รีวิวเกม 13 Sentinels Aegis Rim (Nintendo Switch) สงครามหุ่นรบสุดดราม่า
Our score
8.8

13 Sentinels Aegis Rim

จุดเด่น

  1. เนื้อเรื่องหลากหลาย เข้มข้นน่าติดตาม
  2. ภาพและงานออกแบบดีงามมาก

จุดสังเกต

  1. ระบบการต่อสู้ธรรมดา และไม่ท้าทาย
  2. ต้องเข้าใจระบบถึงจะสนุก

ในยุคนี้แค่รูปแบบการเล่นอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของการสร้างเกม เนื้อเรื่องก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้เล่นอินกับการเล่นและอยู่กับเกมได้ยาวนาน ทำให้ผู้สร้างเน้นที่เรื่องราวมากพอ ๆ กับเกมเพลย์ และหนึ่งในเกมที่ได้รับเสียงชื่นชมในการเล่าเรื่องมากที่สุดคือ 13 Sentinels Aegis Rim ที่เพิ่งจะออกบน Nintendo Switch

โดย 13 Sentinels Aegis Rim วางขายบน PS4 ก่อนและเป็นผลงานของ Vanillaware ค่ายเกมเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีเชื่อเสียงมากนัก แต่มันกลับเรียกเสียงฮือฮาได้มาก ด้วยรูปแบบการเล่นที่แปลกตาและยังมาพร้อมกับการเล่าเรื่องสุดเข้มข้น ทำให้แฟน ๆ ต่างยกย่องว่ามันเป็นหนึ่งในเกมยอดเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด ทำให้การมาออกบน Nintendo Switch ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับแฟนปู่นินที่จะได้สัมผัสกัน

เรื่องราวในเกมจะเล่าผ่านวัยรุ่นวัยมัธยม 13 คนที่จะแบ่งตามช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และเราจะได้ควบคุมบังคับ Sentinels หุ่นยนต์ยักษ์ที่ทรงพลังออกไปปกป้องโลกจากศัตรูตัวร้ายที่ทำลายล้างทุกสิ่ง ที่มีการเล่าเรื่องแบบการ์ตูนหรือนิยายภาพที่มีการเคลื่อนไหว ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของ 13 Sentinels Aegis Rim เพราะมันมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมาก ผู้สร้างสามารถสานต่อเรื่องราวของ 13 ตัวละครมาเรียงร้อยเป็นเกมได้ลงตัวสุด ๆ ทำให้มันเหมือนเป็นการรับชมการ์ตูนดี ๆ ไปพร้อมกับการเล่นเกมแบบไม่ติดขัด (แต่ต้องขยันอ่านกันหน่อย)

กราฟิกแบบ 2 มิติที่สวยงาม

ภาพใน 13 Sentinels Aegis Rim เป็นการออกแบบที่ผสมผสานได้ลงตัวมาก แม้จะดูเป็น 2 มิติแต่ก็ไม่ได้ดูเชยหรือดูเก่า ทุกอย่างดูใส่ใจและมีการซ้อนภาพทำให้มันเหมือนการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวที่สวยงาม โดยหากคุณเคยเล่นเกมของค่าย Vanillaware อย่าง Dragon’s Crown หรือ Muramasa The Demon Blade จะคุ้นเคยกับงานออกแบบและลายเส้นแบบนี้ดี

ส่วนฉากแม้จะเป็น 2D แต่ก็มีมิติ รวมทั้งการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด และยังได้ใส่ลูกเล่นที่ทำให้กราฟิกดูไม่เชยทำให้การเล่าเรื่องทำให้ผู้เล่นอินไปกับการเล่นที่มีความยาวกว่า 30 ชั่วโมงได้ แน่นอนว่าเพลงประกอบก็มาแนวอนิเมะ ที่ช่วยเสริมให้การเล่นสนุกโดยเฉพาะในฉากต่อสู้เพลงประกอบช่วยให้มันดูดีขึ้นมาก ยิ่งมารวมกับเสียงพากย์ที่มีคุณภาพแล้วทำให้มันกลายเป็นเกมผสมการ์ตูนที่สมบูรณ์แบบ และยังเลือกเสียงพากย์ได้ทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษด้วย

รูปแบบการเล่นเน้นเล่าเรื่องและวางแผนการรบ

ก่อนอื่นใครคิดว่า 13 Sentinels Aegis Rim เป็นแนววางแผนการรบแนวใช้หุ่นที่สนุกสะใจแบบ Front Mission แล้วอาจจะต้องผิดหวัง เพราะเกมเพลย์ของมันจะเน้นหนักไปที่การทำเนื้อเรื่อง ที่ต้องบังคับตัวละครเดินไปในฉากแบบ 2 มิติเข้าพูดคุยกับตัวละคร และแก้ปริศนาเพื่อหาทางไปสู่เรื่องราวต่อไปเรื่อย ๆ และมีโหมดย้อนเวลากลับไปทำเนื้อเรื่องในส่วนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งความโดดเด่นมันอยู่ตรงนี้เพราะด้วยความเข้มเข้นซับซ้อน และมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างถึง 13 แบบตามตัวละคร ที่มีการเล่าสลับไปมาระหว่างตัวละครตลอด แถมยังมีอะไรให้ประหลาดใจตลอดการเล่น

และเนื่องจากการที่ต้องมานั่งจดจำเรื่องราวที่มากมายรวมทั้งต้องย้อนเวลาไปทำเนื้อเรื่อง ทำให้ผู้สร้างได้ใส่ระบบ cloud sync keywords ที่จะช่วยเราจดจำคำพูดของตัวละคร ที่เราจะใช้เพื่อผ่านไปส่วนต่อไปได้ แต่มันก็มีข้อสังเกตว่าเราต้องเดินไปมาในฉากเพื่อพูดคุยและค้นหาสิ่งของมาแก้ปริศนา ทำให้หากคุณไม่ชอบแนวนี้จริง ๆ อาจจะรู้สึกเบื่อ ดังนั้นก่อนจะซื้อต้องเข้าใจรูปแบบของมันเสียก่อนจะได้ไม่เสียเงินเปล่า แต่ใครอยากลองก็อยากให้เปิดใจเพราะหากสนุกไปกับเรื่องราวแล้วคุณจะรักเกมนี้มาก

ฉากสงครามที่ดูแหวกแนวแต่เล่นไม่ยาก

เนื่องด้วย 13 Sentinels Aegis Rim เน้นการทำเนื้อเรื่องทำให้ฉากการรบของมันดูเป็นรอง เพราะมันไม่ได้มีรายละเอียดเหมือนเกมแนววางแผนการรบเลย ฉากตอนต่อสู้เหมือนหน้าจอคอมที่แสดงผลตัวละครหุ่นยักษ์ Sentinels เป็นสัญลักษณ์บนแผนที่ คล้ายกับว่าเรากำลังดูหน้าจอตอนวางแผนในฐานทัพมากกว่าไปสู้จริง ๆ ซึ่งใครคาดหวังจะเห็นการรบที่ดุเดือดให้ไปหาเกมอื่นเล่น

แต่ไม่ได้หมายความว่ากราฟิกในส่วนนี้จะไม่ดี เพราะมันก็มีความสวยงามและงานออกแบบดูแหวกแนว ส่วนเกมเพลย์ก็เข้าใจง่ายเพียงแค่กดคำสั่งโจมตี หรือเครื่องไหวตัว Sentinels ให้เดินไป และมีการใช้ท่าไม้ตายเพื่อกำจัดศัตรูได้หลากหลาย ไม่ว่าจะโจมตีหรือเพิ่มค่าพลังทุกอย่างเข้าใจง่าย และเล่นได้ง่ายหากคุณไม่อยากปวดหัวในส่วนนี้ แต่หากผู้เล่นต้องการความท้าทายก็มีโหมดให้เลือกเล่นให้ยากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเราต้องต่อสู้และคอยระวังไม่ให้ฐาน Terminals ของเราโดนทำลาย โดยในฉากจะใช้เวลาจริงแบบเกมแนว RTS ที่ไม่ได้ผลัดกันเดินคนละตาแบบเทิร์นเบส แต่เกมจะหยุดตอนเราเลือกเมนูทำให้ไม่ได้กดดันอะไรมากนัก

ส่วนระบบเพิ่มเติมที่น่าสนใจคือการปรับแต่งตัวหุ่น Sentinels ได้ซึ่งแต่ละตัวจะมีความโดดเด่นที่แตกต่างไม่เหมือนกัน เช่นบางตัวมีพลังโจมตีรุนแรง หรือหุ่นยนต์บางตัวเน้นยิงไกล ซึ่งความสามารถของคนบังคับที่เป็นเด็กวัยรุ่นจะส่งผลกับหุ่นยักษ์ด้วย ดังนั้นเราต้องค่อย ๆ เรียนรู้และอัปเกรดไปพร้อมกับการเล่นเนื้อเรื่องที่ทำให้เกมแบ่งออกเป็น 2 ส่วนชัดเจน

หลังจากได้สัมผัส 13 Sentinels Aegis Rim แล้วบอกได้เลยว่ามันเป็นอีกเกมดีที่ไม่ควรพลาด แต่ก็ต้องเข้าในระบบการเล่นและสิ่งที่ผู้สร้างตั้งใจใส่มา ไม่ว่าจะเป็นการที่เกมเน้นการเล่าเรื่องทำเนื้อเรื่องมากกว่าการต่อสู้ ซึ่งหากคุณชอบดูการ์ตูนแนวหุ่นยนต์จากญี่ปุ่นน่าจะชอบ ส่วนฉากการรบแม้จะไม่เน้นแต่ก็มีอะไรให้ตื่นตาอยู่ แต่หากคุณเคยเล่นบน PS4 มาก่อนแล้วก็ไม่ต้องหามาเล่นก็ได้เพราะมันก็เหมือนเดิม แต่หากไม่เคยเล่นมาก่อนและมี Nintendo Switch ก็ไม่ควรพลาดความสนุกที่มาพร้อมกับการชมอนิเมะ ชั้นดีที่เราบังคับได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส