นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา รับทราบผลการลงมติที่ประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เห็นชอบให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี 2026 (พ.ศ. 2569) 

โดยการประชุมดังกล่าวถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อหารือในประเด็นที่สำคัญและเร่งด่วนของเศรษฐกิจโลก โดยมีการประชุมปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ การประชุม Spring Meeting ในเดือนเมษายน ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา

และการประชุมประจำปีในเดือนตุลาคม ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 2 ครั้งติดต่อกัน และจะเวียนมาให้ประเทศสมาชิกเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีที่ 3 ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งราชอาณาจักรโมร็อกโกจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี 2026

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี 2026 และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 14-16 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะทำงานของธนาคารโลกฯ ได้เดินทางมาสำรวจสถานที่จัดการประชุม โรงแรมที่พัก ระบบคมนาคม และความพร้อมของไทย เพื่อจัดทำรายงานผลการประเมินประเทศที่มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเห็นชอบให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปี 2026

“นับเป็นความสำเร็จของไทยที่ได้รับเลือกให้เป็นประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมและสถานที่จัดงานสำคัญระดับโลก สะท้อนให้เห็นว่าประเทศต่าง ๆ และองค์การระหว่างประเทศ มีความมั่นใจและเชื่อมั่นศักยภาพของประเทศไทย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าวต่อไป รวมถึงดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส