“แหม!!! ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เลยนะ” คือ คำเปรียบเปรยแสนจะคุ้นหู เมื่อได้ยินก็รู้ว่าน่าจะเป็นการแซวคนคลั่งรัก ซึ่งจุดเด่นของปาท่องโก๋ที่ต้องอยู่ติดกันเป็นคู่ จึงกลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรักใคร่กลมเกลียว ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น จนแทบจะขาดกันไม่ได้ เมื่อฟังดูแล้ว ปาท่องโก๋ก็น่าจะเป็นขนมที่่มีจุดเริ่มต้นมาจากความรักใช่ไหมละ? แต่ความจริงมันคือขนมต้องคำสาป!!

ต้นกำเนิดจากความแค้น

ตำนานที่น่าเศร้าของปาท่องโก๋ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ในสมัยราชวงศ์ซ่ง (Song Dynasty) ของจีนโบราณ มีทหารนายหนึ่งชื่อว่า ‘งักฮุย’ เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ มีความสามารถรอบด้าน และเป็นที่รักของประชาชนแต่ด้วยความริษยา ‘ฉินฮุ่ย’ จึงร่วมมือกับภรรยา วางแผนให้ฮ่องเต้เรียกตัว งักฮุย กลับมาจากแนวหน้า และใส่ร้ายป้ายสีจน งักฮุย ต้องโทษประหารชีวิต

เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของประชาชนที่รักงักฮุย ต่างก็โกรธแค้นฉินฮุ่ยกับภรรยาเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเขาจึงช่วยกันทำขนมขึ้นมา โดยนำแป้งมาประกบกัน เพื่อเป็นตัวแทนของสองสามีภรรยา แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ พร้อมกับสาปแช่งสามีภรรยาคู่นี้ไปด้วย และเรียกขนมชนิดนี้ว่า ‘ขนมอิ่วจาฮุ่ย’ ซึ่งแปลว่า ‘ฉินฮุ่ยทอดน้ำมัน’

แค่เอาลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ก็ยังไม่สาแก่ใจประชาชน พวกเขาจะคิดลูกเล่นสำคัญอีกว่า มื่อไรที่จะกินขนมชนิดนี้ จะต้องฉีกให้แยกเป็นสองส่วนก่อน เพื่อแสดงความแค้นที่มีต่อคู่สามีภรรยาที่พรากชีวิตของแม่ทัพงักฮุยไป แหม่! อะไรมันจะลึกซึ้งขนาดนี้ 

ความแค้นของประชาชนที่มีต่อสองสามีภรรยายังไม่หมดเพียงเท่านี้ พวกเขายังสร้างรูปปั้นของฉินฮุ่ยกับภรรยาในท่าทางคุกเข่าต่อหน้าสุสานของแม่ทัพงักฮุยอีกด้วย

ชื่อ ‘ปาท่องโก๋’ เป็นความเข้าใจผิด  

‘ขนมอิ่วจาฮุ่ย’ เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แต่ในช่วงเวลานั้น ชาวจีนแต้จิ๋วเรียกขนมดังกล่าวว่า ‘อิ่วจาก้วย’ และด้วยความบังเอิญในตอนนั้น ขนมอิ่วจาก้วย มักจะขายพร้อมกับ ‘ปาท่องโก๋’ ซึ่งเป็นขนมน้ำตาลทรายขาว คนไทยก็เลยสับสน เรียกชื่อของขนมสลับกัน โดยเข้าใจว่า ‘ปาท่องโก๋’ คือขนมแป้งที่ประกบเป็นคู่มาจนถึงปัจจุบัน

bai-tang-gao-white-sugar-sponge-cake
ปาท่องโก๋ที่แท้จริง หรือ BAI TANG GAO
Photo : THE WOKS OF LIFE

ปาท่องโก๋เป็นขนมที่ทำจากแป้งสองชิ้นประกบกัน แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ คนไทยนิยมกินเป็นอาหารเช้าคู่กับเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ, โกโก้, น้ำเต้าหู้ หรือแม้แต่โจ๊กร้อน ๆ ก็สามารถฉีกใส่ลงไปได้ สำหรับชาวจีนแต้จิ๋วแล้วจะเรียกขนมชนิดนี้ว่า ‘อิ่วจาก้วย’ ส่วนชาวจีนฮกเกี้ยน เรียกว่า ‘อิ่วเจี่ยโก้ย’ และภาษาจีนกลาง เรียกว่า ‘โหยวเที๋ยว’

ที่มา : Wikipedia สำนักพิมพ์ทองเกษม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

โรงเบียร์ในเยอรมนี ผลิต “เบียร์แบบผง” แค่เติมน้ำแล้วคนก็ดื่มได้เลย

โรงเบียร์ในประเทศเยอรมนี พัฒนาเบียร์ผง ตัวแรกของโลก ที่แค่เติมน้ำก็ดื่มได้เลย โดยหวังว่า เบียร์ผงที่ผลิตขึ้นมา จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปริมาณมาก    ...อ่านต่อ

Play video

<strong>มุมมองและการตกผลึกทางความคิด ของ บัณฑูร ล่ำซำ เพื่อรักษาไว้ซึ่งป่าต้นน้ำน่าน</strong>

News
TECH

Bitcoin ลดลงต่ำกว่าระดับ 923,000 บาท และ Altcoin ส่วนใหญ่สีแดง

23 มีนาคม ช่วงเวลา 02.45 น. บิตคอยน์ (Bitcoin) ได้ลดลงสู่ 26,601.80 เหรียญสหรัฐฯ (909,289 บาท จาก Binance) ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ...อ่านต่อ

เปิดตัวเกมในตำนาน Counter-Strike 2 ประกาศลงบน PC ซัมเมอร์นี้

เกมยิงในตำนาน Counter-Strike 2 ที่ล่าสุด Valve ก็ได้ประกาศเปิดตัวบน PC และทีมงานได้คุยว่าจะเป็นการยกเครื่องระบบทั้งหมด

เปิดตัว Nothing Ear (2) หูฟัง TWS ที่มาพร้อมระบบตัดเสียง, รองรับการเล่นเสียง Hi-Res และฟีเจอร์ปรับอีควอไลเซอร์!

Nothing เปิดตัวหูฟัง TWS รุ่นใหม่ 'Nothing Ear (2)' ซึ่งเป็นสินค้าประเภทหูฟังชิ้นที่ 3 ของบริษัท โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นพัฒนาจาก Nothing Ear (1) ...อ่านต่อ

John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4
7.8 / 10

[รีวิว] John Wick: Chapter 4 – สงครามเดือดปิดบัญชีแค้นจัดหนักไซส์พิเศษเลือดเยอะ ๆ

[รีวิว] John Wick: Chapter 4 บทสรุปของนักฆ่ามือพระกาฬ จอห์น วิค ที่อัดแน่นด้วยฉากแอ็กชันยาวสะใจเกือบ 3 ชั่วโมง และมันโหดสะใจตามสไตล์เช่นเคย