รีวิวเกม Ruined King A League of Legends Story ตำนาน LOL ฉบับ RPG คลาสสิก
Our score
8.0

Ruined King: A League of Legends Story

จุดเด่น

  1. รูปแบบ RPG แบบคลาสสิกที่สนุกเข้าใจง่าย
  2. เรื่อวราวเสริมจากภาคหลัก

จุดสังเกต

  1. โหลดเข้าฉากเกมนานและโหลดบ่อย
  2. กราฟิกธรรมดาไปหน่อย

เมื่อพูดถึงเกม LOL หรือ League of Legends คือมามาแนว MOBA ยอดนิยมของแฟน ๆ ทั่วโลกและแน่นอนว่ามันนิยมบนอย่างมากบน PC และบน สมาร์ตโฟน โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 ที่เป็นผลงานของ Riot Games และด้วยความสำเร็จ ทำให้มีโครงการแยกย่อยเอาตัวละครใน LOL มาสร้างให้มีเกมเป็นของตัวเองในรูปแบบที่แตกต่างกัน

และหนึ่งในนั้นคือ Ruined King: A League of Legends Story ที่จะเปลี่ยนจากแนว MOBA มาเป็น RPG แบบใส่คำสั่งแล้วผลัดกันโจมตีแบบเทิร์นเบส ที่เกมคลาสสิกนิยมใช้กัน ที่นับเป็นภาคแยกของ LOL อย่างเป็นทางการ ที่จะใช้ตัวละครและโลกของต้นฉบับมาสร้าง โดยหลังจากเปิดตัวในปี 2019 ก็เลื่อนวางขายมาตลอดเพราะการระบาดของ Covid-19 และล่าสุดมันได้ออกวางขายบน PC , PlayStation 4, Nintendo Switch และ Xbox One โดยสามารถเล่นบน PS5 และ Xbox Series X/S ได้ด้วย

และอย่างที่บอกว่าเรื่องราวจะยกมาจาก League of Legends ตามชื่อชองเกม โดยจะเริ่มที่เหตุการณ์ The Sentinels of Light ในภาคหลัก ที่เกิดจากความพยายามคืนชีพราชินีสุดรักของราชา Viego ทำให้เกิดสิ่งชั่วร้ายที่เรียกว่าหมอกสีดำหรือ “Black Mist” ลุกลามไปทั่วดินแดน โดยเราจะได้รับบทเป็น กลุ่มตัวละคร 6 ตัวจาก League of Legends เพื่อค้นหาที่มาของ Black Mist ซึ่งการเล่าเรื่องจะใช้สลับไปมาระหว่างตัวละคร และจะมีการใช้การ์ตูนภาพนิ่งที่เข้าใจง่ายถือว่ามีความคล้ายกับต้นฉบับพอสมควร

กราฟิกเหมือน LOL ต้นฉบับแต่แอบโหลดนาน

แม้ว่าจะออกบนคอนโซล แต่ภาพใน Ruined King ก็มีความใกล้เคียงกับต้นฉบับ และยังใช้มุมกล้องด้านบนเหมือนกับเกมแนว MOBA ส่วนความละเอียดของฉากจะเหมือนกับเกมบนสมาร์ตโฟนทั่วไปไม่ได้โดดเด่น ส่วนคัตซีนจะมีทั้งการ์ตูนที่ไม่ได้มีมากมายนักส่วนใหญ่จะมีแต่ภาพนิ่งที่มีการเคลื่อนไหวของตัวละครเล็กน้อยเท่านั้น จุดนี้อาจจะทำให้มันดูเชยไปหน่อย

แต่ที่น่าผิดหวังและทำให้การเล่นติดขัดคือการโหลดเข้าฉากที่นาน และมีจุดที่ต้องโหลดบ่อย แม้ว่าฉากจะมาแบบ 2 มิติและไม่ได้มีรายละเอียดมากแต่การโหลดใช้เวลานานเกินไปทำให้น่าเบื่อในหลายจุด ส่วนเพลงและเสียงประกอบก็เหมือนกับต้นฉบับเช่นกัน ที่มีการใส่เสียงพากย์เข้ามาแทบจะตลอดเกม และยังมีเพลงประกอบที่คุ้นเคยด้วย แม้โดยรวมจะเรียบ ๆ ไปหน่อยแต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี

รูปแบบการเล่น RPG แบบคลาสสิก

Ruined King ที่เหมือนเป็นภาคเสริมของ League of Legends Story อย่างที่บอกไปว่ามันใช้แนวทาง RPG แบบเทิร์นเบส มาเป็นรูปแบบหลัก และมีการใช้มุมกล้องแบบ 2 มิติมุมมองจากด้านบนในฉากหลักที่คล้ายกับแนว MOBA แต่จะเพิ่มส่วนของ RPG เข้ามาที่เมื่อเจอศัตรูในฉากเข้ามาโจมตีแล้ว จะมีการตัดเข้าฉากต่อสู้แบบมุมกล้องด้านข้างคล้ายกับ Final Fantasy ที่คนไทยคุ้นเคย

ส่วนในฉากต่อสู้เราจะเลือกคนในทีมได้ 3 ตัวละคร โดยในภาคนี้จะมีมาให้เลือกทั้ง Yasuo, Ahri, Pyke ,Illaoi, Braum และ MissFortune ที่จะมีความโดดเด่นและสกิลแตกต่างกัน ซึ่งหากเราจัดทีมได้ถูกที่ถูกเวลาแล้วก็จะสามารถต่อสู้ได้ง่ายขึ้นมาก แต่ที่ต้องระวังหน่อยคือค่าพลัง MP เพราะในฉากต่อสู้แบบใส่คำสั่งนั้นเราจะไม่สามารถใช้ยาเติมพลังได้ จะใช้ได้เพียงเวทมนตร์เพื่อเพิ่มค่าพลังและต่อสู้เท่านั้น ดังนั้นการจัดทีมให้ดีจึงมีความจำเป็นอย่างมากต่อการเล่น

ส่วนสกิลจะมีหลายรูปแบบทั้งแบบที่กดใช้งานได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่มเดียวอย่างสกิล Instant และแบบต้องรอเวลาตามเทิร์นอย่าง Lane ส่วนท่าไม้ตายพิเศษจะเป็นสกิลแบบ Ultimate ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีแตกต่างกัน และปิดท้ายกับสกิลที่ใช้ในดันเจี้ยนที่ผู้เล่นจะสามารถใช้ได้บนฉากแผนที่ปรกติเพื่อโจมตีศัตรูก่อนจะตัดเข้าฉากได้ด้วย ถือว่าหลากหลายพอประมาณไม่มากไม่น้อยเกินไป ส่วนหากใครกลัวว่าเกมเพลย์จะช้าผู้สร้างก็ใส่ปุ่มเร่งเวลาทำให้การเล่นในฉากต่อสู้รวดเร็วขึ้นมากมาให้ใช้งานด้วย

เรื่องราวโดดเด่นมีภารกิจย่อยให้ทำมากมาย

การดำเนินเรื่องใน Ruined King ไม่ใช่เรื่องยากเพราะมีการบอกว่าต้องไปทำอะไรที่จุดไหนตลอดการเล่นบนแผนที่ ทำให้เล่นได้ไม่ติดขัด แต่นอกจากเรื่องราวหลักแล้วยังมีภารกิจย่อยให้เราทำจำนวนมาก และผู้เล่นมีอิสระในการเดินทางไปในดินแดนที่กว้างใหญ่เพื่อทำภารกิจมากมาย รวมทั้งฉากที่แม้จะเป็น 2 มิติแต่ก็มีอะไรให้สำรวจมากกว่าที่คาดไว้มากพอสมควร

โดยรวมแล้ว Ruined King: A League of Legends Story ถือว่าเป็นเกมแนว RPG แบบเทิร์นเบส ที่สนุกใช้ได้ลงตัวในรูปแบบที่รวดเร็วและไม่เชย มีเรื่องราวที่น่าติดตาม รวมทั้งในฉากต่อสู้ก็มีอะไรให้เราต้องวางแผนการเล่นกันตลอดเกม แต่หากคุณไม่ใช่แฟนของซีรีส์ LOL ก็อาจจะไม่ค่อยอินกับเรื่องราวเท่าที่ควร แต่หากมองแต่เกมเพลย์ก็ถือว่าสอบผ่าน เสียอย่างเดียวที่ใช้เวลาโหลดเข้าฉากหลักไปหน่อย ซึ่งหากคุณรับได้แล้วมันก็เป็นอีกเกมแนว RPG ที่ไม่ควรมองข้ามไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส