รีวิวเกม Alex Kidd in Miracle World DX ตำนานของค่าย SEGA กลับมาแบบ HD
Our score
7.0

รีวิวเกม Alex Kidd in Miracle World DX ตำนานของค่าย SEGA กลับมาแบบ HD

จุดเด่น

  1. กราฟิกที่เลือกได้ 2 รูปแบบและเปลี่ยนได้ตลอด
  2. แอ็คชัน 2D แบบคลาสสิกที่ยากท้าทาย

จุดสังเกต

  1. เกมเพลย์ยังไม่โดดเด่นเท่าเกมอื่นในยุคนั้น
  2. รีเมกแค่กราฟิก ไม่ได้รีเมกรูปแบบการเล่น

หากจะพูดถึงตัวละครเรือธงของค่าย SEGA หลายคนคงจะนึกถึงเม่นสายฟ้า Sonic แต่ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ในยุค 80s ทางค่าย SEGA เคยได้ออกเกมที่มาเป็นสัญลักษณ์เชิดหน้าชูตาของค่ายอย่าง Alex Kidd มาแข่งกับ Super Mario ของนินเทนโด โดยภาคแรกออกมาในปี 1986 และล่าสุดมีการเอากลับมาสร้างใหม่ในรูปแบบรีเมกกราฟิกใหม่บนคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS4 , PS5 , XBox ซีรีส์ , Nintendo Switch รวมทั้ง พีซี ด้วย

โดยเกม Alex Kidd in Miracle World DX ออกบนเครื่อง Sega Master System คอนโซล 8 Bit ของค่าย SEGA ก่อนการมาของ Mega Drive ที่มาแนวทาง Super Mario เพราะทาง SEGA ต้องการออกตัวละครมาเป็นคู่แข่ง แต่จะมีความแตกต่างของรูปแบบการเล่นอยู่พอสมควร ทำให้มีแนวทางของตัวเองที่มีความหลากหลายกว่า แต่ก็ยังไม่อาจเทียบเท่าความโด่งดังของ Super Mario ได้ทำให้เชื่อว่าคอเกมในไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักเท่ากับ Sonic หรือ Mario

กราฟิกในเกมปรับเปลี่ยนได้ทั้ง HD และคลาสสิก

ตามที่บอกว่า Alex Kidd in Miracle World DX คือเกมรีเมกกราฟิก ทำให้ภาพในเกมถูกสร้างใหม่หมดโดยอิงฉากเดิมทั้งหมดของต้นฉบับแบบ 8Bit เปลี่ยนมาเป็นกราฟิกแบบดอทพิกเซลที่มีความละเอียดและคมชัดแบบเกมรุ่นใหม่ ที่ดูดีมากมีการเพิ่มการเคลื่อนไหวและแอ็กชันของตัวละครเข้าไปทำให้มันไม่เชยและดูทันสมัย มีการเล่นแสงเงาของฉากทำให้มันดูดีคล้ายกับกราฟิกแบบ HD2D แบบเดียวกับ Octopath Traveler ในรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติ

และจุดเด่นของภาครีเมกกราฟิกคือการที่ผู้เล่นสามารถสลับสับเปลี่ยนเป็นกราฟิกต้นฉบับ 8 Bit สมัยออกบน Sega Master System ได้ตลอดเวลา ทำให้แฟนเกมที่ชอบความคลาสสิกต้องชอบแน่ และทำให้เห็นว่าผู้สร้างลงทุนทำกราฟิกใหม่หมดจริง ๆ แน่นอนว่าเพลงประกอบของเกมที่แบ่งออกเป็น 2 แบบคือโหมดปกติที่มีการทำดนตรีใหม่ที่มีการอิงต้นฉบับ ทำให้มันดูทันสมัยไม่เชย ส่วนอีกแบบคือดนตรีแบบย้อนอดีตสมัย 8 Bit แท้ ๆ ของต้นฉบับที่ยังดูไม่เชยแม้อาจจะไม่มีเพลงติดหูเหมือนกับเกม Super Mario หรือ Sonic ก็ตามแต่ก็เหมือนว่าผู้สร้างต้องการเอาใจแฟน ๆ รุ่นเก่าที่ชอบความคลาสสิก

รูปแบบการเล่น 2D มุมมองด้านข้างแบบเดิม

แม้ว่า Alex Kidd in Miracle World DX คือการรีเมก แต่เกมเพลย์ของมันไม่ได้เปลี่ยนเป็นการพัฒนาแค่กราฟิกอย่างแท้จริง โดยรูปแบบแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างของมันคือพื้นฐานของเกมทั่วไปยุคนั้น ที่ผู้เล่นจะบังคับตัวละครเดินและกระโดดไปตามฉากที่เต็มไปด้วยอุปสรรคที่เรียบง่ายเช่นศัตรูที่มาหลากหลายประเภท และยังมีพื้นผิวให้กระโดด เกมแบ่งออกเป็นด่านที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศที่หลายส่วนคล้ายกับมาริโอทั้งด่านว่ายน้ำ , ฉากที่มีพื้นผิวเป็นลาวาร้อนแรงหรือด่านทะเลทราย ที่บางส่วนใน Alex Kidd มาก่อนเกมลุงหนวดด้วยซ้ำ

โดยตัวละครหลัก Alex จะมีอาวุธหลักเป็นการต่อยที่ใช้โจมตีระยะใกล้ และยังมีไอเทมพิเศษให้ปล่อยพลังได้ที่เราจะได้ตามบล็อกและใช้ระบบสุ่มทำให้การเล่นแต่ละครั้งต้องลุ้นตลอดว่าจะได้อะไร นอกจากนี้ยังมีไอเทมที่เป็นกับดักที่จะมีศัตรูที่เรากำจัดไม่ได้ออกมาไล่ล่าเราด้วย และยังมีฉากพิเศษที่เราได้ใช้ยานพาหนะเช่นด่านน้ำมีเรือความเร็วสูง และมีฉากที่เราใช้เฮลิคอปเตอร์บินไปบนท้องฟ้าแล้วไล่ยิงศัตรู ทำให้มันมีความแตกต่างจากเกมจากค่ายอื่นพอสมควร ต้องคิดว่าต้นฉบับออกในปี 1986 ด้วยถือว่าผู้สร้างพยายามที่จะคิดให้แตกต่างจากเกมแอ็กชันอื่น

ส่วนเหรียญทองของเกมนี้ไม่ได้เก็บเพื่อ 1UP แต่เอามาซื้อของในร้ายขายที่จะมีมาให้เลือกมากมาย แทบไม่ซ้ำกันที่มีไว้ทั้งช่วยให้เราไปได้รวดเร็วขึ้นเช่นรถมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งตัวได้รวดเร็วแต่ก็บังคับได้ยาก และยังมีไอเทมแปลก ๆ ที่มาให้เราเลือกใช้มากมายกว่าซีรีส์คู่แข่งมาก อย่างไรก็ตามมันไม่ค่อยโดดเด่นเท่าที่ควรเพราะหลายส่วนในเกมดูธรรมดาไป ไอเทมที่ใส่เข้ามาเหมือนมาเป็นน้ำจิ้มเล็ก ๆ ที่ใช้เฉพาะด่านที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ระยะยาวและไม่มีอะไรน่าจดจำ

ยากท้าทาย การสู้บอสหลากหลาย

ความโดดเด่นที่เชื่อว่าผู้เล่นต้องเจอหากคุณได้เล่น Alex Kidd คือ “ความยาก” ระดับสุดโหดจนอยากปาจอยทิ้ง เพราะประเด็นแรกตัวละครหลักของเราโดนโจมตีครั้งเดียวก็ตายกลายเป็นวิญญาณลอยไปแล้ว และศัตรูในเกมก็ไม่ได้มาแค่เดินไปเดินมากเท่านั้น ยังมีพวกยิงโจมตีระยะไกล หรือซ่อนอยู่ในจุดที่คาดไม่ถึงรวมทั้งฉากที่ใส่มาแบบไม่เกรงใจกันเพราะมีทั้งการกระโดดข้ามเหวหรือทะเลลาวาที่ร้อนแรง แถมระบบฟิสิกส์ของเกมก็ไม่ได้สมจริงการกระโดดไปยังพื้นผิวต้องกะจังหวะให้ดีไม่งั้นได้ลื่นตกเหวตายตลอดแน่ อย่างไรก็ตามแม้เกมจะยากระดับสุดโหดแต่การเอากลับมาทำใหม่ผู้สร้างได้ใส่โหมดพิเศษที่ทำให้เรามีตัวให้ใช้แบบไม่มีวันหมดทำให้เราสามารถจบได้แต่เชื่อว่ากว่าจะผ่านด่านสุดท้ายคงตายกันไปหลายร้อยตัวแน่

ส่วนที่น่าสนใจของ Alex Kidd in Miracle World DX คือการต่อสู้กับบอสในเกมที่มาแบบทั้งปกติที่ใช้การโจมตีด้วยหมัดหรือไอเทมพิเศษที่เก็บได้มาต่อสู้ ที่รับประกันความโหดเพราะบอสบางตัวเรียกเพื่อนมาช่วยรุมเรา และยิ่งเราโดนอัดทีเดียวก็ตายทำให้มันเพิ่มความโหดไปหลายเท่า นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้กับบอสแบบเล่นมินิเกมโดยการเล่น “เป่ายิ้งฉุบ” กับบอสที่และผู้เล่นต้องสุ่มเลือกว่าจะออก กรรไกร, ค้อน หรือกระดาษ และมีการใส่คั9ซีนเข้ามาเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นด้วย ถือว่าเป็นของแปลกในยุคนั้นที่บางคนชอบเพราะไม่ต้องสู้แบบแอ็กชัน แต่บางคนไม่ชอบเพราะมันต้องวัดดวงเอา

เอาเข้าจริง ๆ แล้ว Alex Kidd in Miracle World DX อาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่ากับเกมเทพ ๆ ในยุคนั้นเพราะแอ็กชันของเกมไม่ได้เทพหรือเหนือชั้นข้ามยุคสมัยมา แต่โดยรวมแล้วถือว่าสนุกและมีอะไรให้พูดถึงพอสมควรโดยเฉพาะความยากของมันที่เรียกว่ายากระดับสุดโหด และไอเดียแปลก ๆ ที่เกมใส่เข้ามาเช่นการเล่นเป่ายิ้งฉุบกับบอส หรือเรื่องราวที่มีความซับซ้อนกว่าเกมในยุคนั้นที่ทาง SEGA ถือว่าตั้งใจปั้นให้มาสู้กับมาริโอแม้จะไม่สามารถทำได้แต่ก็ถือว่าเป็นความสนุกแบบมาตรฐานที่ใครอยากลองสัมผัสเกมยุค 80 ที่มีการอัปเกรดกราฟิกให้เข้ากับยุคสมัยก็พอจะหาความสนุกได้ในระดับน่าพอใจ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส