุดท้ายที่จะเดินทางไปเข้าร่วมอบรม U.S. Space-Training Education Programs ที่ US Space & Rocket Center และ NASA Visitor Center ณ เมือง ฮันต์สวิลล์ มลรัฐ แอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเยาวชนทั้ง 3 คน จะได้ร่วมเดินทางไปกับศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 ที่มีความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้ด้วย

“ผมเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทยได้ค้นพบความสามารถของตนเองในด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรียนรู้และพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นนักวิทยาศาตร์และ นักประดิษฐ์คิดค้นในอนาคต ขณะเดียวกันก็จะได้แลกเปลี่ยนมุมมองวิธีคิด วิธีแก้ปัญหาในระหว่างที่อยู่ใน Camp กับเยาวชนจากประเทศต่าง ๆ ผมขอเชิญชวนเยาวชนไทยมาร่วมสมัครโครงการนี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ ฯ ได้ ทางสื่อทุกช่องทาง ของ อสมท” นายเขมทัตต์ กล่าว

ขณะที่นายสุธี อัสววิมล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ออนดีมานด์ กล่าวว่าแรงบันดาลใจ และความฝันที่มีในตัวเด็ก ๆ เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้ใหญ่ต้องให้การสนับสนุน และที่สำคัญ ประเทศไทยเรานั้น ยังมีช่องว่างในการนำความคิด และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดผลจริงอยู่น้อยมาก การปลูกฝัง และผลักดันให้เกิด กระบวนการ STEM อย่างแท้จริงร่วมกับองค์กรระดับโลกอย่าง NASA จึงเป็นโอกาสที่ดีของเด็ก ๆ ในประเทศของเรา

ในส่วนของ นายกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และ ศูนย์ข้อมูล NASA ประจำประเทศไทย กล่าวว่า นักเรียนและผู้ปกครองไทยสนใจการศึกษาด้าน STEM-SPACE เป็นจ านวนมาก ดูได้จากเมื่อเรา นำนิทรรศการอวกาศนาซามาจัดที่ไทยเมื่อปี 2558 เป็นเวลา 60 วัน มียอดผู้เข้าชมมากกว่า 250,000 คนจากความสำเร็จดังกล่าวทำให้มีการจัดตั้งโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทยขึ้นมาในปีต่อมาและมีนักเรียนจาก ทั่วประเทศมาสมัครแข่งขันปีละกว่า 1000 คน

หลักสูตรที่ไปเรียนมีชื่อว่า การสำรวจอวกาศเบื้องต้น นักเรียนจะต้องใช้ความสามารถด้าน STEM อย่างเต็มที่ ทั้งในทางทฤษฎีและปฏิบัติในภารกิจต่าง ๆ เช่น การขับยานอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ การซ่อมแซมระบบ วิศวกรรมของสถานีอวกาศนานาชาติ การวางดาวเทียมเข้าวงโคจร การทำงานในสภาวะไร้น้ำหนักร่วมกับทีมงาน การควบคุมภารกิจอวกาศของศูนย์อวกาศภาคพื้นดิน ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้จะต้องใช้ความสามารถในด้านวิทยาศาสตร์ ความเข้าใจเทคโนโลยี ความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิศวกรรม การคำนวณ การทำงานเป็นทีม และ ความสามารถในการเป็นผู้นำ

ความสำเร็จที่ผ่านมาของโครงการทำให้บอร์ดบริหารของเราที่สหรัฐ ฯ เห็นแนวโน้มที่ดีในไทย จึงอำนวยการ ให้มีการเตรียมเปิดบ้าน หรือ NASA Open House ให้กับตัวแทนไทยและสื่อมวลชนที่มากับโครงการทุนการศึกษา ค้นพบนักบินอวกาศไทยด้วย เช่น ศูนย์อวกาศนาซาที่คุมดาวเทียมลุ่มน้ำโขง (NASA Servir-Mekong) โดยเปิดให้ สัมภาษณ์พิเศษและให้ทัศนศึกษาเทคโนโลยีนาซาที่ใช้สังเกตการณ์ลุ่มน้ำโขง ขณะที่ศูนย์การบินอวกาศ นายพลมาร์แชลของนาซา (NASA’s Marshall Space Flight Center) ซึ่งเป็นศูนย์อวกาศที่ใหญ่ที่สุดของนาซาก็พร้อมต้อนรับคณะโดยจะให้เข้าไปดูแท่นทดลองจรวดศูนย์ขนส่งอุปกรณ์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ และ โครงการ Space Launch System ซึ่งเป็นจรวดที่จะเดินทางไปดาวอังคาร ทางด้าน ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ นอกจากผู้อำนวยการเตรียมให้การต้อนรับและสัมภาษณ์พิเศษแล้ว ก็พร้อมที่จะให้ดูการฝึกใช้ชีวิตบนดาวอังคาร พิพิธภัณฑ์จรวดและยานอวกาศที่ใหญ่ที่สุดของโลก และ ให้ไปดูสุสานจรวด ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเข้าอีกด้วย

การแข่งขันชิงทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย ปี 3 จะเริ่มเปิดรับสมัครในวันที่ 29 สิงหาคม 2562 ถึง วันที่ 20 ตุลาคม 2562 ในปีนี้ มีทุนการศึกษาสำรวจอวกาศเบื้องต้นจำนวน 4 ทุนการศึกษาแบบไม่ผูกมัดใด ๆ มอบ ให้โดย Gistda, อสมท บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” และ OnDemand Education โดยที่ผู้ชนะทุนการศึกษา 2 ลำดับแรกจะได้รับทุนการศึกษา จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจนจบปริญญาตรีในคณะใดก็ได้ ทุกโรงเรียนในไทย สามารถส่งตัวแทนเข้าแข่งขันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 2 คน คุณสมบัติของผู้สมัครมีเพียง 2 ประการคือ สัญชาติไทย และ อายุระหว่าง 13-19 ปี

สำหรับนักเรียนที่มาร่วมในวันแถลงข่าวในวันที่ 29 สิงหาคม 2562 เวลา 13:0015:00 น. ที่ IMPACT Forum ห้อง Sapphires 201 สามารถรับของที่ระลึก เสื้อยืดจากโครงการ Space Camp เมื่อ สมัครสอบทุนที่งาน โดยมีค่าธรรมเนียมการสมัคร 550 บาท ทั้งนี้ การสอบ Space Camp Aptitude Test (SCAT) ทั่วประเทศจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 เวลา 9:00-12:00 น. ที่วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ สามารถสอบได้ที่สาขา OnDemand ที่ระบุไว้ทั่ว ประเทศ ส าหรับการเดินทางไปเรียนและทัศนศึกษาที่ NASA จะมีขึ้นระหว่าง 27 มีนาคม 2563 ถึง 5 เมษายน 2563 นักเรียน ผู้ปกครอง และ ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อสอบเก่าและการสมัครสอบได้ที่ www.spacecampthailand.com หรือ Facebook: Spacecamp Thailand หรือ LINE @spacecampthailand  

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส