Terra Formars คือมังงะขายดีชื่อดังที่มีตีพิมพ์แม้แต่ในบ้านเราเอง ว่าด้วยเรื่องของมนุษย์ชาติที่ต้องการปรับสภาพดาวอังคารให้อยู่อาศัยได้ จึงส่งต้นมอสไปช่วยสร้างออกซิเจน ในขณะเดียวกันก็เพิ่มอุณหภูมิที่ผิวดาวโดยการส่งสิ่งมีชีวิตสีดำที่ดูดความร้อนได้ดีและทนต่อสภาพแวดล้อมอันตรายไปอยู่อาศัย ซึ่งไอ้สัตว์ที่ว่าก็คือ แมลงสาบ!!! คราวนี้พอเวลาผ่านไปเป็นร้อยปีสภาพอากาศมันเริ่มอยู่ได้ ก็ลำบากต้องส่งคนลงไปสำรวจ และต้องปฏิบัติภารกิจสำคัญอีกอย่างคือการไปกวาดล้างแมลงสาบให้หมดเพราะไม่มีความจำเป็นแล้ว แต่คณะสำรวจชุดแรกที่ส่งไปกลับขาดการติดต่อไปเฉยๆ จึงต้องจัดคณะสำรวจชุดที่สองที่คัดมาจากคนสิ้นไร้หนทางและต้องการเงินมารวมตัวกันทำงานเสี่ยงๆนี้แทน และนี่คือจุดเริ่มเรื่องราวของเทอร์ร่าฟอร์มาร์สนี้เอง

TerraFormarsPoster
สารภาพว่าผมก็เป็นแฟนมังงะอยู่เหมือนกัน ด้วยความแปลกใหม่ของการนำเสนอเรื่องราวของแมลงลงไปในการ์ตูนแนวไซไฟต่อสู้ และการออกแบบคาแรกเตอร์ต่างๆที่โดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ พูดง่ายๆ ว่าเท่!! ยิ่งโดยเฉพาะรูปลักษณ์ของแมลงสาบที่ไม่คาดคิดว่าจะมีใครบนโลกนี้คิดได้ คือเห็นครั้งแรกแล้วแบบ ตะลึง สะพรึง ขบขัน แต่ก็น่ากลัวชิบเป๋งเลย

ครั้งแรกอีกเช่นกัน พอรู้ว่าจะมีการสร้างเป็นหนังคนแสดง ก็แอบลุ้นให้หนังออกมาสนุกๆเพราะตัวมังงะนั้นมีองค์ประกอบเทพๆให้ได้เล่นอยู่แล้วอย่างที่บอก คือแค่การต่อสู้ระหว่างคนกับแมลงสาบ และการแปลงร่างเท่ๆผสมผสานกับแมลงหลากชนิดให้ตื่นตาตื่นใจแบบที่ตอนเด็กเรารู้สึกกับไอ้หนังพวกมดแดงมดเอ็กซ์ (ซึ่งจริงๆ คือตัวตั๊กแตน แต่บ้านเราเข้าใจผิดไปเองน่ะนะ) แค่นี้ก็เอาหนังอยู่สบายๆ ละ ยิ่งในเชิงลึกมังงะยังปูเรื่องความโลภ ความไม่ซื่อ เกมการเมืองของมนุษย์กันเองที่มีหลากหลายฝ่ายเข้าไปด้วย หนังยิ่งมีอะไรให้เล่นเยอะมากกกก เรียกว่าจะเอามันส์เป็นหนังเด็ก หรือจะเอาดาร์คเป็นหนังผู้ใหญ่ทำได้หมดเลย

มังงะมีความรุนแรงสูงมาก ไม่เหมาะกับเด็กเท่าไร แต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับผู้กำกับสายโหดอย่างมิอิเกะ

มังงะมีความรุนแรงสูงมาก ไม่เหมาะกับเด็กเท่าไร แต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับผู้กำกับสายโหดอย่างมิอิเกะ

สิ่งที่หวั่นใจแรกๆ เลย คือ หนังญี่ปุ่นที่ดัดแปลงจากมังงะนี่ นับเรื่องที่ทำออกมาดีๆได้น้อยมากกกก ที่ผมว่าพอจะโอเคก็มี Gantz กับ Parasyte ปรสิตเดรัจฉาน ล่ะนะ นอกนั้นนี่จัดอยู่ในกลุ่มอยากจะลืมเลือนแทบทั้งสิ้น แล้วพอมีข่าวประกาศชื่อผู้กำกับของหนังแมลงสาบดาวอังคารขึ้นมาเป็น Takashi Miike นี่ความรู้สึกมันผสมปนเปนะ เพราะผลงานป๋าทาเคชินี่จัดว่าเป็นหนังโหดรุนแรงและมีสไตล์มากๆ คือเป็นหนังคุณภาพในเวทีต่างประเทศพอสมควรเลย ซึ่งมันเหมาะกับตัวมังงะมากๆ ที่ความรุนแรงในนั้นสูงจี๊ดเลย แต่คือผลงานที่เปรี้ยงปร้างของเฮียแกนั่นเรื่องสุดท้ายก็ร่วมๆ เกือบ 10 ปีไปแล้วนะ แล้วงานหลังๆ แกก็แป้กบ้าง เสมอตัวบ้าง ยิ่งงานกำกับหนังจากมังงะเรื่องหลังสุดแกอย่าง เกมเทวดา หรือ Kamisama no iu tôri (2014) นี่ก็ทำส่วนโหดๆ ได้ดีตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ดันมาแป้กเอาช่วงบทสรุปอย่างน่าเสียดายซะอีก ก็ลุ้นไปเผื่อใจไปว่าหนังจะออกมายังไง

คนขวาสุดนี่ล่ะ ป๋ามิอิเกะ

คนขวาสุดนี่ล่ะ ป๋ามิอิเกะ

ตัวหนังจริง พอได้ดูต้องบอกเลยว่า คนเขียนบทนี่เคารพต่อต้นฉบับ ที่เลือกมาจากมังงะภาคต้น ความยาว 6 ตอนได้เรียกว่าช็อตต่อช็อต ช่องต่อช่องมาเลยทีเดียว บางฉากนี่ก็อปเป๊ะตั้งแต่การวางเฟรมและแอ็กติ้งตัวละคร แม้แต่ท่ายืนหรือบทบรรยายยังเป๊ะเลย ผมนี่อึ้งไปเลย จะไม่ครีเอทอะไรใหม่ๆ หน่อยเร้ออออ 555

ฉากนี้ท่ายืนพวกแมลงสาบในหนังยังเป๊ะเลย ผมเห็นแล้วขำเลย 555

ฉากนี้ท่ายืนพวกแมลงสาบในหนังยังเป๊ะเลย ผมเห็นแล้วขำเลย 555

ที่มีปรับเปลี่ยนบ้างให้ได้สนุกขึ้นก็อย่างเรื่อง คาแรกเตอร์ตัวละครบางตัวที่มีสีสันขึ้น (ในแง่หนึ่งคือเพี้ยนหลุดไปเลย) เชื้อชาติตัวละครที่เปลี่ยนไปเป็นญี่ปุ่นเกือบ 100% (ตัวละครนักมวยไทยอย่างเทียน เปลี่ยนชื่อเป็นจิน แต่ดูฉากที่พูดไทยก็ปากเป๊ะอยู่นะ ไม่รู้เสียงจริงจะเหน่อป่าว 55) และที่มาที่ไปตัวละครบางตัวอีกนิดหน่อยที่ต่าง แต่หลักๆ นี่เล่าเรื่องไลน์เดิมเป๊ะเลย ทั้งเหตุผลการไปของตัวเอกสำคัญๆ ฉากการเดินเรื่อง ปัญหาที่เจอ ลำดับการต่อสู้ ตัวละครที่ตาย ตัวละครที่รอด เหมือนเดิมเด๊ะ ไม่มีต้องลุ้นเลย เอาเป็นว่าสำหรับแฟนหนังสือคงเฉยๆกับการเล่าแบบนี้ แต่คนที่รู้จักเรื่องนี้ครั้งแรกก็คงมีเซอร์ไพรส์และสนุกไปกับหนังได้

แต่ความพังพินาศที่แท้จริงของหนัง คงต้องยกให้งาน ซีจี และงานดีไซน์ของหนัง ที่ผิดทางไปไกลหลายโยยยยยยชน์ แบบกู่ไม่กลับเลย คือเห็นโปสเตอร์ครั้งแรกก็ตะหงิดๆใจในการแต่งหน้ากับทำผมตัวละครละ พอดูเทรลเลอร์มาก็ยิ่งหวั่นในทรวงฤทัยเข้าไปอีก มันประหลาดไม่ได้ดูเท่หรือน่าจดจำในทางดีเลย

บ่นเรื่อง ซีจี ก่อน สิ่งดีงามสูงสุดในหนังคือ โมเดลตัวแมลงสาบ นี่ทำมาได้เนี๊ยบดีมาก แต่ก็มาพลาดเอาเรื่องความพิถีพิถันบางฉากล่ะ บางฉากการเคลื่อนไหวประหลาดมากเหมือนอนิเมชั่นที่ขี้เกียจวาดเฟรมเยอะๆแล้วตัวละครมันเคลื่อนไหวไม่เนียน แล้วบางฉากแมลงสาบกลายเป็นผี!!!! คือเงาหายไปเฉยๆ ยิ่งบางช่วงที่ยืนกันเยอะๆนี่ก็อปวางชัดๆเคลื่อนไหวเหมือนกันเป๊ะทั้งกองทัพ เฮ้ออออ พวกฉากหลังของดาวอังคารมันก็แปลกๆ ตรงที่ทำสีสันออกมาแสบตา สีเขียวอ่อนของต้นมอสตัดกับสีแดงของดินดาวอังคารได้ลิเก แอนด์ การ์ตูนเน็ตเวิร์คมากกกกก คือการคุมโทนสีในเรื่องนี้แจ๊ดจ๊าดการ์ตูนจ๋ามาก ในขณะที่ตัวเรื่องมันน่าจะเน้นทางซีเรียสจริงจัง ตามสไตล์ไซเบอร์พังค์ (Cyberpunk) หนังโลกอนาคตแนวเสื่อมโทรมที่ตัวเรื่องปูมาแต่ต้นมากกว่า แต่นี่อะไร…

ดูในภาพนี่ไม่ค่อยรู้สึก แต่ในหนังสีมันจัดขึ้นไปอีกแบบการ์ตูนมาก

ดูในภาพนี่ไม่ค่อยรู้สึก แต่ในหนังสีมันจัดขึ้นไปอีกแบบการ์ตูนมาก

บ่นต่อมา เรื่องดีไซน์ตัวละครนี่ล่ะ คือไอ้ผมตั้งๆ ของตัวละครเนี่ยในมังงะมันวาดแล้วดูเป็นทรงธรรมชาติไง แต่คนทำหนังญี่ปุ่นมันไม่ค่อยเข้าใจหรือไงไม่ทราบได้ก็ไปทำให้เหมือนกันเปี๊ยบ คืออธิบายไงดี เราดูผมโงกุนในดราก้อนบอล ตอนอยู่ในมังงะหรืออนิเมชั่นมันสมเหตุสมผลในสื่อความเป็นการ์ตูนของมันไง แต่พอมีคนทำหนังคนแสดงหรือแต่งคอสเพลย์แล้วทำผมทรงเหมือนในมังงะเป๊ะเราจะรู้สึกไอ้นี่บ้า ไม่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง คือคาแรกเตอร์ตัวละครมันชิลๆ ง่ายๆ ไม่ค่อยสนใจเรื่องแต่งตัว แต่ถ้าต้องคอยปั่นเจลทำทรงตั้งๆ นี้ตลอดเวลาแบบขาดเจลติดกระเป๋าไม่ได้ 24 ชั่วโมงแบบนี้ มันก็ขัดคาแรกเตอร์ไง อีกอย่างขอบตาที่ดำแบบเห็นชัดๆ ว่าเพราะเครื่องสำอางค์ แบบว่าเทรนด์ยุคนั้นเหรอหรือจงใจให้ดูแปลก แต่เอาว่ามันไม่เชื่อน่ะดูตลก แล้วมันก็ดูไม่ใช่คนด้วย ช่วยนึกถึงความเป็นสื่อหนังหน่อย ความสมเหตุสมผลให้คนดูเชื่อมันอยู่ตรงไหน!!!

ดีไซน์ตังละครที่ไม่เวิร์คเอาซะเลย

ดีไซน์ตัวละครที่ไม่เวิร์คเอาซะเลย

แล้วการปรับคาแรกเตอร์ที่เดอะฟ้ากที่สุด ขอยกให้ ดร.ฮอนดะ ที่กลายเป็นแก๊งร็อกเก็ตในโปเกม่อนไปซะงั้น ปัญญาอ่อนสุดขั้น และการเมคอัพและคอสตูมที่น่ารำคาญขั้นสุด นี่คือตัวละครที่พลังทำลายความรู้สึกได้มากกว่าแมลงสาบทั้งกองทัพซะอีก ดูไปพยายามข่มใจไป โอยยย

ดร.ฮอนดะ ตัวละครที่พลังทำร้ายสายตาสูงมากกกก

ดร.ฮอนดะ ตัวละครที่พลังทำร้ายสายตาสูงมากกกก

สรุป

สำหรับแฟนๆ มังงะผมว่าเป็นหนังที่ผ่านๆ ไปได้นะ ไม่มีไรใหม่ไปจากมังงะหรือดีงามกว่ามังงะกับอนิเมชั่นเลย เอาเงินกลับไปซื้อฉบับลิขสิทธิ์มาอ่านมาดูยังได้อรรถรสมากกว่าซะอีก แต่สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักเลยผมว่าหนังอยู่ระดับกลางๆ ของหนังดัดแปลงจากมังงะ ดูก็สนุกดียิ่งถ้าชอบความเพี้ยนบ้าๆ แปลกของหนังญี่ปุ่นด้วยนะ แต่ถ้าไม่ดูก็ไม่ได้เสียดายอะไรนะ อ่อหนังพากย์ไทยไม่ฮาเลยซักแอ่ะ ที่เห็นขำๆ กัน ดูแล้วมาจากความเพี้ยนไม่เข้าเรื่องของไอ้ฮอนดะนั่นซะมากกว่า ซึ่งผมว่าไร้รสนิยม จนหนังจบอยากหันไปถามคนข้างๆ ว่า เธอล่ะ เฟลมะ? (Ter la Fail ma?)

เนื้อหาล่าสุด

เผยราคา Huawei P10 และ P10 Plus แพงกว่าเดิมมาก!

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Huawei P10 และ P10 Plus สมาร์ทโฟนกล้องคู่รุ่นล่าสุดจาก Huawei ที่ปรับเปลี่ยนไปหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้น สเปกที่ดีขึ้น ...อ่านต่อ

เปิดตัวแล้ว LG G6: หน้าจอ Full Vision 5.7 นิ้ว, กล้องคู่มุมกว้าง, Snapdragon 821

LG ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด LG G6 มาเปิดตัวในงาน MWC 2017 ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษที่เรียกว่า Full Vision ...อ่านต่อ

ยังไปได้! เผยยอดขายฟีเจอร์โฟน Nokia ปีที่แล้วทำยอดขายได้ 35 ล้านเครื่อง

หากใครที่คิดว่าฟีเจอร์โฟนธรรมดาเดี๋ยวนี้แทบจะสูญพันธุ์ไม่มีคนใช้กันแล้ว คงต้องคิดกันใหม่ หลังจากมีรายงานจาก GSMarena เปิดเผยตัวเลขยอดขายฟีเจอร์โฟนในปี 2016 ...อ่านต่อ

กลับมาแล้ว BlackBerry KEYone: คีย์บอร์ด QWERTY, แบตอึด, ซอฟต์แวร์สุดปลอดภัย

BlackBerry กลับมาอย่างงดงามด้วยการเปิดตัว BlackBerry KEYone ที่มีคีย์บอร์ด QWERTY อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นผลงานการผลิตของ TCL โดยมี BlackBerry ดูแลในส่วนของซอฟต์แวร์ความปลอดภัย

หลุดสเปคเต็มของ Samsung Galaxy Tab S3 ก่อนเปิดตัวในงาน MWC 2017

ถึงแม้ว่าจะไม่มี Galaxy S8 มาเปิดตัวในงาน Mobile World Congress 2017 แต่ Samsung ก็ยังมีไม้เด็ดอยู่ที่ Galaxy Tab S3 ล่าสุดได้มีข้อมูลเกี่ยวกับสเปคเต็มๆของแท็บเล็ตดังกล่าวหลุดออกมา ...อ่านต่อ