[Review] Outriders ผลงานจากทีมงานยุคเก๋า ที่เก่า แต่ลงตัว
Our score
8.0

Outriders

จุดเด่น

  1. Gameplay ที่สนุก ดิบ เถื่อน มันส์ แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
  2. การออกแบบ Class ที่สร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างดี
  3. ระบบ Gear Progression ที่ออกแบบมาดีมาก
  4. การเล่นไม่ยืดเยื้อจนเกินไป สามารถจบเกมได้โดยใช้เวลาไม่นาน ก่อนเข้า Post Game (ประมาณ 10-12 ชั่วโมง ถ้าไม่ทำ Sidequest)
  5. จัดการระดับความยากมาได้เป็นอย่างดี
  6. ระบบ Online Coop ที่สนุก

จุดสังเกต

  1. กราฟิกที่ยังทำออกมาได้ไม่สมกับยุค Next-Gen
  2. ตัวเกมไม่ได้เป็น Live Service ทำให้ไม่ค่อยมีคุณค่าในการกลับมาเล่นซ้ำสักเท่าไร
  3. เนื้อหาในเกมที่มีน้อยเกินไป และช่วง Post Game ที่บังคับเล่น Online ไม่งั้นจะยากมาก ๆ
  4. โหลดบ่อยมาก ๆ และบ่อยเกินไป (ข้อจำกัดของ Engine)
  • GAMEPLAY

    9.0

  • GRAPHICS

    7.5

  • STORY

    7.5

  • PERFORMANCE

    7.5

  • VALUE

    7.5

Outriders เป็นอีกหนึ่งเกม Looter Shooter ที่ได้ถูกพูดถึงอยู่บ้างในช่วงเวลานี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานจาก People Can Fly เป็นที่รู้จักจากผลงานอย่าง Bulletstorm และ Gears of War โดยคราวนี้พวกเขาได้กลับมาทำเกม AAA กันอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายจากวงการไปนานมากครับ

Outriders ได้หยิบเอาแนวคิดดั้งเดิมของ Gears of War มาผสมกับเกมแนว Looter Shooter ที่เป็นที่นิยมในสมัยนี้ ทำให้มันออกมากลายเป็นเกม TPS หลุดออกมาจากปี 2010 แบบ Gear of War 3 ที่ผสมผสานระบบ Gear Progression และมีสกิลแบ่งตามคลาสให้ใช้แบบเกมอย่าง Destiny พร้อมกับการเล่าเรื่อง Sci-fi แบบเกมอย่าง Mass Effect ทำให้ Outriders นั้นเป็นเกมใหม่ ที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกใหม่อะไรเลย

แต่ถึงแบบนั้นตัวเกมมันก็สนุกของมันเองในตัวอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปมองว่าระบบเกมมันเก่า อะไร ๆ ก็ตกยุคไปแล้ว ระบบแบบนี้ใคร ๆ เขาก็ใช้กัน หรือบางเกมก็ไม่ทำกันแล้ว แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่า บางทีแล้วอะไรที่มันเดิม ๆ และดีในตัวมันเองอยู่แล้ว ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเช่นกัน


Story


ในช่วงกลางศตวรรษที่ 21 โลกได้เข้าสู่การล้มสลาย จากภัยพิบัติที่เติบโตขึ้น ทำให้มนุษย์นั้นอาศัยอยู่ไม่ได้อีกต่อไป พวกเขาจึงตัดสินใจไปก่อตั้งอาณานิคมใหม่บนดาว Enoch ที่สภาพคล้ายโลกทุกอย่าง และมนุษย์นั้นสามารถอาศัยอยู่ได้

หลังจากการเดินทางมายาวนานถึง 80 ปี บนเรืออาณานิคม คนกลุ่มแรกที่ได้ไปเหยียบดาว Enoch ก็คือพวก Outriders ผู้ที่เป็นทหารชั้นยอด ได้สำรวจดาว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งอาณานิคมต่อไป

แต่เรื่องก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาได้ตรวจพบความผิดปกติของพายุ Anomaly Storm ที่มาพร้อมกับพลังงานไม่ทราบชนิดบางอย่าง ได้ทำลายสิ่งมีชีวิต และฆ่าสมาชิกของกลุ่มสำรวจไป ทำให้พวกเขาต้องรีบไปเตือนถึงเจ้าหน้าที่อยู่บนเรืออาณานิคม ว่าห้ามลงจอดยานเด็ดขาด แต่กลุ่มผู้นำกลับไม่เชื่อฟัง และได้ส่งกองกำลังมาจัดการกับพวก Outriders ให้หมด

จากเหตุการณ์ครั้งนั้น มี Outriders ตายจากการต่อสู้เยอะมาก บางคนก็ถูก Anomaly Storm ทำลาย และได้มี Outriders คนหนึ่งรอดจากการต่อสู้ แต่ร่างกายก็อยู่ในขั้นแย่มาก ทำให้เราถูกจับใส่เครื่องแช่แข็งโดยนักวิทยาศาสตร์ เพื่อรอการรักษาต่อไป

เวลาผ่านมา 30 ปี เราได้ถูกปลุกจากเครื่องแช่แข็ง และพบว่าในดาว Enoch นั้นเปลี่ยนไปมาก การก่อตั้งอาณานิคมนั้นล้มเหลว มีสงครามแย่งชิงทรัพยากรกัน อีกทั้งยังต้องรับมือกับเอเลียนที่อยู่ในดาวนี้อีกด้วย Outriders ผู้ที่รอดชีวิตจาก Anomaly Storm เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตื่นมาพร้อมกับพลังเหนือธรรมชาติ ที่ทำให้เป็นอมตะและถูกเรียกว่า Altered

แน่นอนครับว่า เราจะได้รับบทเป็น Outriders ผู้ที่รอดชีวิต และได้กลายเป็น Altered เข้าร่วมต่อสู้เพื่อยุติสงคราม และมุ่งหน้าก่อตั้งอาณานิคมต่อไป พร้อม ๆ กับ Altered Outriders ผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ แบบ Coop สูงสุดที่ 4 คนใน 1 ทีมครับ

พล็อตเรื่องของเกมนี้ ต้องบอกว่ามันค่อนข้างเรียบง่ายมาก ไม่มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไร ตลอดทั้งเกมเราจะได้พบเจอกับตัวละครต่าง ๆ ที่จะเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักไปพร้อม ๆ กับเรา ตัวเกมเขียนบทสนทนาออกมาได้ดี และที่สำคัญคือตัวละครของเราพูดได้ด้วย (อันนี้สำคัญอยู่) เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกอินไปกับมันได้ครับ

ในส่วนของ Sidequest นั้น ก็ออกแบบมาดีมาก และมันไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นต้องทำ Sidequest เลย แต่ถ้าหากเราอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมไม่ว่าจะเกี่ยวกับตัวละคร NPC ฉากแผนที่ภายในเกม หรือแม้แต่การออกล่าค่าหัว ล่ามอนสเตอร์ ก็สามารถทำได้ และมันจะไม่มีผลอะไรกับเนื้อเรื่องหลัก นอกจากจะทำให้เราได้ค่าประสบการณ์ พร้อมกับอุปกรณ์ที่ดีขึ้นครับ

อย่างไรก็ตาม Outriders เป็นอีกหนึ่งเกมที่ “มีวัตถุดิบที่ดี” แต่กลับ “ปรุงอาหารออกมาได้ไม่ดี” มากสักเท่าไรนักครับ เพราะด้วยขอจำกัดหลายอย่าง ที่ทีมงานได้ตั้งมันขึ้นมาเอง และมันก็คือการที่ตัวเกม ไปโฟกัสกับออนไลน์มากเกินไป ทำให้มันมีข้อจำกัดในการเล่าเรื่องราว แทนที่เราจะได้เล่นเกม Single Player ที่สเกลขนาดใหญ่ ๆ แต่ต้องมาถูกจำกัดเพราะการที่ตัวเกมมันออนไลน์ตลอดเวลานี่ล่ะ โดยในส่วนนี้ผมจะอธิบายอีกทีในช่วงสรุปครับ


Gameplay


Outriders เป็นเกมแนว TPS RPG Looter Shooter ที่ได้หยิบเอา Gameplay ของ Gears of War มาผสมกับ Destiny โดยใครที่เคยเล่น Gears of War มาก่อน ก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กับระบบ Cover Shooter ที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งคาแรกเตอร์ของอาวุธแต่ละชนิดเอง ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนเล่น Gears of War อยู่เลยไม่มีผิด

สิ่งที่ Outriders ทำได้ดีมาก ๆ ก็คือ Gameplay ที่สนุก เร้าใจ และมีความท้าทายสูงครับ ตัวเกมจะแบ่งเป็น 4 Class ให้ผู้เล่นเลือก โดยแต่ละ Class นั้นจะมี Style Gameplay ที่แตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง รวมไปถึงอาวุธประจำคลาส ก็จะแตกต่างกันด้วย ทำให้มันมีความพิเศษมาก ๆ และไม่ทำให้แต่ละคลาสก็รู้สึกเหมือนกันครับ

ยกตัวอย่างเช่นใน Class Technomancer ที่จะเน้นใช้อุปกรณ์ และมีพลังน้ำแข็งติดตัว พร้อมกับอาวุธหลักอย่าง Sniper Rifle ที่จะคอยช่วย Support เพื่อนร่วมทีมได้ หรือ Trickster ที่มาพร้อมกับพลัง Spacetime ที่จะเน้นการโจมตีระยะใกล้ โดยอาวุธหลักก็หนีไม่พ้นปืนอย่าง Shotgun แน่นอน

สิ่งที่ทำให้ Gameplay ของ Outriders สนุกอีกอย่าง ก็คือการที่ตัวเกมมันเน้น Action เลือดสาดแบบจัดเต็มมาก ๆ ถึงแม้จะบอกว่ามันเป็นเกม Cover Shooter แต่เกมนี้การ Cover คือเรื่องที่ไม่ควรทำสักเท่าไร เพราะเราจะได้พลังชีวิตเพิ่มจากการฆ่าศัตรู และถ้ายิ่งเป็น Class Trickster ล่ะก็ บอกลาการ Cover ไปได้เลย เพราะการฆ่าศัตรู 1 ตัว เราจะได้เลือดกลับคืนมาทั้งหมด แบบนี้ให้ลองนึกภาพดูครับว่ามันจะเดือดขนาดไหน

นอกจากนี้เองก็ตัวเกมก็ยังมีระบบ Mod อุปกรณ์เข้ามา และมันจะทำให้สกิลของเรามีความสามารถที่เปลี่ยนไป หรือสูงขึ้นตาม Mod ที่เราใช้ ตรงนี้ต้องขอชมทีมงานว่าออกแบบมาได้ดีมาก เพราะมันจะเป็นการสร้างความหลากหลายในตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นคลาสเดียวกัน แต่ก็สามารถแยกสายไปเล่นหลายแบบได้

ยกตัวอย่างเช่นสกิลสร้างความเสียหายให้ศัตรู เราสามารถ Mod มันให้กลายเป็น Skill Heal เพื่อนร่วมทีมได้ หรือแม้แต่ตัวละครสาย Technomancer เปลี่ยนจากถือสไนเปอร์ มาถือปืนกล ยืนในแนวหน้า Tank ให้เพื่อนร่วมทีมได้เป็นต้นครับ

หัวใจหลักของเกมแนว Looter Shooter ก็คือ Gear Progression ภายในเกม โดยมันจะเป็นตัวตัดสินเลยว่า เกมนี้ถูกออกแบบมาดีมากน้อยแค่ไหน

ต้องยอมรับครับว่า Outriders เป็นเกมที่ออกแบบระบบ Gear Progression มาได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ตั้งแต่เริ่มเล่นจนจบเกม เราจะได้ใช้ระบบ Mod อุปกรณ์อยู่ตลอดเวลา และจะมีอุปกรณ์ใหม่ ๆ ดรอปมาให้เราเรื่อย ๆ ทำให้เราไม่รู้สึกว่ากำลังตามหลังศัตรูอยู่ อีกทั้งในส่วนของ Legendery Item ที่มันเป็น Legendery จริง ๆ และมีความพิเศษในตัวของมันเองด้วย

ในส่วนของระดับความยาก เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เกม Looter Shooter สมัยใหม่ควรจะปรับมาใช้ตาม ใน Outriders นั้นได้แบ่งระดับความยากเป็น World Tier ครับ โดยจะมี 1 ถึง 15 โดยแต่ละระดับก็จะเพิ่มความยากไปเรื่อย ๆ โดยของตอบแทนที่จะได้รับ ก็คือโอกาสดรอปอุปกรณ์ระดับสูงเพิ่มมากขึ้น ตาม World Tier ที่เราเล่น ยิ่งเราปรับไว้สูง ๆ เราก็ได้จะค่าเหนื่อยตอบแทน หรือเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายครับ

แต่ถ้าใครที่ต้องการเล่นสนุก ๆ ง่าย ๆ หรือเอาแค่เนื้อเรื่องอย่างเดียวก็ทำได้ และก็ยังได้ของตอบแทน หรือของ Legendery เช่นกัน งานนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะตามเพื่อนไม่ทัน หรือกลัวจะเหลื่อมล้ำกัน เพราะตัวเกมได้ออกแบบระบบนี้ไว้ดีมากครับ


Graphics


Outriders เป็นอีกหนึ่งผลงานที่มาจาก Unreal Engine 4 ที่ว่ากันตามตรงเลยว่า ตัวผมเองค่อนข้างจะไม่ชอบ หรือจะเรียกว่าอคติกับ Engine ตัวนี้เลยก็ไม่ผิดนัก ตัวเกมที่ผมใช้รีวิวในครั้งนี้ มีอยู่ 2 เวอร์ชันด้วยกันครับ (PC และ PS5)

ในส่วนของ PS5 นั้นทำออกมาได้ดีครับ ตัวเกมรันที่ 1692p แบบ Dynamic Resolution โดยจะอัปสเกลไปที่ 2160p หรือ 4K โดยทำเฟรมเรตได้ที่ 60FPS นิ่ง ๆ สบาย ๆ ไม่มีตกตลอดทั้งเกม เรียกได่ว่าเล่นได้ลื่น ๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลยล่ะ

แต่ในส่วนของ PC นั้น ตรงนี้เราคงต้องมาคุยกันอีกหน่อย ทั้งในเครื่อง Performace เอง และในเรื่องของตัว Engine เองครับ

สเปก PC ที่ผมใช้รีวิวรันโดย Intel Core i9-11900K พร้อมกับ RTX 2070 Super และ RAM 32GB ตัวเกมติดตั้งไว้ใน SSD NVMe M.2 WD Black โดยจากการทดสอบเล่นเกมที่ Full HD 1080P นั้น ไม่มีปัญหาอะไร สามารถปรับตั้งค่าไว้สูงสุดที่ Ultra และได้เฟรมเรตที่ 100+ ขี้นไปสบาย ๆ

จากนั้นผมได้ลองปรับความละเอียดภาพเป็น 4K โดยใช้ Setting เดิม ปรากฏว่าเฟรมเรตมันตกฮวบไปจากเดิมเหลือ 39-45 avg เลยทีเดียว แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับเกมที่รันแบบ 4K แต่จริง ๆ แล้วสำหรับเกมนี้ ผมมองว่า Performance มันไม่ดีสักเท่าไรนักครับ

Unreal Engine 4 เป็น Engine ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีปัญหาเรื่อง Performance อยู่เยอะมาก และกราฟิกของเกม Outriders เอง ก็ไม่ได้สวยถึงขนาดที่ว่ามันจะต้องใช้ทรัพยากรของเครื่องขนาดนั้น โดยปัญหานี้ได้ถูกแก้ไปบ้างแล้วในช่วง Beta แต่ก็ยังตามมายันตัวเกมเต็มอยู่

“แต่ว่าปัญหานี้จะหายไป ถ้าหากคุณใช้ Nvidia RTX ครับ”

Nvidia Geforce RTX คือคำตอบของเกมนี้

จะเรียกว่าขายของก็ไม่ผิดนัก ถ้าหากสงสัยว่า แล้วไอ่การใช้ Nvidia มันจะช่วยยังไง ผมขอแนะนำให้รู้จักกับ สิ่งที่เรียกว่า DLSS ครับ

DLSS OFF 39 FPS (Ultra Setting 4K)
DLSS ON 120 FPS (Ultra Setting 4K)

Nvidia DLSS (Deep Learning Super Sampling) เป็นเทคนิคการใช้ AI ช่วยในการช่วยในการเรนเดอร์พวก รายละเอียดบนพื้นผิว การลดรอยหยัก และอื่น ๆ อีกมาก โดยมันจะช่วยทำให้เกมสามารถทำเฟรมเรตได้ดีขึ้นมากแบบเท่าตัว โดยไม่เสียคุณภาพของกราฟิกไปมากครับ

DLSS OFF 43 FPS (Ultra Setting 4K)
DLSS ON 111 FPS (Ultra Setting 4K)

โดยระบบนี้จะมาพร้อมกับการ์ดจอของ Nvidia RTX เท่านั้น และในเกม Outriders เอง ก็รองรับ DLSS เต็มรูปแบบ ทำให้ผมสามารถเล่นเกมในความละเอียด 4K ได้ และมีเฟรมเรตที่สูงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว จากเดิม 40FPS เป็น 110FPS ใน DLSS Quality Mode

น่าเสียดายที่ตัวเกมไม่ได้มี Ray Tracing ให้เปิด แต่อย่างไรก็ตาม การเล่นเกมในความละเอียด 4K นั้น เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากแล้ว สำหรับยุคนี้ ที่ถ้าหากไม่ใช่เกมแนว Competitive การเล่นเกมในความละเอียด 4K นั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากภาพที่จะสวยขึ้นแล้ว รายละเอียดต่าง ๆ ก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้หลาย ๆ คนที่เล่นเกม 4K มาแล้ว จะกลับไปเล่นเกม 1080p กันไม่ได้เลยล่ะ (แบบเดียวกับ 30FPS 60FPS)

ในอนาคตเราจะมาพูดถึงเจ้า DLSS กันมากกว่านี้แน่นอน แต่ตอนนี้กลับไปที่ Outriders กันต่อครับ


สรุป


Outriders เป็นเกมที่ไม่ได้ดี และก็ไม่ได้แย่ อีกทั้งยังเป็นเกมที่สนุก และมันก็ไม่สนุกในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Gameplay, กราฟิกหรือแม้แต่ปัญหาบัก การเชื่อมต่อ และอื่น ๆ ภายในเกมรวมกัน มันทำให้ผมรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดเกมนี้ไประหว่าง 100 ชั่วโมงการเล่นก่อนรีวิวทั้ง 2 เวอร์ชัน (PC,PS5) นี้

จากในตอนแรกที่ผมบอกไว้ว่า เนื้อเรื่อง และการเล่าเรื่องของตัวเกม ถูกจำกัดเอาไว้ที่โหมดออนไลน์ เนื่องจากว่า Outriders นั้น เป็นเกมที่มีศักยภาพเป็นอีกหนึ่งสุดยอด Sci-Fi Single Player สเกลใหญ่ ๆ ที่เอาไปเทียบกับ Mass Effect, Destiny ได้เลย

แต่การที่ตัวเกมนั้นบังคับออนไลน์ตลอดเวลา โดยเมื่อสัญญาณหลุดเมื่อไร หรือเซิร์ฟเวอร์พังเมื่อไร เราจะถูกดีดออกจาเกมทันที ไหนจะเรื่องการออกแบบเกมโดยรวม ที่ต้องคำนึงถึงการเล่นออนไลน์ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Lobby, Player Sync หรือปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ ที่ทีมงานต้องไปคิดถึงตรงนั้นก่อน แทนที่จะโฟกัสไปที่การเล่นคนเดียวไปเลย ทำให้ทุกอย่าง มันดูขัดหูขัดตาไปหมด

อีกสิ่งหนึ่งที่ดูก็รู้เลยว่าเป็นข้อจำกัดของ Engine และข้อจำกัดของออนไลน์ ก็คือการที่ตัวเกมมันโหลดบ่อยมาก ๆ ชนิดที่ว่าแม้การเปิดปิดประตู หรือการไต่เชือกลงเพื่อเปลี่ยนฉาก ก็ยังจำเป็นต้องโหลด โดยสาเหตุที่แท้จริง มันไม่ใช่ว่าเกมต้องทำการโหลดฉากตอนนั้นหรอกครับ แต่มันเป็นเพราะข้อจำกัดของเกม ที่ต้องทำให้ผู้เล่นทุกคนซิงก์กัน เพื่อเปลี่ยนฉาก

แต่ก็ต้องยอมรับว่าทีมงานทำระบบ Coop มาได้ดีมาก และเป็นอีกหนึ่งเกมที่ Coop สนุกมาก ๆ มาพร้อมกับตัวละครที่มีความพิเศษในตัว และระบบ Gear Progression ที่ดี ทำให้มันน่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีอนาคต และไปต่อได้ยาว ๆ ทั้งปีนี้

แต่ความฝันต้องถูกดับลง เพราะว่าเกมนี้จะไม่ใช่ Live Service Game แบบ Destiny หรือ The Division ครับ

เป็นเรื่องที่ไม่ว่าผมจะคิดยังไง ก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทีมงานถึงเลือกที่จะไม่ทำให้ Outriders มันกลายเป็น Live Service Game ไปเลย เพราะว่าศักยภาพของตัวเกมที่เน้นโหมดออนไลน์ขนาดนี้ เรียกว่ามีของไปฟัดกับเกมรุ่นพี่อื่น ๆ ได้สบาย ๆ แต่ทีมงานกลับเลือกเส้นทางของ Outriders ให้ไปในจุดจบที่อาจจะไม่สวยนักก็ได้ในอนาคต แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังหวังอยู่ว่าสักวัน ทีมงานอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้

Outriders อาจจะไม่ใช่เกมที่ยอดเยี่ยม และไม่ใช่เกมที่ดีมาก แต่มันเป็นอีกหนึ่งเกมที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกมาก ๆ หลังจากที่ไม่ได้เล่นเกมแนวนี้มานาน และมันก็ควรจะเป็นอีกหนึ่งเกม ที่เกมเมอร์สาย Looter Shooter RPG ไม่ควรพลาดเด็ดขาดครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส