เกมเพลย์ นั้นสำคัญกว่า กราฟิก ?? เรามักจะเห็นประโยคนี้อยู่่บ่อย ๆ ยิ่งสำหรับในกลุ่มชาวเกมเมอร์สาย PC Master Race ที่มักจะมีอยู่ 2 ประเภทก็คือ

  1. กลุ่มที่มองกราฟิกเป็นหลัก (เพราะคอมแรงมาก ๆ จนอยากจะงัดเอาประสิทธิภาพของคอมตัวเองออกมาให้มากที่สุด) “เกมนี้ภาพไม่สวยเลย ไม่สนุกเลย (กำลังเล่น Valheim อยู่)
  2. กลุ่มที่มองเกมเพลย์เป็นหลัก (เพราะคอมไม่แรงพอ ก็เลยใส่ใจแค่ในเรื่องเกมเพลย์เป็นหลัก เล่นให้มันถึง 40-60FPS ได้ก็น้ำตาไหลแล้ว) “เกมนี้สนุกมาก ๆ กราฟิกก็ทำมาได้ดีมาก (กำลังเล่น Valheim อยู่)”

แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลด้านบนที่ผมได้อ้างมา มันก็ไม่ได้ถูกไปซะทีเดียว เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการพัฒนาของกราฟิกนั้น มันเป็นส่วนที่สำคัญทำให้วงการเกมเดินหน้าต่อไปและพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุด

ทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าทุกค่ายเกม ต่างก็หยิบเอาคุณภาพของกราฟิกในเกมมาเป็นจุดขายหลัก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน E3 ที่มักจะเปิดตัวมาพร้อมตัวอย่างเกมกราฟิกเวอร์ ๆ สวย ๆ เน้นโฆษณา ไม่เน้นใช้งานจริง จนมีหลายคนตั้งชื่อให้เลยว่า “นี่มัน E3 กราฟิก” ที่ไม่มีทางได้เห็นจริง ๆ เมื่อเกมวางจำหน่าย

จนกระทั่งการมาของ Nvidia GeForce RTX ที่ได้หยิบเอาเทคโนโลยี Ray Tracing มาใช้ พร้อมดันให้มันกลายเป็นมาตรฐานหลักของวงการเกม แทนที่จะเป็นเพียงแค่ฟีเจอร์เสริมในเกม พร้อมกับ DLSS ที่ทั้งสองอย่างนี้ พิสูจน์แล้วว่ามันคือยุค Next-Gen ที่แท้จริงของวงการเกมครับ

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การที่จะเข้าถึงการ์ดจอ RTX ได้นั้นยังถือว่าเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่เพราะว่ามันหายาก แต่ราคาที่สูงขึ้นมากในยุคนี้ กับสิ่งที่เกมเมอร์สาย PC ต้องต่อสู้กับนักขุดเหมืองมาตลอดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ที่การ์ดจอขาดตลาด ทำให้มีราคาสูงขึ้นตามความต้องการที่มากขึ้น ทำให้เกมเมอร์หลายคนนั้น พลาดโอกาสที่จะได้ลองสัมผัสกับกราฟิก Next-Gen ที่แท้จริงไปครับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ เราจะมาพูดถึง 5 เกม ที่มาพร้อมกับกราฟิก Ray Tracing และเทคโนโลยี DLSS สุดเจ๋ง ที่ต้องบอกว่า ชาตินี้ถ้าเกิดมา ห้ามพลาดเด็ดขาด


5. Control


Control เป็นเกมที่ได้หยิบเอาเทคโนโลยีของ Ray Tracing เข้ามาใช้งาน และนำเสนอได้เป็นอย่างดี กับเกม แอ็กชันมุมมองบุคคลที่ 3 ผลงานจาก Remedy Entertainment ผู้สร้าง Max Payne, Alan Wake และ Quantum Break โดยเกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานความสร้างสรรค์จากทีมงาน หลังจากที่ได้พยายามทดลองอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา

Control ได้เอาเทคโนโลยี PhysX ของ Nvidia เข้ามาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นเกมแรก ๆ เลยที่รองรับ Ray Tracing เป็นเกมที่ Nvidia แคมเปญโฆษณาร่วมกัน และเป็นเกมที่แสดงผลของ Ray Tracing ออกมาได้สวยงามประทับใจ จนทำให้มันเป็นเกมที่ต้องเปิด Ray Tracing เท่านั้น ถึงจะได้รับประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเลยทีเดียว


4. Metro Exodus Enhanced Edition


Metro Exodus เกมภาคที่ 3 ของซีรีส์ Metro ที่สร้างมาจากนิยายรัสเซียชื่อดัง ผลงานจากทีม 4A Games จากประเทศยูเครน โดยทีมงานหลัก ๆ นั้นมาจาก GSC Game World ที่เคยทำเกมอย่าง S.T.A.L.K.E.R มาก่อน หลังจากที่ลาออกจากบริษัท ก็ได้มารวมตัวก่อตั้ง 4A Game ขึ้นมาและพัฒนาซีรีส์ Metro ขึ้นครับ

Metro Exodus เป็นเกมที่งัดเอาประสิทธิภาพของ PC ผู้เล่นได้เป็นอย่างดี และในเวอร์ชัน Enhanced Edition ที่เป็นการปรับปรุงกราฟิกในเกมใหม่ ตัวเกมได้งัดเอาความสามารถของ Ray Tracing มาใช้จนถึงขีดสุด จนถึงขั้นที่ว่า ถ้า PC ของผู้เล่นไม่ได้ใช้การ์ดจอที่รับ Ray Tracing อย่างพวก GeForce RTX ขึ้นไป ก็จะไม่สามารถเปิดเกมได้เลยทีเดียว

Metro Exodus Enhanced Edition ได้งัดเอาความสามารถของ Ray Tracing มาใช้สูงสุด โดยได้ใส่ฟีเจอร์ใหม่อย่าง Advanced Ray Traced Reflections เข้าไปทำให้จะเกิดการกระทบของแสงทุกที่ในเกม พร้อมกับ DLSS 2.0 ที่เป็นเทคโนโลยีการ Upscale ภาพ โดยใช้ AI ช่วยประมวลผล ช่วยเพิ่ม FPS ในเกม และไม่ทำให้เสียคุณภาพกราฟิกไปด้วยนั่นเอง


3. Battlefield V


Battlefield V เกม FPS สนามรบภาคที่ 5 แต่ไม่ใช่ภาคที่ 5 ของซีรีส์ ผลงานจาก DICE เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่า Battlefield ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เขย่าวงการกราฟิกในวิดิโอเกมมาตลอดทุกยุค ด้วยความสามารถของ Frostbite Engine ที่เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อเป็นผู้นำในด้านกราฟิกของวงการเกมเลยทีเดียว

Battlefield V เป็นเกมแรกเลยที่เปิดตัวให้โลกได้รู้จักกับ Ray Tracing เป็นครั้งแรก โดยมันเป็นเกมที่เปิดตัวมาพร้อมกับการ์ดจอ RTX 2000 ที่เป็นการ์ดจอรุ่นแรกของโลกที่รองรับ Ray Tracing และจนถึงทุกวันนี้มันก็ยังเป็นเกมที่แสดงผล Ray Tracing ออกมาได้ดูดี และสวยงามมาก ๆ และเป็นอีกหนึ่งเกมที่เมื่อไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี มันก็ยังไม่เก่า และถูกหยิบเอามาใช้ Benchmark กันได้ตลอดเวลา

นอกเหนือจากนี้แล้ว Battlefield V ยังรองรับ DLSS อีกด้วย และอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่เชื่อกัน แต่ความจริงแล้วนั้น Battlefield V เป็นเกมที่ “กินสเปกน้อยมาก” เมื่อเทียบกับกราฟิกที่แสดงผลออกมา กับหลาย ๆ เกมในยุคนี้ และเป็นเกมที่ผู้ที่ครอบครองการ์ดจอ RTX ต้องไปหามาเล่นให้ได้ครับ


2 . Cyberpunk 2077


ช้าก่อน!! อย่าเพิ่งตกใจว่าเกมนี้มาอยู่ในบทความนี้ได้อย่างไร เอาเข้าจริงแล้ว Cyberpunk 2077 ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกมที่มีดราม่าในเรื่องต่าง ๆ เยอะมาก และอย่างไรก็ตาม เกมนี้มันก็มีข้อดีอยู่มากเช่นกัน และเป็นอีกหนึ่งเกมที่ควรจะลองเปิดใจเล่นกันดูสักครั้ง ผลงานจาก CD Projekt RED ผู้สร้างชื่อจากซีรีส์ The Witcher ที่หลาย ๆ คนยกให้ว่าเป็น RPG ที่ดีที่สุดเท่าทีเคยมีมา และหวังว่า Cyberpunk 2077 ก็จะเข้ามาชิงตำแหน่งนั้นไป (ก่อนที่จะผิดหวังไปตาม ๆ กัน)

Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ทะเยอทะยานมาก ๆ ในทุก ๆ เรื่อง และหนึ่งในนั้นเองก็คือเรื่องกราฟิก ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มสุดจัดกระหล่ำปลี จนทำเอา Console อย่าง PS4 และ Xbox One ถึงกับเล่นไม่ได้ สร้างกระแสดราม่า และทำให้ Sony ต้องถอดตัวเกมออกจาก Store กันไปเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม Cyberpunk 2077 เวอร์ชัน PC ที่ปรับตั้งค่าสูงสุดแบบ RTX On นั้น ต้องบอกเลยว่า มันเป็น RTX Technology Showcase ดี ๆ เกมหนึ่งเลยก็ว่าได้ ตัวเกมจัดเต็มแบบไม่กั๊ก จนขนาด RTX 3070 Ti ของผู้เขียนที่ได้ลองปรับสุดทุกอย่าง ก็ยังเอาไม่อยู่ (เกมแห่งอนาคตจริง ๆ) แต่ต้องยอมรับเลยว่าภาพมันสวยมากจริง ๆ แค่ได้เดินเล่นไปใน Night City ยามค่ำคืนที่มีแต่แสงสีตามสไตล์ Cyberpunk ก็ฟินสุด ๆ แล้ว และเป็นเกมที่ผู้ครอบครองการ์ดจอ RTX ต้องห้ามพลาดเด็ดขาดครับ


1. Minecraft


Minecraft เป็นเกมแรกที่ผมโหลดมาทดสอบ เมื่อได้การ์ดจอ RTX มาอยู่ในมือ ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิดแล้ว Minecraft นี่ล่ะ คือสุดยอดเกมที่จะแสดงผลกราฟิก RTX ออกมาได้สวยงาม ประทับใจ และเห็นผลมากที่สุด จนอาจจะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณระเบิดเลยก็ว่าได้ (เคยมีระเบิดจริง ๆ นะ คลิก)

Minecraft เป็นเกม Survival sandbox ที่แรกเริ่มเดิมที มันเป็นเกมเล็ก ๆ จากผู้พัฒนาเพียงคนเดียว ก่อนที่มันจะได้รับความนิยม และกลายเป็นสุดยอดเกมที่มีคนเล่นเยอะที่สุดในโลก และถูกต่อยอดเอาไปทำอะไรมากกว่าเป็นเพียงแค่เกมธรรมดา ๆ และเป็นสถานที่สร้างงานศิลปะระดับเทพมาแล้วครับ

ตัวเกมนั้นถูก Port ไปหลายเครื่องมาก และสำหรับ PC เองก็มีอยู่ 2 Version นั้นก็คือ Java และ Windows 10 โดยสำหรับผู้เล่นที่เล่นเวอร์ชันของ Windows 10 จะพิเศษตรงที่มันจะมี Mode RTX On ให้ แถมยังมาพร้อมกับ NVIDIA DLSS อีกด้วย และต้องขอบอกเลยว่า Minecraft RTX นั้น มันดูดีมาก ๆ จนทำเอาหลาย ๆ เกมในยุคนี้ต้องกลับไปมองตัวเองใหม่กันเลยทีเดียว


ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับ 5 เกมที่ดูน่าทึ่งเพราะ Ray Tracing จริง ๆ แล้วมันมีเยอะกว่านี้มาก แต่เราขอจัดมาเฉพาะเกมที่น่าสนใจ เป็นที่รู้จัก และแน่นอนว่าต้องเป็นเกมที่ดูดีจริง ๆ เหมาะสมกับ RTX ของเรา

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การ์ดจอ RTX มันอาจจะหายากเกินไปสักหน่อยในยุคนี้ ใครที่ยังไม่มีไว้ในครอบครองก็อย่าเพิ่งน้อยใจกันไป เพราะยุคของ Ray Tracing นั้นมันอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคตเราจะได้เห็นอะไรเจ๋ง ๆ กว่านี้อีกมาก และจนถึงตอนนั้นทุก ๆ คนก็น่าจะมีการ์ดจอที่รองรับ Ray Tracing กันไว้ในครอบครองกันทุกคนแล้วครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส