รีวิวเกม Samurai Warriors 5 เกมซามูไรหลุดโลกที่สร้างจากประวัติศาสตร์จริง
Our score
7.5

Samurai Warriors 5

จุดเด่น

  1. ตัวละครในประวัติศาสตร์จริง
  2. เกมเพลย์เข้าใจง่าย และสนุก

จุดสังเกต

  1. รูปแบบการเล่นเหมือนกับแนวมุโซทั่วไป
  2. สิ่งที่เพิ่มมาน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับราคาขาย

ปรกติแล้วเกมแนว Dynasty Warriors หรือที่เรียกว่า มุโซ แม้อาจจะไม่ได้สดใหม่ในรูปแบบการเล่นมากมายเพราะออกมากี่ภาคก็เหมือน ๆ กันหมด แต่ก็ยังมีแฟน ๆ รอเล่นอยู่ และยังถูกนำไปเป็นต้นแบบในการสร้างหลากหลายเกมไม่ว่าจะเป็นหุ่น Gundam หรือแม้แต่ตำนาน Zelda ก็มาเป็นแนว มุโซ มาแล้วส่วนการกลับมาของตำนานซามูไรใน Samurai Warriors 5 ถือว่าเป็นอีกซีรีส์ มุโซที่ประสบความสำเร็จโดยเฉพาะในญี่ปุ่น

และเหตุที่มันขายดีในบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่น เพราะ Samurai Warriors เป็นเกมแนวแอ็กชันที่เราจะได้ตะลุยกับกองทัพศัตรูที่สร้างโดยอิงบางส่วนจากประวัติศาสตร์จริงของประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 15 มีบุคคลในตำนานมาเป็นตัวละครให้เลือกเล่นทั้ง โอดะ โนบูนางะ (Oda Nobunaga) และ อาเกจิ มิตสึฮิเดะ (Akechi Mitsuhide) ซึ่งเนื้อเรื่องหลัก ๆ ของเกมจะอิงจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและจะเล่าเรื่องผ่าน 2 ตัวละครนี้ แน่นอนว่าหากคุณเคยรู้มาก่อนก็จะแทบจะเดาตอนจบของเรื่องได้

นอกจากนี้ยังมีบุคคลในตำนานชื่อดังอีกหลายคนเช่นสุดยอดนินจาอย่าง ฮัตโตริ ฮันโซ (Hattori Hanzo) ก็มีมาอยู่ในเกมด้วย แน่นอนว่าหากเป็นคนญี่ปุ่นหรืออินกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงก็อาจจะชื่นชอบ ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่มันถูกสร้างมาแล้วถึง 5 ครั้ง และภาคล่าสุดออกบน PS4 , Nintendo Switch ,Xboxone และรวมทั้ง พีซี ด้วย โดยเพิ่งจะออกในโซนอเมริกาหลังจากออกวางขายในญี่ปุ่นไปเมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา

กราฟิกเหมือนการ์ตูนที่ดูดีแต่ยังไม่สุด

ภาพใน Samurai Warriors 5 ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ เหมือนเกมในยุค PS3 หรือต้นยุค PS4 มากกว่าเพราะทั้งฉากและตัวละครก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมาแนวทางการ์ตูนที่มีการตั้งใจใส่เส้นสายให้ตัวละครเหมือนกับภาพวาด ทำให้มันดูดีเหมือนได้บังคับภาพในการ์ตูนจริง ๆ ที่งานออกแบบนี้สามารถกลบจุดอ่อนของความละเอียดของฉาก และตัวละครที่น้อยไปหน่อยสำหรับมาตรฐานเกมที่วางขายในปี 2021 ไปได้ ส่วนเฟรมเรตอยู่ในระดับกลาง ๆ แต่หากเล่นบน Nintendo Switch ก็ต้องทำใจสักหน่อยเพราะหากมีศัตรูออกมาจำนวนมาเฟรมเรตก็ตกลงอยู่พอสมควร

เช่นเดียวกับเพลงประกอบที่ปรับมาให้เหมาะกับเกมแนวตะลุมบอนกับศัตรูเป็นกองทัพ และแน่นอนว่ามาแนวเพลงญี่ปุ่นโบราณที่ปรับให้ทันสมัยมากขึ้น แน่นอนว่ามีการใส่เสียงพากย์ และคัตซีนที่เป็นซีจีงาม ๆ ที่ดูดีเสริมการเล่าเรื่องให้สนุกยิ่งขึ้น แม้ว่าอาจจะมีไม่มากและส่วนใหญ่การเดินเรื่องจะใช้ภาพนิ่งของตัวละครมาเสริมด้วยก็ตาม แต่โดยรวมทั้งกราฟิกและเพลงประกอบถือว่าสอบผ่านแต่อย่าคาดหวังว่าจะเห็นอะไรเทพ ๆ ดูดีในภาคนี้ (คงต้องรอภาคต่อไป)

รูปแบบการเล่นเหมือนเดิมเพิ่มนิดหน่อย

แน่นอนว่าขึ้นว่าแนว มุโซ รูปแบบการเล่นก็ต้องมาแบบแอ็กชันตะลุยกับกองทัพศัตรูที่ส่วนใหญ่จะมาเป็นตัวประกอบทหารเลวให้เราฟันเล่น แต่จะมีแม่ทัพนายกองที่มีฝีมือรอให้เราไปต่อกรเป็นระยะในฉาก และมีการใส่ภารกิจที่เราต้องไปทำตามจุดที่เกมกำหนดด้วย เช่นการไปช่วยเพื่อนร่วมทัพที่กำลังพลาดท่าโดนโจมตี และการต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองที่เป็นอะไรที่เข้าใจง่ายอยู่แล้ว ซึ่งใครชอบก็หามาเล่นแต่ใครไม่ชอบแนวทางนี้ก็คงไม่เสียเงินซื้อมาตั้งแต่แรกแล้ว

ส่วนการต่อสู้ก็เข้าใจง่ายมีแค่กดปุ่มทำคอมโบโจมตีศัตรู และยังมีการป้องกันและหลบหลีก ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยแม้แต่น้อย ความจริงแล้วหากไม่ได้ชอบแนวทางนี้อาจจะรู้สึกเฉย ๆ เพราะมันแทบไม่แตกต่างจากภาคก่อน อย่างไรก็ตามฉากในเกมก็มีเพิ่มเข้ามาและมีถึง 70 ด่าน (ไม่รวม DLC ) แม้ว่าแต่ละฉากจะไม่ได้ยาวมากก็ตามแต่ด้วยปริมาณทำให้อยู่กับเกมได้ยาวนานพอสมควร และกลับมาเล่นได้หลายรอบเพื่อปลดล็อกของใหม่

โดยในภาคนี้เรื่อวราวจะเน้นหนักไปที่ โอดะ โนบูนางะ (Oda Nobunaga) และ อาเกจิ มิตสึฮิเดะ (Akechi Mitsuhide) ทำให้ตลอดการเล่นจะได้สัมผัสเรื่องราวของทั้งสองตัวละครในแต่ละมุมมองไปพร้อมกัน ใครอยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์แบบไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดนักก็น่าจะชอบ และมีการเสริมเติมแต่งให้เข้ากับเกมถือว่ามีอะไรให้น่าติดตาม และแน่นอนว่าแฟนเกมชาวไทยสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นเพราะมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว

ระบบอัปเกรดที่หลากหลาย แต่ของใหม่น้อยไปหน้อย

ระบบพัฒนาตัวละครของเกมใช้ระบบอัปเลเวล แบบ Rank และใช้การอัปเกรดสกิลหรือปลดล็อกด้วยการใช้สัญลักษณ์ประจำตระกูล ส่วนการเพิ่มค่าพลังอาวุธก็ทำได้หลากหลายเพราะมีหลายระดับที่มีตั้งแต่แบบธรรมดา และอาวุธในตำนานหายากที่จะแบ่งตามสีทำให้เข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษประจำอาวุธในแต่ละประเภทด้วย ที่จะมีช่องให้ใส่สกิลใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มค่าพลังได้ เรียกว่าไม่ยุ่งยากซับซ้อน และสามารถเรียกออกมาใช้งานได้ง่าย

ส่วนที่เพิ่มเข้ามาใน Samurai Warriors 5 คือระบบ “Sengi” ที่เป็นท่าเสริมพิเศษที่ผู้เล่นต้องสะสมค่าพลังให้เต็มถึงจะใช้งานได้ ที่เรายังสามารถเลือกปรับแต่งให้ใช้ปุ่มกดไหนเพื่อเรียกมาใช้ได้ตามใจ และยังมีทั้งท่าเพื่อโจมตีหรือเพิ่มค่าพลังในส่วนต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบ และแต่ละตัวละครจะมีท่าไม้ตายที่แตกต่างกันด้วย ส่วนโหมดที่มีให้เล่นนอกจากเนื้อเรื่องหลักในภาคนี้คือ โหมดป้องกันปราสาทที่เราต้องรับบทเป็นแม่ทัพปกป้องไม่ให้ป้อมของเราโดนตีแตก ที่ไม่ได้มีอะไรใสใหม่เท่าที่ควรเพราะก็เหมือนเกมอื่นทั่ว ๆ ไป และโดยรวมถือว่ามีมาให้น้อยเกินไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคาขายของเกม

การกลับมาลงสู่สนามรบอีกครั้งใน Samurai Warriors 5 ถือว่ามาตอบสนองความต้องการของแฟนเกมแนว มุโซที่ชื่นชอบการต่อสู้กับศัตรูเป็นกองทัพ และฉากหลังเป็นญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 15 แต่ก็ไม่น่าเบื่อเพราะมันปรับแต่งให้กลายเป็นเรื่องราวที่สนุกเข้าใจได้ง่าย เกมเพลย์แม้จะไม่ได้สดใหม่อะไรเลยเหมือนกับภาคก่อนหน้านี้ และยังเหมือนกับซีรีส์ มุโซ เกมอื่น ๆ ไม่ได้ฉีกแนวออกมาแต่หากมองความล้มเหลวของภาคที่พยายามจะคิดใหม่อย่าง Dynasty Warriors 9 แล้วคงพอจะเข้าใจว่าทำไม Samurai Warriors 5 ยังใช้แนวทางเดิมซึ่งน่าจะถูกใจแฟน ๆ มากกว่าใครชื่นชอบมุโซมันเป็นอีกหนึ่งเกมที่ไม่ควรพลาด

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส