คล้ายจะจุดประกายความหวังให้กับคนที่อยากฉีดวัคซีนโควิดเร็ว ๆ  ด้วยวัคซีนยี่ห้ออื่นนอกเหนือจากที่มีอยู่ในประเทศไทย  เมื่อมีข่าวว่าจะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวบางประเทศและรับการฉีดวัคซีนโควิดได้ด้วยเลยในคราวเดียว

ช่วงนี้มีการร่ำลือกันหนักถึงเรื่องนี้โดยว่ากันว่า ถ้าไปให้ถึงอเมริกาก็จะสามารถไปขอฉีดวัคซีน (ไฟเซอร์ โมเดอร์นา หรือ จอห์นสัน&จอห์นสัน) ได้ฟรี ๆ เพียงมีเอกสารแสดงตัวตนที่ระบุวันเดือนปีเกิดเท่านั้น ฟังเผิน ๆ อาจจะชวนดีใจว่าถ้าไปอเมริกาได้ก็รอดแล้ว แต่หากเจาะลึกลงไปตามกฏของแต่ละรัฐ จะพบว่าคนต่างชาติซึ่งสามารถไปขอรับวัคซีนได้นั้น จะต้องมีแอดเดรสที่อยู่เป็นหลักแหล่งในรัฐนั้น ๆ  หรือมีหลักฐานว่ามาเรียนหรือทำงานอยู่ในรัฐ  โดยไม่ต้องมีตัวเลข Immigration หรือ Social Security ซึ่งทำให้คนต่างชาติที่ไปอยู่บ้านลูกหลานญาติพี่น้อง สามารถใช้อ้างอิงที่อยู่ได้ หรือคนที่ไปทำงานแบบได้รับการรับรองจากผู้จ้าง ก็สามารถไปขอฉีดได้  แต่ยังไม่มีรัฐใดในอเมริกาที่มีนโยบายฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยว นอกจากอะแลสกา (Alaska)

อะแลสกา รัฐที่ไม่มีพื้นดินติดต่อกับเมนแลนด์สหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นความหวังที่สุดไปแล้วสำหรับการจะไปเที่ยวและฉีดวัคซีน ด้วยเพิ่งประกาศออกมาเมื่อปลายเมษายน ว่าจะมีแคมเปญฉีดวัคซีนให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติหลักทั้ง 4 แห่ง (แองเคอเรจ ,จูโน ,สเกกเวย์, แฟร์แบงส์) ในเงื่อนไขที่ว่า นักท่องเที่ยวผู้นั้นจะต้องมีหลักฐานการตรวจโควิดภายใน 72 ชั่วโมงโดยผลเป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบินมา ทางรัฐจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้ที่สนามบินทันทีที่มาถึงและให้รับเข็มที่ 2 หลังจากนั้น 5-14 วัน โดยจะเริ่มโครงการในวันที่ 1 มิถุนายน ศกนี้

อะแลสกามีประชากร 731,545 คน ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสไปแล้ว 536,346 คน สถิติผู้ติดโควิดคือ 65,409 คนและมีผู้เสียชีวิต 341 คน (ข้อมูลเมื่อวันที่ 1  พฤษภาคม 2564) ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเพียง 46 คนถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว 

แต่ว่าจะไปถึงอะแลสกาได้อย่างไร ต้องใช้เงินเท่าไหร่ จะต้องท่องเที่ยวอยู่นานแค่ไหน (เพื่อใช้จ่ายในรัฐเขาให้คุ้มค่าวัคซีน) ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องรอดูกันต่อไป

นอกจากอะแลสกา ยังมีมัลดีฟส์อีกประเทศที่ออกตัวมาอย่างชัดเจนเมื่อกลางเดือนเมษายน ว่าจะเปิดประเทศด้วยนโยบายการท่องเที่ยว 3 V (Visit, Vaccinate, Vacation) ให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวพักผ่อนได้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ไปในคราวเดียว โดยยังไม่ได้กำหนดว่าจะเริ่มแคมเปญนี้เมื่อไหร่ 

อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกได้กล่าวมาตลอดว่า ไม่สนับสนุนให้นำวัคซีนมาใช้เพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อน ตราบใดที่ผู้สูงอายุและบุคคลากรแถวหน้าในโลกที่ 3 ยังได้วัคซีนไม่ครบ มัลดีฟส์เองได้วัคซีนมาจากโครงการ COVAX อันเป็นโครงการช่วยเหลือวัคซีนฟรีให้กับประเทศโลกที่ 3  มัลดีฟส์ได้รับบริจาควัคซีนซิโนแวคกับแอสตราเซเนกา มาจากจีนและอินเดีย ซึ่งในช่วงนี้ COVAX จะหยุดส่งวัคซีนให้มัลดีฟส์ชั่วคราวจนถึงปลายเดือนมิถุนายน เพราะเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในอินเดีย

มัลดีฟส์ฉีดวัคซีนให้ประชากรอย่างน้อยคนละ 1 โดสไปแล้ว เกือบ 50% ของประชากรที่มีอยู่ราว 550,000 คน สถิติผู้ติดโควิด ราว 25,000 คน เสียชีวิต 67 คน และกราฟกลับมาพุ่งอีกครั้งเมื่อเจอเคสถึง 402 คนในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา  โดยมัลดีฟส์กำหนดให้รีสอร์ตขนาดใหญ่ เปิดทำการได้อีกครั้งในวันที่ 15 กรกฏาคมที่จะถึงนี้

อ้างอิง:
Travelalaska.com
Cruisehive.com
Dhss.alaska.gov
Cntravel.com
Blog.wego.com
covid19.health.gov.mv

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส