iPhone, iPad, Macbook, AirPods รวมถึง Apple Watch ล้วนเป็นสินค้าไอทีจาก Apple ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากถึง 96,388 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 แต่คุณรู้หรือไม่? ว่า Apple ไม่เคยเรียกตัวเองว่าบริษัทเทคโนโลยีเลย แม้ว่าจะขายสินค้าไอทีก็ตาม แล้วเรื่องนี้มีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่? เราจะบรีฟให้คุณฟัง

เมื่อปี 2019 ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอคนปัจจุบันของ Apple เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ภาพลักษณ์ของ Apple นั้น มีตั้งแต่การเป็นบริษัทคอมพิวเตอร์, บริษัทเทคโนโลยี, ผู้ให้บริการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงการเป็นร้านค้าสุดหรู ซึ่งจะมองออกมาเป็นแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและเหตุผลของแต่ละคน

ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ ทิม คุก ได้พูดถึงหลักการลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) นักลงทุนชื่อดังและซีอีโอของ Berkshire Hathaway ว่า บัฟเฟตต์จะไม่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี รวมถึงการไม่ลงทุนในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ แต่การที่บัฟเฟตต์เลือกลงทุนใน Apple นั้น เป็นเพราะเขามองว่า Apple เป็น Consumer Company หรือบริษัทที่ขายสินค้าเพื่อผู้บริโภคนั่นเอง

ส่วน Apple จะเป็นบริษัทที่ขายสินค้าเพื่อผู้บริโภคจริง ๆ หรือไม่ ทิม คุก อธิบายต่อว่า Apple อยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีก็จริง แต่บริษัทก็อยู่ตรงจุดตัดระหว่างเทคโนโลยี ศิลปศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ หมายความว่า Apple เป็นบริษัทที่สร้างผลิตภัณฑ์ โดยดูว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วก็ทำสิ่งนั้นออกมาขาย

และเพื่อเป็นฉีกกรอบจากการขายแค่คอมพิวเตอร์เหมือนในช่วงเริ่มก่อตั้ง ในปี 2007 สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ได้ประกาศเลิกใช้ชื่อบริษัทว่า Apple Computer และตัดชื่อเหลือเพียง Apple เท่านั้น โดยเขาให้เหตุผลว่า “นี่คือการเปลี่ยนแปลงไลน์ผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ของบริษัท” ซึ่งในช่วงเวลานั้น หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพราะพวกเขามองว่า Apple คือบริษัทเทคโนโลยีที่ขายทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟนนั่นเอง

ต่อมาในปี 2010 สตีฟ จอบส์ เปิดเผยภายหลังการเปิดตัว iPad ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากว่า การที่ Apple สามารถสร้าง iPad ขึ้นมาได้ก็เพราะว่า ความพยายามที่จะอยู่ตรงจุดตัดของเทคโนโลยีและศิลปศาสตร์ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สุดยอด แต่สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการใช้สัญชาตญาณของมนุษย์

แม้ว่า สตีฟ จอบส์ จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ ทิม คุก ที่รับตำแหน่งต่อจากเขาก็ยังคงนำพาให้ Apple อยู่ตรงจุดตัดของเทคโนโลยี ศิลปศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ซึ่งปัจจุบัน เราอาจจะไม่ค่อยเห็นการเปิดตัวเทคโนโลยีที่ว้าวสุด ๆ จาก Apple สักเท่าไร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ระบบนิเวศหรือ Ecosystem ของ Apple นั้น ขยายวงกว้างและแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ใคร ๆ ที่ได้ลองก้าวเข้ามาในระบบนิเวศนี้แล้ว ก็ต้องซื้ออุปกรณ์ของ Apple มาใช้งานมากกว่า 1 ชิ้น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส