สวัสดีแฟนๆเกมเมอร์ชาวไทยทุกท่านอีกครั้งครับ ในวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ที่ผ่าน Ubisoft ได้จัดงานประชาสัมพันธ์เปิดตัว Tom Clancy’s Ghost Recon Breakpoint ที่โรงแรม Grand Hyatt Erawan กรุงเทพมหานคร โดยภายในงานนั้น ก็มีเหล่าสื่อมวลชนมาเข้าร่วมงานกันมากมาย และ Ubisoft ก็ได้เซอร์ไพรส์กลางงานว่า Ghost Recon Breakpoint นั้นจะรองรับภาษาไทยอีกด้วย !!

แน่นอนว่าทางแบไต๋เองนั้นก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมงานนี้ และที่พิเศษยิ่งกว่า นั้นก็คือทางเราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Julius Witz ผู้จัดการทั่วไปของ Ubisoft SEA อีกด้วย โดยเนื้อหาหลักๆ ที่เราได้คุยกันนั้นจะเน้นไปที่เรื่องถึงการแปลภาษาไทย หรือการ Localization และมุมมองของวงการเกมในไทย รวมไปถึงทิศทางในอนาคตของ Ubisoft ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อวงการเกมในไทยครับ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ Ubisoft และคุณ Julius Witz ที่มาพูดคุยกับพวกเราด้วยครับ

ประเด็นแรกที่เราจะพูดถึงกันก็คือเรื่อง ความยากในการแปลภาษาไทย และความคาดหวังถึงกระแสตอบรับต่อตัวเกม รวมไปถึง Feedback ต่างๆ เป็นอย่างที่เราทราบกันดีครับว่า Ghost Recon Breakpoint นั้นเป็นเกมแรกของ Ubisoft เลยที่แปลภาษาไทยออกมาอย่างเป็นทางการ (แต่เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่า Rainbow Six Siege ต่างหากคือเกมแรกที่แปล) ดังนั้นทางทีมงานเองก็คาดหวังเป็นอย่างสูงว่ามันจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้เล่นชาวไทยทุกคนครับ

“เราคาดหวังเป็นอย่างสูงมากจริงๆ พวกเราใช้เวลานานในการสร้างเกม และเราหวังว่าคุณภาพของมันจะออกมาดีน่าพอใจ แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นอยู่ดี และเนื่องจากว่านี่เป็น Project แรกของเรา และมันจะไม่ใช้ Project สุดท้ายแน่นอน ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเราก็จะเรียนรู้จากมันครับ” Julius Witz

นอกจากการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เรื่องของ Voice Over เองก็สำคัญไม่แพ้กัน หลายๆคนอาจจะอยากได้ยินเสียงพากย์ไทยภายในเกมกันบ้าง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับ Ghost Recon Breakpoint นั้นตัวเกมจะรองซับแค่ซับไตเติ้ล และ UI Interface เท่านั้นครับ สำหรับเรื่องนี้เองคุณ Julius Witz ก็ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่าการทำเสียงพากย์นั้น มันใช้ทั้งงบและเวลาที่สูงมากๆ และตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนที่จะทำเสียงพากย์ไทย แต่ในอนาคต ทีมงานอาจจะเริ่มทำพากย์ไทยกับ Project เล็กๆ ก่อน และค่อยๆ ขยายไปเรื่อยๆครับ

ส่วนตัวผมแล้วรู้สึกว่าเรื่องการทำเสียงพากย์นั้นไม่ค่อยจำเป็นเท่าไรสำหรับ Video Game ครับ ทั้งนี้มันอาจจะขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนเอง แต่การที่ตัวเกมนั้นแปลทั้งบทพูดซับไตเติ้ล และ UI Interface มาให้พร้อม เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

สาเหตุที่ Ubisoft ได้เลือก Ghost Recon Breakpoint มาเป็นเกมแรกที่แปลภาษาไทยอย่างเป็นทางการนั้น สำหรับเรื่องนี้เองคุณ Julius Witz ก็ได้บอกว่า อย่างแรกเลยคือเพราะช่วงเวลามันเหมาะสมพอดีครับ ในตอนแรกทีมงานนั้นมี Project อยู่ 2 ตัวที่จะทำการแปลภาษาไทย โดยใน Project แรกนั้นมันค่อนข้างยากมากในการทำภาษาไทยออกมา ทีมงานต้องค่อยๆเรียนรู้กันเกี่ยวกับภาษาไทยทั้งหมด และนั้นรวมไปถึงการปรับให้ Engine ของเกมมันรองรับภาษาไทยอีกด้วย

Play video

และเมื่อเป็นอย่างนั้นการมาทำ Project ที่สอง มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เนื่องจากว่าทีมงานนั้นมีประสบการณ์กันมาจาก Project แรกแล้ว รวมไปถึงตัว Engine เองก็พร้อมใช้งาน และรองรับภาษาไทยเป็นที่เรียบร้อย และมันก็บังเอิญว่าช่วงเวลามันเหมาะสมพอดี Ghost Recon Breakpoint จึงกลายเป็นผู้โชคดีที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยนั้นเองครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Project แรกที่คุณ Julius Witz พูดถึง เขาพูดไม่ได้ว่ามันคือเกมอะไร อาจจะเป็น My Little Pony ก็เป็นได้

มาถึงช่วงนี้ผมขอย้อนกลับไปพูดถึง Rainbow Six Siege อีกรอบ ย้อนกลับไปในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว 2561 ผมดันไปเจอไฟล์ลับตัวนึงภายใน Folder เกม Rainbow Six Siege Test Server ที่เอาไว้ใช้ทดสอบ Patch ใหม่ก่อนที่จะ Update เข้าตัวเกมหลัก

ในไฟล์นั้นบอกถึงการมีอยู่ของภาษาไทย และเมื่อเข้าไปดูในเกม ก็พบว่ามันมีตัวเลือกเปลี่ยนภาษาไทยในเกม รวมไปถึงปริศนาที่ผู้เล่นสามารถพิพม์คำว่า “ไทย” ไปในช่อง Chat ในเกมได้ผ่าน Live Server แต่ทุกวันนี้ภาษาไทยในเกม Rainbow Six Siege ก็ยังไม่มีแววว่าจะ Update เข้ามาให้ผู้เล่นชาวไทยสัมผัสกันเลย ทั้งๆที่มันก็พร้อมใช้งานแล้ว

Rainbow Six Siege ภาษาไทย ภาพจากเดือน พฤศจิกายน 2561

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนั้น ผมคิดว่า Project แรกที่คุณ Julius Witz พูดถึง ก็คือ Rainbow Six Siege นั้นแหละครับ แต่เขากลับปฏิเสธผมทุกครั้งที่ผมถามเขา (ก็แน่ล่ะใครจะบอก) อย่างแรกเลย สำหรับใครที่ยังไม่รู้ Ubisoft เองใช้ In-House Engine ในการสร้างเกมมาตลอดในยุคหลังๆนี้ นั้นก็คือ AnvilNext นั้นเอง

และใน Engine เวอร์ชัน 2.0 นั้นได้เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2014 กับเกม Assassin’s Creed Unity และต่อมากับ Rainbow Six Siege ในปี 2015 จนมาถึงปัจจุบัน 2019 กับเกม Tom Clancy’s Ghost Recon Breakpoint และต่อไปในอนาคต เราก็อาจจะได้เห็น Assassin’s Creed ภาคใหม่ รองรับภาษาไทยก็เป็นได้ครับ

ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า Ubisoft นั้นสนใจต่อตลาดในไทยเป็นอย่างมาก โดยในตอนนี้สื่อออนไลน์แทบจะทั้งหมดของ Ubisoft เองก็รองรับภาษาไทยหมดแล้ว สิ่งที่ขาดไปก็คือเกมภาษาไทยอย่างเป็นทางการ และในที่สุดเราก็มีแล้วนั้นก็คือ Ghost Recon Breakpoint แต่ก็ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ก็คือ Studio หรือบริษัทใหญ่ภายในประเทศไทยครับ

“ตอนนี้ Ubisoft มีพนักงานมากกว่า 16,000 คนทั่วโลก เรารู้ว่ามีนักพัฒนาเกมอินดี้อยู่ในไทยมากมาย เราต้องค้นหา และดูว่าเราทำสามารถทำอะไรได้บ้าง” Julius Witz

คุณ Julius Witz ได้บอกว่า ที่จริงแล้วพวกเขาตรวจสอบอยู่ทุกๆ สองสามเดือน ว่ามันพอจะมีทางไหนได้บ้างที่เราจะสามารถเปิด Studio ในไทยได้บ้าง แต่ถึงแบบนั้นเราจะต้องมีความมั่นใจจริงๆว่ามันจะไปได้ดี การจะทำ Game Studio ขึ้นมานั้น เราจะต้องมีทีมงานหรือคนที่เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างเกม หรือสถานที่การศึกษาที่รองรับเรื่องพวกนี้อย่างเปิดกว้าง รวมไปถึงมุมมองและทัศนคติของคนที่มองต่อเกมที่ดี และนั้นจะทำให้การก่อตั้ง Studio ในไทยเกิดขึ้นได้ครับ

ย้อนกลับมาที่เรื่องการทำภาษาไทยในเกมกันต่อ จริงๆต้องบอกว่าการแปลภาษาไทยนั้นมันค่อนข้างยากมากๆ ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่างทั้งเรื่อง Engine เอง และเรื่องการทำงานเอง ทุกๆ ภาษามันก็จะมีความยากในตัวของมัน เกมของ Ubisoft เองนั้นได้ทำการแปลเป็นหลายภาษาทั่วโลก โดยสาเหตุที่ต้องเป็นแบบนั้น ก็เพื่อจะให้ยอดขายมันเพิ่มขึ้น ซึ่งนั้นมันก็เป็นเรื่องจริงครับ และผมเชื่อว่าจะมีหลายคนในไทยที่จะซื้อ Ghost Recon Breakpoint เพราะด้วยแค่มันรองรับภาษาไทยเองนี่ล่ะ

แต่สาเหตุที่แท้จริงของ Ubisoft ว่าทำไมถึงมาทำเกมภาษาไทยนั้น จริงๆแล้วมันไม่ใช่เป็นเพียงแค่เรื่องยอดขายอย่างเดียวครับ ตรงนี้เองคุณ Julius Witz ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า จริงอยู่ว่าการทำเกมภาษาอื่นๆ หรือการ Localization เองนั้นเป็นเรื่องยาก และต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากเพื่อภาษาเดียว และในแง่ของธรุกิจ มันก็อาจจะเป็นการเสี่ยงที่จะไม่ประสบความสำเร็จได้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเข้าถึงกลุ่มผู้เล่น หรือสังคมวงการเกมในประเทศนั้นๆก่อนนั้นเองครับ

อย่างเช่นในไทยเอง เราก็จะเห็นว่า Ubisoft ได้พยายามเข้าถึงประเทศไทยขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขารู้ และมี Feedback กลับไปว่ามีคนชอบพวกเขานะ มีคนต้องการเกมภาษาไทย แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้ถึงตัวเลขที่แน่ชัดอยู่ดี เราอาจจะพูดว่าเราสนใจตลาดในไทยนะ แบบนี้ 10 ครั้ง มันก็ไม่ได้จะทำให้เราขายดีขึ้นเลย เพราะฉะนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของ Ubisoft ไม่ได้คาดหวังแค่เรื่องยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่เขาต้องการให้ภาพรวมของตลาดในไทยมันดีขึ้นไปอีกขั้น พวกเขาต้องการเข้าถึงประเทศไทยให้มากขึ้นกว่าเดิมนั้นเองครับ

“ผมเกิดที่ Austria ประเทศที่มีคนเพียงแค่ 7 ล้านคน และเราต้องต่อสู้แข่งกับประเทศอื่นๆ อีกที่ใหญ่กว่ามากมาย ผมเข้าใจว่ามันสำคัญมากแค่ไหนสำหรับตลาดขนาดเล็กที่จะต่อสู้และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นครับ” Julius Witz

เมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Ubisoft ได้มองเห็นถึงการเติบโตตลาดในไทยสูงมากจนน่าตกใจ และเห็นได้ชัดว่าตลาดเกมในไทยมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้ลองทำการตลาดแต่ละทุกประเทศใน Southeast Asia ดูทั้งหมด และมีอยู่ 2 ประเทศที่ทำการตลาดเติบโตได้รวดเร็วเป็นอย่างมากก็คือประเทศไต้หวันและประเทศไทย อีกทั้งตอนนี้ ไทยยังเป็นประเทศ Top 3 สำหรับตลาดเกมใน Southeast Asia อีกด้วยครับ

มาถึงเรื่อง E-Sport กันบ้าง ถ้าพูดถึง Ubisoft กับ E-SPORT ก็คงจะหนีไม่พ้นเกมอย่าง Rainbow Six Siege อย่างแน่นอน ผมได้ถามคุณ Julius Witz ไปว่าพอจะมีโอกาสบ้างไหม ที่เราจะได้เห็นงาน E-SPORT ที่จัดขึ้นโดย Ubisoft เอง แบบ Big Production จัดเต็มชุดใหญ่ ไม่แพ้งานแข่งระดับโลกของเกมอื่นๆเลย และผมก็ได้คำตอบที่น่าสนใจมากครับ

สักวัน เราอาจจะเห็นอะไรแบบนี้ในไทยก็เป็นได้

คุณ Julius Witz ได้บอกว่า การจัด Event E-SPORT ขึ้นมาเองนั้น เราจะต้องคิดถึงอะไรหลายๆอย่างเป็นอย่างมาก เช่นสถานที่ในการจัดทั่วโลกที่จะต้องมีสถานที่เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง ที่พัก จำนวนคนที่จะเข้าชม นักพากย์ และอื่นๆอีกมากมาย โดยทั้งหมดนี่มันต้องใช้จำนวนคนเยอะมาก และทุกๆ 6 เดือนเราจะคอยตรวจเช็คอยู่เรื่อยๆว่ามีสถานที่ไหนน่าสนใจในการจัด Event E-SPORT ขึ้นมาบ้าง

สำหรับใน Southeast Asia เองนั้น ตอนนี้เรามี Event ที่จัดขึ้นมาแบบไม่ใหญ่มาก เพื่อการคัดเลือกทีมไปแข่งตาม Event ใหญ่ๆ เช่น Rainbow Six Siege Pro League หรือ Six Invitational ส่วนสำหรับในไทยนั้น ก็จะมี Thailand League ที่จัดขึ้นกันเองโดยมีสปอนเซอร์เจ้าอื่นๆมาเป็นผู้สนับสนุนให้

ตรงนี้เอง Ubisoft ก็รู้ดี และล่าสุดเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาได้จ้างคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของ E-SPORT มาทำงานกับพวกเขา และมั่นใจได้เลยว่าแฟนๆชาวไทย อาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับ E-SPORT ในไทยขึ้นเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

“ผมยอมรับว่ามันยุ่งยากในการจัดงานขึ้นมา แต่พวกเราก็พยายามทำงานกันให้ที่ดีสุดเท่าที่จะทำได้ ผมเองก็อยากจะเห็น Rainbow Six Siege Event ในไทยเหมือนกัน ไม่แน่มันอาจจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ และเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ” Julius Witz

และเมื่อพูดถึงเรื่อง E-SPORT เอง ก็ต้องพูดถึงเรื่อง Event อื่นๆเช่นกันครับ ในบ้านเราก็จะมีงานอย่าง Thailand Game Show ที่จะเป็นงานเกมรวมเหล่าเกมเมอร์มาร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกันภายในงาน สำหรับ Ubisoft เองก็มีงานอย่าง Ubiday โดยทางเราเองก็หวังว่าจะมีโอกาสได้เห็น Event แบบนั้นที่ไทยบ้างไหม

คุณ Julius Witz ได้บอกว่า เรื่องนี้พวกเขาคิดอยู่ตลอด แต่มันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น แต่สำหรับพวกเขาแล้ว เขาต้องการให้งาน Event ของ Ubisoft เป็นอะไรที่มากกว่างานเกมธรรมดาๆ เราต้องการให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับอะไรกลับไปมากกว่าการเล่นเกม ภายในงานอาจจะมีกิจกรรมเต้น Just Dance หรือแบ่งทีมยิงกันเองใน Rainbow Six Siege ทั้งหมดนี่เป็น Concept ของพวกเขา และหวังว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ครับ

มาถึงช่วงสุดท้ายของการพูดคุย คุณ Julius Witz ก็ได้บอกว่าเขารักประเทศไทยมาก พวกเขาพยายามจัด Event นี้ขึ้นมาเพื่อที่จะตั้งแต่บอกกับพวกเราชาวเกมเมอร์ว่าในที่สุดเราก็มีเกมภาษาไทยแล้วนะ รวมไปถึงขอให้พวกเราร่วมช่วยกันเข้าไปทดสอบ Beta กันในวันที่ 5 กันยายน 2562 นี้ และให้ Feedback กลับมา และพวกเขาก็จะทำงานกันอย่างหนักแบบนี้ตลอดไปครับ

ผมขอขอบคุณ คุณ Julius Witz มากๆครับ

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส