[รีวิวเกม] DEATHLOOP ตายแล้ว ตายอีก ตายไปเรื่อย ๆ
Our score
9.2

DEATHLOOP (PC)

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์ที่สนุกมาก ๆ โดยเฉพาะองค์ประกอบของระบบ Combat ต่าง ๆ
  2. เนื้อเรื่องที่เรียบง่าย และสามารถดึงความสนใจผู้เล่นให้อยากเล่นจนจบ
  3. Puzzle ที่มีความท้าทาย ชวนผู้เล่นให้ใช้สมอง แต่ก็ไม่สับสนจนเกินไปถึงกับต้องเปิด Walkthrough
  4. ด่านที่มีความกว้างและใหญ่ ที่มาพร้อมกับ Side Quest และ Random Encounter มากมาย
  5. โหมด Multiplayer ที่ผู้เล่นจะได้เปลี่ยนบทบาทจาก 'ผู้ถูกล่า' เป็น 'นักล่า'

จุดสังเกต

  1. ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของเกมที่ต้องแก้ไขโดยทีมงานผู้พัฒนา
  2. ใช้สเปคการ์ดจอเยอะพอสมควร
  3. AI ค่อนข้างโง่ และ การแฮ็กควรแก้ไขเรื่องระยะห่าง
  4. ราคาแพงเกินสำหรับเกมในยุคนี้ ถึงแม้จะพัฒนาให้กับคอนโซลที่มีขุมพลังสูงแบบ PS5 ก็ตาม

DEATHLOOP เกมแนว Action, Puzzle ด้วยมุมมองแบบ FPS วางจำหน่ายให้กับ PS5, PC และเป็นอีกหนึ่งผลงานจากผู้สร้าง Dishonored หรือทีมงาน Arkane Studio ถึงตัวเกมจะไม่ค่อยเป็นที่ฮือฮาในช่วงเปิดตัวนัก เนื่องจากเป็น IP ใหม่ แต่ตัวเกมก็สามารถสร้างความประทับใจได้อย่างยอดเยี่ยมแบบน่าประหลาดใจ ทำให้สื่อเกมต่าง ๆ ถึงกับโกยคะแนนให้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ทางเราก็ได้โค้ดรีวิวมาจากทีมผู้จัดจำหน่าย Bethesda เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่ได้เล่นจนจบด้วยเวลา 16 ชั่วโมงกว่า ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสื่อต่าง ๆ ถึงได้โกยคะแนนให้กับเกมนี้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ถึงเกมนี้จะสนุกมากแค่ไหน ก็ยังมีปัญหาในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องแก้ไขอยู่หนักพอสมควรครับ

*ก่อนที่เราจะเริ่ม ทางเราขอขอบคุณทีมผู้จัดจำหน่าย Bethesda สำหรับโค้ดรีวิวเกมอย่างสูงครับ*

Story

ใน DEATHLOOP ผู้เล่นจะรับบทเป็น Colt Vahn หัวหน้ารักษาความปลอดภัย และนักฆ่าที่ติดอยู่บนเกาะ Blackreef ซึ่งเขาเองจำอะไรไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาและเรื่องราวบนเกาะแห่งนี้ ในขณะที่เขาพยายามหาวิธีออกจากเกาะด้วยการพัง Time Loop (พลังวิเศษบนเกาะ Blackteef) พร้อมกับรื้อฟื้นความจำของตนเอง ก็มักจะโดนมือปืนที่ชื่อว่า Julianna ขัดขวางอยู่ตลอดเวลา

โดยทุกครั้งที่ Colt ตายหรือมีชีวิตรอดจนถึงวันถัดไป ด้วยพลังวิเศษของเกาะ Blackreef ส่งผลทำให้เวลาบนเกาะนี้จะถูกรีเซตเป็นวันเดิมไปเรื่อย ๆ และ Colt จะถูกส่งกลับมาให้ฟื้นบนชายหาดที่เดิมทุกครั้ง ซึ่งหลังจากที่เล่นช่วง Tutorial จนจบแล้ว ผู้เล่นจะพบว่า การที่จะทำลายพลังวิเศษของเกาะได้ จะต้องไล่ฆ่า Visionary (ผู้สร้างเกาะ) ทั้ง 8 คนก่อน จึงจะสามารถหนีออกจากเกาะแห่งนี้ได้

หลังจากที่ได้เล่นจนจบ ก็บอกได้ว่าเนื้อเรื่องหลักไม่ได้มีความลึกมาก เพราะหากสรุปในส่วนนี้โดยรวมก็คือผู้เล่นแค่ต้องฆ่า Visionary ทั้งหมด เพื่อทำลาย Time Loop และพา Colt หนีออกจากเกาะ Blackreef แต่ก็สามารถดึงความสนใจและทำให้อยากเล่นต่อจนจบได้ เพราะเนื้อเรื่องจะมีเควสต์ต่าง ๆ ให้ผู้เล่นค้นหาคำตอบ ซึ่งส่วนนี้ก็ต้องขอบคุณในเรื่องของเกมเพลย์ด้าน Puzzle ที่ออกแบบมาให้เราใช้สมองได้เต็มที่เช่นกันครับ

อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นแค่ส่วนของเนื้อเรื่องหลัก เพราะในเกมจะมีกระดาษโน้ตหรือข้อความบนคอมพิวเตอร์ที่จะอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครต่าง ๆ และความลับของเกาะให้ผู้เล่นได้เก็บไปแก้ปริศนาอีก ซึ่งหากคุณเป็นผู้เล่นที่ชอบเนื้อเรื่องที่มีความลึก ก็ไม่ต้องห่วงว่าเกมนี้จะมีเนื้อหาที่ตื้นเกินไปครับ

Gameplay

หากใครเคยเล่นเกมจาก Arkane Studios อย่าง Dishonored มาก่อน จะต้องคุ้นเคยกับองค์ประกอบต่าง ๆ ในเกมนี้อย่างแน่นอนครับ เพราะมีความคล้ายกัน โดยเฉพาะสกิลพิเศษต่าง ๆ ที่นำมาใช้ใน DEATHLOOP และมีการพัฒนาออกมาให้ดีขึ้นกว่าเดิม

จากที่ได้กล่าวไป เกมจะออกแนว Action, Puzzle ด้วยมุมมองแบบ FPS พร้อมกับองค์ประกอบ RPG ที่ผู้เล่นสามารถปรับแต่งคลังอาวุธได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้อาวุธแต่ละประเภทที่มาพร้อมกับค่า Rarity ต่าง ๆ (สีฟ้า, ม่วง, ทอง), Perks สำหรับอาวุธและตัวละครที่เรียกว่า Trinket, อาวุธระยะประชิด และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างระเบิดหรือมือถือแฮกสัญญาณ พร้อมกับ Slab หรือสกิลพิเศษที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นไว้ว่าถูกนำมาจากเกมอย่าง Dishonored มาใช้ ยกตัวอย่าง สกิล Shift ที่สามารถใช้วาร์ปได้ และสกิล ที่สามารถเด้งศัตรูขึ้นไปบนอากาศนั่นเอง

ด้วยความว่าองค์ประกอบหลักของเกมนี้คือ Time Loop ของเกาะ Blackreef ที่จะรีเซตวันทุกครั้งที่หมดเวลา หรือ Colt ตายลง ของที่เก็บไว้ในคลังก็จะหายสาบสูญเช่นกัน แต่หากได้เล่น Tutorial จนจบแล้ว ผู้เล่นจะพบว่าตัวเกมนั้นมีระบบ Infusion ที่สามารถใช้ Residumm (เก็บได้จากสิ่งของที่มีแสงสีรุ้งแปลก ๆ จะเจอระหว่างเล่น) เพื่อทำให้ของชิ้นนั้นอยู่ในคลังอย่างถาวรครับ

ผมได้ใช้เวลาไปกับส่วนนี้มากพอสมควร เพราะ Map มีความกว้างและใหญ่มาก ถึงจะมีแค่ 4 ด่าน แต่ด้วยช่วงเวลาที่ต่างกันก็ส่งผลทำให้อีเวนต์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงเช่นกัน

โดยแต่ละครั้งที่เล่นผมก็จะลองใช้วิธีที่ต่างกันไปเพื่อดูว่าตัวเกมจะปล่อยให้เราเล่นได้อิสระขนาดไหน ซึ่งจากที่ได้ลองไม่ว่าจะเล่น ‘บู๊แหลก’ หรือ ‘Stealth’ ไล่ฆ่าแบบเงียบ ๆ หรือยังไงก็ได้ตามใจผู้เล่น ก็สนุกทุกแบบครับ อย่างไรก็ตาม การเล่นแต่ละสไตล์จะมีข้อดีและข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน นั่นก็คือ

– ในสไตล์บู๊ หากผู้เล่นใช้ Slab และอาวุธที่มาพร้อมกับ Trinket ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นนี้มาด้วย จะสามารถเข้าไปยิงกราดได้อย่างสะใจ โดยเฉพาะถ้าคุณใช้ปืนที่สามารถใช้ได้ 2 มือที่ช่วยฟื้นเลือดได้ ถึงแม้ว่าจะโดนศัตรูเป็นร้อยก็ตามยังไงก็เอาอยู่ แต่ก็ควรระวังเรื่องกระสุนหมดให้ดีครับ

– Stealth นอกจากจะช่วยไม่ให้โดนศัตรูเป็นจำนวนมากถล่มแล้ว ตัวเกมก็ได้เปิดตัวเลือกใหม่ ๆ ให้ได้ผู้เล่นลองกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Slab เพื่อวาร์ปและดักแทงข้างหลังศัตรู หรือการใช้มือถือแฮกระบบปืนกลต่าง ๆ ให้ใช้เป็นกับดักยิงศัตรู ซึ่งส่วนนี้สามารถใช้เก็บศัตรูที่อยู่กันเป็นกลุ่มได้ดีเลยทีเดียวครับ นอกจากนั้นแล้วการเล่นสไตล์นี้ยังช่วยประหยัดเวลาผู้เล่นเยอะอีกด้วย เพราะไม่ต้องเสียเวลาจัดการกับศัตรูที่มาไล่ฆ่าจนหมด ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบสไตล์ Speedrun เช่นกันครับ

Puzzle ต่าง ๆ ของเกมนี้ ผมแนะนำให้กับผู้เล่นที่ชอบเกมแนว Puzzle เลยครับ เพราะส่วนใหญ่ทำออกมาให้ผู้เล่นได้ใช้สมองเยอะพอสมควร ถึงจะดูยากก็ตามแต่ก็ไม่สับสนจนเกินไป หากคุณตั้งใจฟังหรืออ่านส่วนต่าง ๆ ในเกมให้ดี จะไม่จำเป็นต้องพึ่งตัวช่วยจากอินเทอร์เน็ต หรือวิดีโอ Walkthrough บน Youtube เลย

สุดท้าย โหมด Multiplayer หรือ ‘Protect the Loop’ ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น Julianna เพื่อออกล่าผู้เล่นอื่นที่รับบทเป็น Colt ซึ่งในโหมดนี้จะมีความแตกต่างจากเนื้อเรื่องหลักอย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจาก Julianna จะมี Slab พิเศษเฉพาะตัวแล้ว ศัตรูในด่านจะร่วมมือกับเราเพื่อจัดการกับ Colt อีกด้วย และแต่ละครั้งที่ผู้เล่นออกล่า Colt ก็จะได้รับ EXP สำหรับ Hunter Rank เมื่อสามารถทำ Objective ต่าง ๆ ได้สำเร็จ เมื่อ Level Up แล้วก็จะปลดล็อกอาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในคลังอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยเกมเพลย์ที่มีตัวเลือกให้สนุกมากขนาดนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีข้อบกพร่องที่ขัดใจตามมาครับ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่ามันคือระบบ AI ศัตรู หรือเหล่า Eternalist ที่ค่อนข้างโง่ เพราะจากที่เล่นมามีหลายครั้งที่ผมฆ่าศัตรูด้วยการเอาดาบแทง แต่ AI ที่อยู่ในรัศมีที่มองเห็นกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เลยซะงั้น

นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีปัญหาเรื่องระยะห่างระหว่างแฮ็กสัญญาณต่าง ๆ ในขณะที่ผู้เล่นกำลังแฮกสัญญาณและเคลื่อนที่ไปด้วย จะพบว่าสัญญาณแฮกมักจะติด ๆ หลุด ๆ ทั้งที่เล็งไปที่เป้าหมายไว้แม่นแล้วก็ตามครับ

Graphic / Presentation

ส่วนนี้ต้องขอเริ่มจากเรื่องของกราฟิกที่กินสเปกมากจนเกินไป หากคุณเล่นบน PC จะสังเกตเห็นในได้ว่าตัวเกมกิน VRAM ของการ์ดจอสูงมาก ถึงแม้ว่าคุณจะปรับอยู่ในระดับ Very Low ด้วยความชัด 1920×1080 แล้วก็ตาม ตัวเกมจะใช้ VRAM อยู่ที่ 5.3GB และหากปรับเป็น High หรือมากขึ้นไปล่ะก็ จะใช้ VRAM มากกว่า 6GB ขึ้นไป

จากรายละเอียดสเปกขั้นต่ำใน Steam ได้กล่าวไว้ว่าการ์ดจอขั้นต่ำแนะนำให้ใช้ GTX 1060 (6GB) ซึ่งผมเองใช้ RTX 2060 (6GB) และปรับค่ากราฟิกเป็น Very Low เพื่อให้ตัวเกมใช้ VRAM ไม่เกินตัวสุดแล้ว ก็ยังไม่พอกับที่ตัวเกมต้องการครับ

อย่างไรก็ตาม ผมก็สามารถเล่นเกมได้อย่างไม่มีปัญหาเลย เพราะไม่เจอปัญหา Framerate กระตุกหรือปัญหาโมเดลที่โหลดไม่เสร็จคล้ายกับ Cyberpunk 2077 แต่ด้วย VRAM ที่ไม่เพียงพอกับความต้องการเกมก็ส่งผลทำให้เกม Crash ในบางช่วงครับ โดยส่วนนี้ผมไม่แน่ใจว่าเกิดกับผู้เล่นที่ใช้คอมสเปก High-End หรือไม่ เพราะจากที่ได้ยินมาส่วนใหญ่จะเจอกับปัญหา Framerate ทำงานได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นหากคุณสนใจที่จะเล่นเกมนี้บน PC ล่ะก็ แนะนำให้ใช้การ์ดจอที่มี VRAM มากกว่า 8GB สำหรับขั้นต่ำ หรือรอทีมงานปล่อยแพตช์ออกมาแก้ไขน่าจะดีกว่า

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีข้อเสียในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเกมที่เกิดจากโปรแกรมป้องกันเจาะเถื่อนอย่าง Denovo ที่ติดมาอีกด้วย ถึงแม้ว่าคุณจะมีคอมพิวเตอร์ระดับ High-End ก็ตาม ตัวเกมจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่ดี เพราะตัวโปรแกรมจะดึงประสิทธิภาพของเกมลง ซึ่งก็เป็นอีกปัญหาที่ต้องรอทางทีมงานปล่อยแพตช์ออกมาแก้ไขเช่นกันครับ

ทั้งนี้ ในส่วนของงานภาพกราฟิกของเกมนี้ มีสไตล์ที่ออกแนวผสมระหว่างสไตล์การ์ตูนและความสมจริงเข้าด้วยกัน ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม Anatomy ของตัวละครก็ดูสมจริงกว่าใน Dishonored ที่มีนักกล้ามตัวใหญ่แต่หัวดันเล็กที่ดูไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ หากมองในแง่ความสมจริงครับ

การออกแบบด่านต่าง ๆ ของเกมนี้ จะออกไปแนว Retro ยุค 60s ของประเทศสหรัฐอเมริกา ผสมกับสไตล์ Dystopian Fantasy เพื่อให้เหมาะกับประวัติเกาะ Blackreef ที่ถูกสร้างโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในบรรดา Visionary ทั้ง 8 และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปาร์ตี้แบบบ้าระห่ำได้อย่างไม่มีวันจบ

ซึ่งส่วนตัวผมชอบในส่วนนี้มากพอ ๆ กับเกมเพลย์ เพราะนอกจากจะมีสไตล์การออกแบบที่น่าสนใจแล้ว ด่านต่าง ๆ ยังกว้างและใหญ่มาก และมีจุดที่น่าสนใจและอีเวนต์ต่าง ๆ ให้ได้เล่นกันอีกด้วย ยกตัวอย่าง Random Encounter และ Side Quest ต่าง ๆ ที่เราจะได้เจอระหว่างเล่น และมาพร้อมกับรางวัลดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หรือทางลับไว้ใช้ในเนื้อเรื่องหลักก็ตาม

การออกแบบตัวละคร ในเชิงดีไซน์ตัวละครหลักทุกตัวออกแบบมาด้วยเอกลักษณ์ที่ดูเด่นในสไตล์Retro ยุค 60s และตรงกับบุกคลิกภาพที่เขียนให้ตัวละครเหล่านั้นเป็นอย่างดีครับ อย่างไรก็ตาม ตัวละครที่เด่นที่สุดต้องยกให้ Colt กับ Julianna เพราะทั้งคู่มีเรื่องราวน่าสนใจพอสมควร และไหนจะมีบทพูดที่กัดกันอย่างสนุกสนานอยู่ตลอดเวลา ถึงทั้งคู่จะเป็นคู่ปรับที่ไล่ฆ่ากันอยู่ตลอดเวลาก็ตาม

อีกส่วนที่มองข้ามไม่ได้แน่นอน นั่นก็คือเสียงประกอบต่าง ๆ โดยเฉพาะเพลงของเกมนี้ครับ เพลงประกอบของ DEATHLOOP จะเน้นไปแนว Jazz พร้อมกับเอกลักษณ์เรื่องเสียงดนตรีจากยุค 60s และมีองค์ประกอบคล้ายกับเพลงจากภาพยนตร์สายลับ James Bond 007 คลาสสิก หากสงสัยว่าที่กล่าวมาเป็นอย่างไร สามารถลองฟังเพลงประกอบจาก DEATHLOOP ได้ตามนี้เลยครับ

Verdict

ด้วยเกมเพลย์ที่สนุกมาก และเนื้อเรื่องที่เขียนออกมาได้ไม่น่าผิดหวัง ไม่แปลกใจที่ DEATHLOOP จะกลายเป็นอีกเกมม้ามืดจาก Arkane Studios ที่เปิดตัวไม่ดังแต่ทำคอนเทนต์ออกมาได้ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนและเสียงตอบรับที่ดีจากสื่อก็กลบปัญหาเรื่องประสิทธิภาพการทำงานจากผู้เล่นโดยตรงไม่ได้ครับ ซึ่งถ้าหากทีมงานรีบปล่อยแพตช์แก้ไขปัญหานี้ออกมาได้โดยด่วน ก็มีโอกาสเข้าชิงตำแหน่งเกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 เลยก็ว่าได้

มาถึงช่วงที่สำคัญของรีวิวนี้ก็คือ “เกมนี้แนะนำให้ซื้อไหม?“ จากที่เล่นมา เกมนี้เหมาะกับผู้เล่นทั่วไปเช่นกัน หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้เล่นที่ชอบแนว Action, เน้นเนื้อเรื่อง หรือ ใช้สมองแก้ Puzzle ต่าง ๆ แต่ด้วยราคา 1,970 บาท เพราะมีสาเหตุมาจากตัวเกมนั้น ตั้งใจพัฒนาให้กับคอนโซลที่มีขุมพลังสูงแบบ PS5 จึงทำให้ทุนสร้างของเกมสูงขึ้น แต่หากมองในฐานะผู้บริโภคแล้ว ยุคปัจจุบันที่ PS5 ยังไม่สามารถเข้าถึงมือผู้เล่นได้เกือบทุกคน และยังมีเกมเป็นจำนวนมากที่วางจำหน่ายให้กับ PS4 และ Xbox One อยู่ ให้มองยังไงก็ถือว่าแพงเกินไปอยู่ดีครับ

และแน่นอนว่า ถ้าเกมมีราคาสูง คุณภาพก็ควรที่จะสูงตามไปด้วย แต่หากมองในเรื่องขององค์ประกอบและคอนเทนต์ต่าง ๆ ของเกมนี้ก็ถือว่าเหมาะกับความสนุกที่ได้รับ แต่เนื่องจากตัวเกมยังมีปัญหาในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องแก้ไข ซึ่งผู้เล่นก็ต้องรอทางทีมงานปล่อยแพตช์อัปเดตให้กับเกม จึงขอแนะนำว่าให้ซื้อหลังจากที่ตัวเกมได้รับการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะดีกว่าครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส