[รีวิวเกม] “BLEAK SWORD” เกมอินดี้ภาพ 8Bit ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายเท่านั้น!!
Our score
8.3

จุดเด่น

  1. กราฟิกมีความเป็นตัวของตัวเองสูง
  2. เกมเพลย์มีความท้าทายสูงถูกใจผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์
  3. ดีไซน์มอน ฉาก บอส ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
  4. เกมไม่ค่อยกินแบตโทรศัพท์สักเท่าไหร่

จุดสังเกต

  1. กราฟิกแอบมองยาก ต้องเพ่งสายตาเยอะมากขณะเล่น
  2. เกมค่อนข้างยากไม่เหมาะกับทุกคน
  3. ระบบ RPG ยังทำออกมาได้ไม่ค่อยยืดหยุ่นนัก

สำหรับเกม “BLEAK SWORD” ที่ผมได้นำมารีวิวในวันนี้คือเกมมือถือที่ถูกสร้างมาเพื่อสายฮาร์ดคอร์เท่านั้น เนื่องจากเกมค่อนข้างจะต้องอาศัยเทคนิคเกมเพลย์ของผู้เล่นสูงอยู่พอสมควร ทั้งยังอาจจะต้องตายแล้วตายอีกหลายต่อหลายครั้งเพื่อเรียนรู้ระบบต่าง ๆ ภายในเกมอีกด้วย ดังนั้นเกมนี้อาจจะไม่ใช่เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นทุกกลุ่ม แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณเป็นคนที่กำลังมองหาเกมที่มีความท้าทายสูง เกมนี้ก็เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว

สามารถโหลดเกมผ่าน Apple Arcade ได้ที่

iOS

GAME ABOUT

“BLEAK SWORD” คือเกมแนว Action RPG ที่นำเสนอภาพแบบ 8Bit และคุมสีโดยการใช้สีเพียง ขาว ดำ แดง ตลอดทั้งเกม ตัวเกมเป็นแนวให้ผู้เล่นโซโล และจะถูกแบ่งเป็นหลากหลายพื้นที่ โดยในแต่ละพื้นที่ก็จะมีหลายด่าน ผู้เล่นจะต้องตะลุยด่านไปเรื่อย ๆ และจะจบที่สู้บอสประจำพื้นที่เสมอ โดยตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องให้เสพอยู่บ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักหากนำไปเปรียบเทียบกับเกมเพลย์ที่แอบยากและให้ความรู้สึกที่ท้าทายตลอดการเล่นเกม สำหรับใครที่เป็นผู้เล่นสาย casual อาจจะไม่เหมาะกับเกมนี้เท่าไหร่นะครับผม เพราะเกมค่อนข้างทำให้หัวร้อนอยู่พอสมควรเลย

GAME PLAY

เกมเพลย์ต้องทำความเข้าใจระดับนึง ถ้าไม่อยากตายซ้ำตายซาก

เมื่อพูดถึงระบบต่อสู้ภายในเกมนี้ต้องบอกก่อนว่าค่อนข้างจะต้องอาศัยการเรียนรู้พอสมควรเลย เพราะระบบต่าง ๆ รวมถึงรูปแบบการเล่นค่อนข้างจะอินดี้ และไม่ค่อยเหมือนเกมตามท้องตลาดนัก โดยตัวละครของเราจะไม่สามารถเดินได้ปกติ แต่จะต้องอาศัยการแดชเพื่อเคลื่อนไหวหลบหลีกแทน การจะโจมตีภายในเกมนี้ก็จะไม่มีปุ่มให้เราเลือกว่าอยากตีหนักหรือตีเบา เราจะทำได้แค่กดหน้าจอตรงไหนก็ได้ค้างไว้ และยิ่งค้างนานแค่ไหนแดมเมจที่ตัวละครเราทำก็จะแรงขึ้นเท่านั้น ซึ่งพอเอาระบบ 2 อย่างนี้ระหว่างการเคลื่อนที่กับการโจมตีผสมเข้าด้วยกัน นั่นจึงทำให้เกมนี้ค่อนข้างจะเล่นยากพอสมควร

ปล.การตายภายในเกมนี้ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ไม่ต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ในที่ไกล ๆ เพียงแต่ต้องเริ่มสู้ใหม่เฉพาะด่านที่เราแพ้เท่านั้น

มีหลากหลายพื้นที่ หลายด่าน ศัตรูหลายประเภท

พูดถึงโหมดการเล่นบ้าง ซึ่งเกมนี้หลัก ๆ แล้วคือจะให้ผู้เล่นโซโลตะลุยด่านไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายพื้นที่ พื้นที่นึงจะประกอบไปด้วยด่านย่อย ๆ หลายด่านและจะจบลงที่สู้บอสประจำพื้นที่เสมอ ซึ่งเกมนี้จะไม่มีอะไรให้เราสำรวจเก็บของหรือมีแมปที่กว้างอะไรมากมาย เข้าด่านไปสู้ให้ชนะก็เป็นอันจบ แต่ก็จำเป็นต้องเล่นให้ชนะไปเรื่อย ๆ เพื่อปลดล็อกพื้นที่และด่านใหม่ ๆ ด้วยนะ และแน่นอนว่ายิ่งเล่นความยากมันก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเจอมอนใหม่ ๆ มินิบอสต่าง ๆ รวมไปถึงอุปสรรคในแต่ละด่านที่สอดแทรกเข้าเพื่อให้เกมเพลย์รู้สึกท้าทายอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งในแต่ละพื้นที่นั้นก็จะมีมอนที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน ซึ่งมอนแต่ละตัวก็จะมีรูปแบบการโจมตีและวิธีรับมือที่แตกต่างกันออกไป เช่นมอนบางตัวจะโผล่มาให้เราโจมตีเพียงแปปเดียวก่อนจะหายไป บางตัวก็มีโล่จำเป็นต้องอ้อมหลังไม่ก็แพรี่เท่านั้น บางตัวก็ต้องหลบอย่างเดียว หรือมีกระทั่งมอนที่โจมตีเราตายภายในทีเดียว ซึ่งเราอาจจะต้องจบชีวิตตัวเองหลายต่อหลายครั้งเพื่อที่จะเรียนรู้มอนแค่ชนิดเดียว

การแพรี่ที่ดูเหมือนจะเป็นหัวใจหลักภายในเกม

พอผมได้ลองเล่นเกมนี้ไปสักพักก็ค้นพบสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ถ้าอยากจะเล่นเกมนี้ให้เก่งและผ่านด่านได้ไว ๆ นั่นก็คือจะต้องฝึก แพรี่ ให้คล่อง ๆ นั่นเอง โดยเกมนี้นอกจากจะโจมตีปกติได้แล้ว เรายังสามารถปัดป้องหรือก็คือแพรี่การโจมตีของศัตรูได้อีกด้วย ข้อดีของการแพรี่เลยนั่นก็คือแน่นอนว่าเราจะไม่โดนดาเมจจากศัตรู แถมยังสามารถโจมตีสวนกลับได้ในทันทีอีกต่างหาก ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ โดยเฉพาะตอนที่ถูกมอนหลายตัวรุมโจมตี เรียกได้ว่าหากเราฝึกฝนแพรี่จนเทพแล้วล่ะก็บางทีการจะผ่านแต่ละด่านอาจจะไม่ต้องกดโจมตีเลยสักครั้งก็ได้ รอแพรี่สวนกลับอย่างเดียวจบ

ปล. แต่บางการโจมตีก็ไม่สามารถกดแพรี่ได้นะครับ ให้สังเกตุเครื่องหมายตกใจสีแดงตัวใหญ่ ๆ ของศัตรูให้ดี ถ้ามีนั่นคือการโจมตีที่ไม่สามารถแพรี่ได้นั่นเอง

น่าเสียดายที่ระบบ RPG ที่ยังทำออกมาได้ไม่ค่อยยืดหยุ่นนัก

แน่นอนว่าการตะลุยด่านที่หนทางข้างหน้ามีแต่ศัตรูที่เก่งขึ้นเรื่อย ๆ รอเราอยู่ ตัวละครเราก็จำเป็นจะต้องมีการพัฒนาด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวละครจะได้ค่า EXP ทุกครั้งเมื่อเล่นจบแต่ละด่าน แต่ทว่าเรากลับไม่สามารถเลือกได้เลยว่าอยากอัปสเตตัสอะไร เพราะตัวเกมจะทำการสุ่มหรือล็อกค่าสเตตัสให้เราเลือกอัปทุกครั้งที่เลเวลอัป ยกตัวอย่างเช่นเอเวลอัป 1 เวล เกมก็จะสุ่มให้ว่าเราอยากได้ เลือดที่เยอะขึ้น หรือ โจมตีแรงขึ้น เป็นต้น เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยชอบระบบแบบนี้เท่าไหร่ เพราะอยากให้ตัวเกมมีอิสระในการเลือกอัปสเตตัสของผู้เล่นมากกว่านี้หน่อย

GRAPHIC

“BLEAK SWORD” คือเกมที่นำเสนอภาพในรูปแบบ 8Bit และคุมสีอยู่ในโทน ขาว ดำ แดง ซึ่งในแง่งานภาพก็สมแล้วที่ถูกจัดอยู่ในหมวดของเกมอินดี้ เพราะการนำเสนอภาพในรูปแบบนี้ไม่ค่อยพบเจอตามเกมท้องตลาดเท่าไหร่นัก นั่นจึงทำให้คนที่ชอบความแปลกใหม่ก็น่าจะถูกใจไม่น้อย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบก็คงจะไม่ชอบไปเลย เพราะการทำภาพในรูปแบบนี้พูดตามตรงเลยว่ามันมองยากมาก หลายครั้งที่มองไม่เห็นศัตรู ไม่เห็นตัวเอง ไม่รู้ว่าศัตรูจะโจมตีตอนไหน คือมันต้องเพ่งสายตาเยอะมากหากคิดจะเล่นเกมนี้

แต่ส่วนตัวก็มองว่ามันคือดีไซน์ที่ผู้พัฒนาน่าจะตั้งใจนำเสนอให้มันมองยากแบบนี้เพื่อจะให้ผู้เล่นต้องตั้งสมาธิขณะเล่นเกมให้ดี ๆ นั่นแหละ แต่เอาจริงนะถ้าทำให้มองง่ายกว่านี้หน่อยคือจะดีมาก อย่างแยกสีตัวละครเราให้เป็นสีอื่นอะไรทำนองนั้นก็ได้ เพราะตอนผมเล่นนี่แบบแป๊บ ๆ ก็คือไปนั่งพักสายตาแล้วนะ ปวดตามาก เล่นนาน ๆ ไม่ไหว (ฮา)

สรุป

ถ้าหากคุณที่เป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์แล้วล่ะก็ เกมนี้ก็ถือว่าเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่มีรูปแบบการเล่นที่มีความท้าทายสูงพอสมควรเลยในแง่ของเกมมือถือ ไม่ว่าจะรูปแบบการเล่นที่ต้องอาศัยความคุ้นชินและใช้สมาธิสูง ศัตรูมากมายหลากชนิดที่เราต้องเรียนรู้จังหวะมัน อุปสรรคต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาแบบไม่ยั้ง บอสไฟต์ก็ทำออกมาได้สนุกมาก

แต่ทว่าในแง่ของกราฟิกผู้เล่นอาจจะต้องทำใจเล็กน้อยเพราะตัวเกมมีภาพที่ค่อนข้างจะมองยาก เรียกได้ว่าต้องนั่งเพ่งสายตามองทุกครั้งที่เล่นเลย แต่โดยรวมนี่ก็ถือว่าเป็นอีก 1 เกมที่มีกราฟิกเป็นตัวของตัวเองสูงมากเช่นกันแถมไม่ค่อยกินแบตโทรศัพท์สักเท่าไหร่อีกด้วย สรุปเลยก็คือ เกมยาก แต่สนุก ต้องลองครับผม!!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส