[Review] The Sims 4 Discover University มาใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยกันเถอะ
Our score
8.2

The Sims 4 Discover University (Expansion Pack)

จุดเด่น

  1. Expansion Pack ที่ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน
  2. มีการเพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ เข้าไปอย่างพอดี
  3. ตัวเกมเปลี่ยนไปใช้ระบบ x64 เต็มตัว ทำให้รันได้ลื่นไหลยิ่งขึ้น

จุดสังเกต

  1. ราคาที่สูงไปสักนิด
  2. บั๊กที่ยังพอมีให้เห็นบ้าง หากผู้เล่นลง Mod เยอะเกินไป
  • GAMEPLAY

    8.0

  • GRAPHICS

    8.0

  • INNOVATION

    8.0

  • PERFORMANCE

    9.0

  • VALUE

    8.0

ถ้าหากจะพูดถึงเกมที่มีภาคเสริมทั้ง Expansion Pack หรือ DLC ที่เยอะที่สุด The Sims จะเป็นเกมแรก ๆ ที่ผมนึกถึง แน่นอนว่าในช่วงหลัง ๆ นี้ก็ยังมีเกมอื่น ๆ อีกมากมายที่มี DLC เยอะไม่แพ้กัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Sims เป็นเกมที่เหล่าแฟน ๆ ยอมพร้อมใจกันจ่ายให้กับมันมาตลอดเวลา

แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะครับ หากเรามองย้อนไปดูให้ดีก็จะพบว่าภาคเสริมของ The Sims แต่ละภาค ก็มักจะเป็นการตัดเอา Feature หรือ Content ต่าง ๆ ของเกมภาคเก่า มาใส่ไว้ในเกมภาคใหม่ ทั้ง ๆ ที่มันควรจะมีอยู่ในเกมภาคใหม่แล้วแท้ ๆ

หนึ่งในนั้นก็คือภาคเสริมอย่าง University ที่มีมาตั้งแต่ The Sims 2 ในชื่อ University และใน The Sims 3 ในชื่อ University Life และกลับมาอีกครั้งกับใน The Sims 4 ในชื่อ Discover University โดยใครที่เป็นแฟน ๆ ของ The Sims ก็มักจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าภาคเสริม University หรือที่เรียกกันว่าภาคมหาลัยเนี่ย มันเป็นภาคเสริมสุดฮิตที่สุดของ The Sims เลยก็ว่าได้ครับ

Discover University นั้นได้ยกเอาระบบของภาคเก่า ๆ กลับมา เพิ่มเติมคือระบบใหม่ที่มีอยู่แล้วใน The Sims 4 ใส่เข้าไป อย่างที่เรารู้กันว่าระบบความคิดของเหล่า “Sims” ใน The Sims 4 นั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกับเหล่า Sims ในภาคอื่นๆอยู่เป็นอย่างมาก และนั้นก็ส่งผลใน Gameplay ของ Discover University ค่อนข้างเปลี่ยนไปจากภาคมหาลัยของภาคก่อน ๆ เป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ

The Sims 4 Discover University นั้นจะเริ่มต้นขึ้นจากการที่เราให้ Sims ของคุณทำการสมัครเรียนมหาลัยผ่านทางตู้ไปรษณีย์ คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ตโฟน โดยจะมีมหาลัยให้เลือกเรียนอยู่ 2 แห่งด้วยกัน

  • University of Britechester มหาลัยเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน โดยจะมีชื่อเสียงในวิชาสาขา Computer Science,  Physics, และ Biology
  • Foxbury Institute มหาลัยสุดไฮเทค ถูกออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคต โดยจะมีชื่อเสียงในวิชาสาขา ศิลปะแขนงต่างๆ, การติดต่อสื่อสาร

Gameplay


ไม่ว่าเราจะเลือกมหาลัยไหนก็ตาม ทั้งสองมหาลัยก็จะมีสาขาให้เลือกเรียนกันทุกสาขาครับ หลังจากเราทำการยื่นใบสมัครเข้าไปแล้ว ตัวเกมมันจะทำการคำนวณวิชาความรู้ของเหล่า Sims นั้น ๆ ว่ามีความรู้ความสามารถระดับไหน รวมไปถึงผลเกรดการเรียนช่วงมัธยม และกิจกรรมในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น Sims ของผมที่เล่นอยู่นั้นมีความสามารถในการวาดรูป เขียนหนังสือ และแต่งเพลงเล่นดนตรีเป็นอย่างสูง ทำให้ Sims ของผมได้รับคัดเลือกให้เรียนสาขาประวัติศาสตร์ สาขาวรรณกรรม สาขาวิจิตรศิลป์ แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถเลือกเรียนได้ตามใจชอบ โดยผมบอกเลยว่ามันมีสาขาให้เลือกเรียนเยอะมาก ๆ แต่เราก็ต้องดูถึงความเหมาะสมของตัว Sims เอง และสาขาที่จะเลือกเรียนด้วยเช่นกัน

หลังจากเลือกสาขาที่ชอบได้แล้ว เราก็ต้องเลือกจำนวนวิชาเรียนหลักที่ต้องการพร้อมกับวิชาเลือก โดยผู้เล่นจะต้องเรียนให้จบครบทั้ง 12 วิชา ถึงจะจบการศึกษาได้ และด้วยความที่ผมเป็นประเภทชอบเล่นเกมที่มันเล่นยาก ๆ บวกกับด้วยการที่มีเวลาค่อนข้างจำกัดต่อการเล่น ผมก็เลยเลือกให้ Sims ของผมมันเรียนไปพร้อมกันทั้ง 3 วิชาต่อ 1 เทอมซะเลย และการที่เราเลือกให้ Sims ของเรามันเรียนหนักเกินไป แน่นอนว่ามันส่งผลต่อการเล่นแน่นอนครับ

หลังจากนั้นเราก็ต้องมาเลือกที่อยู่กัน แน่นอนครับว่าในที่สุดเราก็จะได้ลองใช้ชีวิตกันในหอพักสักที โดยมีให้เราเลือกอยู่ 2 หอใหญ่ ๆ และบ้านพักนักศึกษา หรืออาจจะเลือกเรียนทางไกลอยู่ที่บ้านก็ได้เช่นกัน

และในที่สุดก็มาเริ่มชีวิตในมหาลัยกันเลยครับ โดยหลัก ๆ แล้ว Gameplay ส่วนใหญ่ก็จะไม่ต่างอะไรกับ The Sims 4 ที่เราเล่น ๆ กันอยู่เป็นประจำ แต่มันจะมีเรื่องการเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมันจะมาแทนงานของเรา โดยระหว่างที่เรายังไม่มีเรียน เราจะต้องทำการบ้าน เขียนรายงาน วิทยานิพนธ์ ติวหนังสือ เพื่อรอวันที่เข้าเรียน หรือวันที่เรามีสอบนั้นเองครับ

แน่นอนว่าหากเราเอาแต่เรียนอย่างเดียว มันก็คงจะเป็นการใช้ชีวิตในมหาลัยที่ค่อนข้างน่าเบื่อเอาการ ระหว่างที่เรากำลังอยู่ในหอพักกับเพือน ๆ รูมเมตนั้น เราสามารถเต็มที่กับชีวิตในมหาลัยได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง จัดปาร์ตี้กันภายในหอพัก หรือผันตัวเองให้กลายมาเป็นนักกีฬา ESPORT หรือนักฟุตบอลประจำทีมของมหาลัย

โดยเราจะต้องจัดการบริหารเวลาของเราให้ดี ๆ ในช่วงเทอมแรกของผมนั้น ลงเรียนไปถึง 3 วิชา ทำให้ทั้งสัปดาห์นั้นแทบจะไม่มีเวลาว่างไปสังสรรค์ หรือทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ เลยทีเดียว เพราะต้องเอาเวลามาเขียนรายงาน ทำการบ้านอยู่แทบจะทั้งวัน แถมยังต้องคอยมาบริหารจัดการให้ Sims ของเราพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งพาไปกินข้าวที่โรงอาหาร หรือสั่งพิซซ่ามากินกับเพื่อน ๆ อาบน้ำที่โรงอาบรวม และขอยืมคอมพิวเตอร์ของเพื่อน ๆ มาคลายเครียดครับ

ดูตารางเรียนนั้นสิ T_T

แต่สิ่งที่ผมผิดหวังเป็นอย่างมาก ก็คือช่วงที่เรากำลังเรียนอยู่ในห้องเรียนนี่ล่ะครับ ย้อนกลับไปในภาคเสริม Get to Work เราจะได้มีโอกาสเห็น Sims ของเราได้ออกไปทำงานจริง ๆ รวมไปถึงเราต้องคอยบังคับให้ Sims ของเราทำงานอีกด้วย ซึ่งผมมองว่ามันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ มันคือ Feature ที่แท้จริงของเกมนี้เลยก็ว่าได้ โดยผมก็หวังว่าในภาคมหาลัย เราก็น่าจะได้เห็นอะไรแนว ๆ นี้บ้าง

อยู่ดีๆก็หาย ….

แต่ก็อย่างที่ผมบอกไปว่า ผมผิดหวังมากๆ ที่ไม่ได้เห็นอะไรแบบภาค Get to Work ในภาคมหาลัยนี้ครับ เมื่อตัว Sims ของเราไปถึงห้องเรียน ตัว Sims ของเราก็จะหายเข้าห้องหายไปต่อหน้าต่อหน้า สิ่งที่เราทำได้ก็คือรออยู่เฉย ๆ จนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน อย่างน้อยผมหวังว่าเราน่าจะได้เห็นบรรยากาศในห้องเรียนบ้าง หรือได้พูดคุยกับอาจารย์ แต่สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่ส่งข้อความคุยกับอาจารย์เท่านั้น

นอกจากนี้ในภาคมหาลัย ตัวเกมก็ยังมีการเพิ่ม Skill ใหม่เข้ามาด้วยอีก 2 Skill ได้แก่ Research & Debate หรือก็คือสกิลด้านการเรียนรู้ และการอภิปราย โดยสกิลนี้จะช่วยให้เราเรียนรู้ได้เร็วขึ้นในมหาลัย เช่นทำให้เราทำการบ้านได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังทำให้เรามีความสามารถในการพูดคุยโน้มน้าวหรือโต้วาทีกับ Sims คนอื่น ๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วยครับ

และ Skill ใหม่อีกอย่างที่ผมคิดว่ามันคือ Highlight ของภาคมหาลัยนี้เลยก็คือ Skill Robotics นั้นเองครับ โดยสกิลนี้ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างพิเศษมาก เพราะเราสามารถสร้างหุ่นยนต์ให้กลายมาเป็น Sims ของเราได้ โดยเจ้าหุ่นยนต์ Sims ตัวนี้จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา มาเป็นเพื่อนเรา หรือจะมาเป็นเพื่อนร่วมเตียงก็ได้เช่นกัน !! (วู้ฮู้กับหุ่นยนต์)


สรุป


แน่นอนว่าตัวเกมมันค่อนข้างจะวนเวียนอยู่ที่เดิมตามสไตล์ของ The Sims และยิ่งถ้าหากตัวผู้เล่นเองเป็นประเภทชอบเล่นไว ๆ อยู่แล้วด้วย ก็อาจจะเบื่อกันได้ง่าย ๆ ซึ่งมันจะแตกต่างจากภาค Get to Work ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เล่น Mini Game บางอย่างอยู่ แต่สำหรับภาคมหาลัยนี้นั้น มันค่อนข้างที่จะเน้นเรื่องสังคม กิจกรรม และการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเวลาเรียนของตัวเองมากกว่าครับ

สำหรับคนที่เป็นสายแต่งตัว หรือสร้างบ้าน ใน Discover University ก็ได้ยกเอาของใหม่ ๆ สไตล์เด็กมหาลัยมาให้เลือกชอปใช้กันอย่างจุใจ ในส่วนของเสื้อผ้าเองก็ได้เอาเสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่นทั้งยุคเก่ายุคใหม่มาให้เลือกใช้กันเยอะมาก ทรงผมใหม่ ๆ เครื่องประดับอีกมากมาย รวมไปถึงของแต่งบ้านอื่น ๆ ที่น่าจะทำให้สายสร้างบ้านพอใจกัน โดยสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือโต๊ะปิงปอง กับถัง “น้ำผลไม้” ที่วัยรุ่นชอบกันนั้นละครับ

The Sims 4 Discover University มีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่ สำหรับภาคเสริม Expansion Pack ราคา 39.99 USD หรือประมาณ 1,300 บาท ราคาไทยในร้านค้า Origin ซึ่งราคานี้สามารถชื้อเกมใหญ่ ๆ มาเล่นได้เกมหนึ่งเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นราคาปกติของ Expansion Pack ครับ และ Discover University ก็ทำได้ดีมาก โดยผมยกให้มันเป็นภาคที่ดีรองลงจาก City Living เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในรีวิวนี้ผมได้รีวิวในส่วนของภาคเสริม Discover University เท่านั้น โดยผมได้ใช้ตัวเกมชุด Digital Deluxe และภาคเสริม Get Famous กับ Get to Work ทำให้มี Content เท่าที่มี แต่โดยรวมแล้วหากผู้เล่นไม่เคยมีภาคเสริมใดมากก่อน Discover University ก็เป็นภาคที่ดีมาก ๆ ถ้าหากคิดจะชื้อเป็นภาคแรกครับ

ในอนาคตนั้น เราก็ไม่รู้ว่า The Sims 4 จะมีภาคเสริมออกมามากขนาดไหน แต่ถ้าหากเรามามองย้อนดูดี ๆ แล้ว ภาคเสริมของ The Sims แต่ละภาคก็มักจะมาแนว ๆ เดียวกันทั้งนั้น สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านสนุกกับการใช้ชีวิตในโลกของ Sims ครับผม

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส