วันนี้คอปเตอร์ จะพาทุกคนมาอัปเดตเทรนด์รถไฟฟ้าจากงาน Bangkok EV Expo 2023 ไปกับ OnePlus 11 5G ! ในงานนี้มีอะไรมาอัปเดตบ้าง และเกี่ยวอะไรกันกับ OnePlus 11 5G เครื่องนี้ ตามมาดูกันเลย !

อย่างแรกที่สะดุดตาคอปเตอร์มากก็คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทรงคลาสสิกคันนี้ที่ทั้งผลิต และประกอบในประเทศไทย ! โดยรุ่นนี้สามารถวิ่งได้กว่า 70 กิโลเมตรใน 1 รอบชาร์จเท่านั้น แถมยังสีสวยด้วย แบบนี้ต้องขอถ่ายภาพซะหน่อย ด้วย OnePlus 11 5G เครื่องนี้ ที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพที่ได้ร่วมมือกับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Hasselblad ในการช่วยทำซอฟต์แวร์เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ! Hasselblad เองก็เป็นแบรนด์กล้องที่ใช้คำว่า ‘คลาสสิก’ ได้เหมือนกัน ด้วยการเป็นแบรนด์กล้องที่อยู่มานานกว่า 182 ปีแล้ว !

โดยในรุ่นนี้มาพร้อมเลนส์ถ่ายภาพหลักขนาด 50 MP กับเซนเซอร์ IMX890 พร้อมการปรับแต่งซอฟต์แวร์การถ่ายภาพของ Hasselblad ที่ชื่อ Accu-spectrum Light-color Identifier ให้สีสมจริงกว่าเดิม และกล้องเลนส์ซูม Telephoto “DSLR” Portraits 32 MP IMX709 ที่ทำให้การถ่ายภาพบุคคลสวยเหมือนถ่ายจากกล้อง DSLR ยังไงงั้นเลย ! ลองดูตัวอย่างภาพจาก OnePlus 11 5G ได้เลย !

อีกคันนึงที่คอปเตอร์เห็นแล้วค่อนข้างชอบ เหมาะกับใครที่ชอบความคุ้มค่า ก็คงจะต้องเป็นนี่เลย คันที่ทุกคนเห็นอยู่นี้เป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็ก แม้จะดูเล็ก ๆ แบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วสามารถนั่งได้ 4 ที่นั่งเลยนะ ! และวิ่งได้ 170 กม. ต่อ 1 การชาร์จ เหมาะเป็นรถสำหรับวิ่งในเมือง และอยู่ในราคาที่จับต้องได้อีกด้วย

แต่นอกจากรถไฟฟ้าที่น่าสนใจแล้ว ภาพที่ทุกคนเห็นอยู่นี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะภาพนี้เป็นภาพถ่ายสดหลังกล้อง ผ่านเลนส์มุมกว้าง 115° 48 MP IMX581 จาก OnePlus 11 5G ด้วยฝีมือของคอปเตอร์เอง ! ภาพที่ได้ถือว่าออกมาได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว ด้วยการปรับแต่งสี Natural Color Calibration with Hasselblad แบบ Accu-spectrum Light-color Identifier ที่ทำให้ภาพออกมาสมจริงอย่างที่เห็นกันอยู่นี้ และ Sony’s 2×2 On-Chip Lens (OCL) กลไกช่วยให้สามารถตรวจจับความแตกต่างระหว่างพิกเซล 50 ล้านพิกเซล ในเลนส์หลัก ที่ช่วยให้โฟกัสได้แม่นยำขึ้น ซึ่งทำงานร่วมกับ TurboRAW HDR ที่จะปรับระดับแสง และสมดุลแสงขาวของทั้ง 3 เลนส์หลัก (รวมเลนส์มุมกว้างด้วยนะ !) ที่ทำให้ ไม่ว่าใครก็ถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพ !

นอกจากภาพนี้แล้ว ยังมีภาพรถไฟฟ้าอื่น ๆ จากภายในงานมาฝากชาว beartai ทุกคนกันด้วยนะ ! ทุกรูปในนี้ถ่ายด้วย OnePlus 11 5G ด้วยระยะซูม 1 เท่า ทั้งหมดเลย !

นอกจากจะถ่ายภาพรถจากกล้องหลังแล้ว ต้องขอถ่ายภาพกล้องหน้าคู่กับรถไฟฟ้าซะหน่อย เอาไว้เป็นแรงบันดาลใจในการเก็บเงินซื้อรถไฟฟ้าของตัวเองต่อไป ! ซึ่งใน OnePlus 11 5G ก็ได้ให้กล้องหน้ามาที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ƒ/2.45 ที่นอกจากจะใช้ถ่ายเซลฟีแบบธรรมดาได้แล้ว ยังสามารถเอาไว้ถ่าย Portrait Selfie ก็ได้นะ ! ลองดูตัวอย่างภาพได้เลย

ระหว่างที่กำลังดูรถอยู่ ก็สามารถถือ OnePlus 11 5G ไปด้วยอย่างมั่นใจ และลื่นไหล เพราะใครที่เป็นสาวก OnePlus จะรู้กัน ว่าสมาร์ตโฟนของ OnePlus นั้นจัดเต็มด้านสเปกมาขนาดไหน และในรุ่นนี้เองก็เช่นกัน ที่จัดเต็มด้วย CPU เรือธง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่หลาย ๆ คนได้สัมผัสกันไปแล้ว ว่า CPU รุ่นใหม่นี้ดีกว่าเดิมแค่ไหน โดยเฉพาะด้านความแรง และการประหยัดพลังงาน แต่ที่ทำให้หายห่วงยิ่งกว่าเดิม คือ OxygenOS ซอฟต์แวร์สกินที่เป็นของเด็ดจากค่าย OnePlus มาอย่างยาวนาน ที่ตอนนี้ก็ได้เดินทางมาถึงเวอร์ชันที่ 13 (based on Android 13) แล้ว ! โดยยังคงความเป็นรอมที่ลื่นไหล ไม่หนัก ใช้งานง่าย เหมือนเดิม ! โดยใน OnePlus 11 5G นี้ ทาง OnePlus เขาออกมาบอกเองเลยว่า จะให้การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ 4+5 ปี ! กล่าวคืออัปเดต Android 4 เวอร์ชัน และแพทช์ความปลอดภัย 5 ปี ! ใช้กันไปยาว ๆ  !

โดยในครั้งนี้ OnePlus เขาได้เปิดตัวหูฟัง OnePlus Buds Pro 2 หูฟังตัวท๊อปที่นอกจากจะดูดี พรีเมี่ยมแล้ว ยังได้มาพร้อมกับสีที่เข้ากันกับตัวเครื่องของ OnePlus 11 5G นี้ ให้ดูดี ดูเท่ยิ่งกว่าเดิม ! เข้าเซ็ตกันสุด ๆ ทั้งสีดำ (มือถือ Titan Black + หูฟัง Obsidian Black) และสีเขียว (มือถือ Eternal Green + หูฟัง Arbor Green) ตามชอบกันเลย

ไหน ๆ พูดถึงเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องแล้ว ต้องเล่าต่ออีกหน่อย คือดีไซน์ของ OnePlus 11 5G ครั้งนี้ ถือว่าทำมาน่าสนใจ และน่าจับตามองเหมือนกันนะ ! ฝาหลังของ OnePlus 11 5G นี้มาในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยในสีดำ Titan Black มาพร้อมกับฝาหลังแบบด้านที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกับฝาหลังขัดด้านแบบอื่น ให้สัมผัสที่ค่อนข้างดี ดูพรีเมี่ยม ในขณะที่สีเขียว Eternal Green เองก็เป็นกระจกแบบใสที่ให้ความรู้สึกสวยงามอีกแบบเช่นเดียวกัน ! ส่วนด้านข้างก็เป็นอัลลูมิเนียมที่แข็งแรงดี แต่ที่หลายคนเรียกร้องกันไป ได้กลับมาหาเราแล้ว กับ ‘Alert Slider’ ปุ่มสไลด์ที่จะเปลี่ยนโหมดของสมาร์ตโฟนให้เป็นเปิดเสียง, เปิดโหมดสั่น หรือปิดเสียงและสั่นได้ในการสไลด์เท่านั้น ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus มานาน และใน OnePlus 11 5G ก็ได้กลับมาแล้ว !

ดูรถเพลินแล้ว ขอไปพักเล่นเกมบ้างดีกว่า ! ซึ่ง OnePlus 11 5G นี้ก็เอามาเล่นเกมได้แบบหายห่วงเลย ! ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องสเปกตัวเครื่องที่ใช้ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่แรงขึ้นและร้อนน้อยลง แต่ถ้ายังกลัวร้อน เขา ยังมีระบบระบายความร้อนแบบ Cyro-velocity VC หรือแผ่นระบลายความร้อนที่ใหญ่ถึง 3685 ตารางมิลลิเมตร และ mid-frame layer 5673 ตารางมิลลิเมตร ที่ทำจากคริสตัลกราฟีนซึ่งถือว่ามีพื้นที่ระบายความร้อน VC ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล OnePlus Number Series และวัสดุผลึกกราฟีนแบบใหม่ ลดความร้อนมากขึ้น เพราะฉะนั้นต่อให้มานั่งเล่นในงาน นอกบ้าน ก็สบายหายห่วงแน่นอน !

นอกจากชิปเซตแล้ว สเปกส่วนอื่น ๆ ก็จัดเต็มเหมือนกัน ด้วยแรมแบบ LPDDR5X สูงสุด 16GB และหน่วยความจำแบบ UFS สูงสุดที่ 4.0 (เฉพาะรุ่นรอม 256GB เท่านั้น) รวมถึงได้มีเทคโนโลยี RAM-Vita ที่มีอยู่ใน OxygenOS 13 เท่านั้น ซึ่งส่วนนี้จะช่วยจัดลำดับความสำคัญของ RAM ที่จะปล่อยจากการใช้งานเริ่มต้นไปสู่การใช้งานที่หนักหน่วงขึ้น ทำให้ต่อให้ออกเกมก็ยังมีความลื่นไหลได้ และหน้าจอที่จัดเต็มสำหรับการเล่นเกม ด้วยหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว 2K 120Hz Super Fluid AMOLED พร้อมเทคโนโลยี LTPO 3.0

หลังจากที่ได้ไปดูทั้งรถ นั่งเล่นเกม หรือไปเที่ยวมาทั้งวัน แม้แบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5,000 maAh จะหมด ก็หายห่วงได้ เพราะว่า OnePlus 11 5G มาพร้อมกับระบบชาร์จไวที่ให้มาถึง 100W ด้วยเทคโนโลยี SUPERVOOC ที่ชาร์จได้ไวสุด ๆ จาก 1% ไป 100% ได้ภายใน 25 นาทีเท่านั้นเอง แต่ถ้าใครกลัวว่าแบตจะเสื่อมเร็วด้วยระบบชาร์จที่ไวขนาดนี้ OnePlus 11 5G นี้ยังมี Battery Health Engine ที่ช่วยถนอมแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมเร็วเกินไป และเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยนะ

แม้คอปเตอร์อาจจะยังไม่ได้รถไฟฟ้าในวันนี้ แต่คอปเตอร์มั่นใจว่าใครหลาย ๆ คนที่ได้ตามมาดู จะสนใจ และอยากได้สมาร์ตโฟนเรือธงลำใหม่ล่าสุดจาก OnePlus ที่ไม่ต้องมีคำว่า Pro ก็ให้ประสิทธิภาพระดับโปรได้ ! ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การถ่ายภาพ หรือฟังเพลงไปกับ OnePlus Buds Pro 2 สุดท้ายนี้ ขอฝากค่าตัวของ OnePlus 11 5G นี้ให้ทุกคนได้ทราบกัน !

OnePlus 11 5G 

  • 8GB + 128GB สีดำ Titan Black ราคา 29,990 บาท
  • 16GB + 256GB สีเขียว Eternal Green ราคา 32,990 บาท

OnePlus Buds Pro 2

  • สีเขียว Arbor Green | สีดำ Obsidian Black ราคา 6,490 บาท

ช่องทางจัดจำหน่าย : OnePlus Experience Zone, AIS, Lazada, Shopee, Thisshop และ OPPO Brand Shop รายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจสั่งซื้อ : https://www.oneplus.com/th

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส