สาวก Midjourney ได้ยิ้มยาวเพราะนอกจากจะสร้างภาพสวย ๆ ได้แล้ว ตอนนี้ได้ปล่อยโมเดลสร้างวิดีโออย่างเป็นทางการ ! สมการรอคอยแค่ไหน มาดูไปพร้อม ๆ กัน

โมเดล V1 จะเป็นการสร้างวิดีโอแบบอัปรูป ซึ่งจะเป็นรูปที่หามาเองหรือที่สร้างจาก Midjourney ก็ได้ จากนั้น V1 ก็จะสร้างวิดีโอประมาณ 5 วิจากภาพที่เราป้อนไป โดยในตอนนี้ยังคงทำได้แค่ใน Discord และสามารถลองใช้ในหน้าเว็บเท่านั้นนะ

ฟีเจอร์เด่น ๆ

เลือกโหมดเคลื่อนไหว: สามารถเลือกโหมดอนิเมชั่นอัตโนมัติ เพื่อให้ภาพเคลื่อนไหวแบบสุ่ม หรือจะเลือกโหมด Manual เพื่อระบุการเคลื่อนไหวที่ต้องการด้วยข้อความก็ได้

ปรับการเคลื่อนไหวกล้อง/วัตถุ: สามารถปรับปริมาณการเคลื่อนไหวของกล้องและวัตถุได้ง่าย ๆ เพียงเลือก “low motion” หรือ “high motion” ในการตั้งค่า

ต่อความยาวคลิป: แม้วิดีโอที่สร้างด้วย V1 จะมีความยาวเริ่มต้นเพียง 5 วินาที แต่ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะขยายความยาวเพิ่มได้ครั้งละ 4 วินาที สูงสุดถึง 4 ครั้ง ทำให้ได้วิดีโอที่มีความยาวรวมสูงสุดถึง 21 วินาที ! สุดจะเลิศ

ในตอนนี้ เป้าหมายหลังของ Midjourney หลังปล่อยโมเดลคือต้องการให้เป็นมากกว่าแค่ ‘หนังโฆษณา’ หรือผลงานสำหรับ commercial ดังนั้นภาพที่ได้จะไม่ดูเป็น AI จัด ๆ แต่จะดูสมจริงและเป็นธรรมชาติ เดวิด โฮล์ซ (David Holz) ซีอีโอ Midjourney ชี้ว่า V1 ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นเพียงก้าวแรกสู่เป้าหมายสูงสุดของบริษัท นั่นคือการสร้างโมเดล AI ที่สามารถ ‘จำลองโลกเสมือนจริงได้แบบเรียลไทม์’ (real-time open-world simulations) พร้อมเสริมว่าหลังจากโมเดล AI วิดีโอแล้วยังมีแผนจะพัฒนา AI สำหรับการสร้าง ภาพ 3 มิติและโมเดล AI ที่ทำงานแบบเรียลไทม์ต่อไป

ราคา

การสร้างวิดีโอด้วยโมเดล V1 จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการสร้างภาพถึง 8 เท่า ! หมายความว่าผู้ใช้จะใช้โควตาการสร้างสรรค์ต่อเดือนหมดเร็วกว่าเดิมมาก สำหรับผู้ที่อยากลอง V1 สามารถเริ่มต้นที่แผน Basic (10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน) ส่วนสมาชิกแผน Pro (60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน) และ Mega (120 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน) จะได้รับสิทธิ์สร้างวิดีโอไม่จำกัดในโหมด ‘Relax’ ที่ประมวลผลช้ากว่า สำหรับใครที่ไม่ไหวอย่าเพิ่งท้อนะ เพราะอาจจะมีการปรับเปลี่ยนราคาในอนาคต

ประเด็นร้อน Disney Universal จะเป็นปัญหาอีกไหม ?

ก่อนหน้านี้ไม่นานก่อนปล่อย V1 Midjourney เพิ่งโดนฟ้องเรื่องการฝึก AI โดยใช้ภาพจาก Disney โดยไม่ขออนุญาต แม้ว่าเทียบกับ AI เจ้าอื่นในตลาดตอนนี้ที่มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาความสามารถในการปรับเปลี่ยนเนื้อหาวิดีโอ Midjourney ถือว่ายังคงโดดเด่นที่สุดในส่วนของภาพที่สวยและเหมาะสำหรับสายครีเอทีฟมากกว่าสาย commercial แต่ถ้าถามว่าแล้วประเด็นที่หลาย ๆ เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพต้องเจอ คือการเอาภาพคนอื่นมาใช้ หรือการฝึก AI จากภาพลิขสิทธิ์โดยไม่ขออนุญาต จริง ๆ Midjourney ก็ยังไม่ถือว่ารอดนะ แถมสตูดิโอทำหนังก็ดูไม่ปลื้มเท่าไหร่ด้วย ทั้งนี้ประเด็นนี้ก็ไม่ได้มีแค่ Midjourney ที่เจอ เราต้องรอดูกันอีกทีว่าปัญหานี้ เมื่อเข้าสู่ยุคของ AI แบบสมบูรณ์แบบจะสามารถหาทางออกอย่างไรได้บ้าง