การเมืองมาเลเซียคล้ายคลึงกับการเมืองไทยตรงที่เล่นพรรคเล่นพวก ใช้เงินและอิทธิพลมหาศาลซื้อตำแหน่งหรือเพื่อรักษาอำนาจของนักการเมืองไว้

ที่ต่างจากของไทยไปบ้างเป็นการเมืองของกลุ่มชาติพันธ์ กล่าวคือพรรคกลุ่มชาตินิยมมาเลย์จะมีบทบาทมากกว่าชาติพันธุ์อื่น ๆ เช่น จีนและอินเดีย ซึ่งต่างก็มีพรรคการเมืองเป็นตัวแทน

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ชื่อ อิสมาอิล ซาบรี (Ismail Sabri) ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นจากรองนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ก็มากับพรรคอัมโนนั่นเอง เป็นผลมาจากการต่อรองของสมาชิกผู้แทนราษฎรที่มีทั้งหมด 222 ที่นั่ง ใครสามารถชักนำ ส.ส.เข้าฝ่ายตนเกินครึ่งนึงก็จะได้ครองอำนาจ ซาบรีได้เสียงสนับสนุนเกินครึ่งจากพรรคร่วมอัมโน

ในกลุ่มรัฐบาลยังมีพรรคร่วมอัมโนเป็นตัวหลัก ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะผู้นำคนนี้มีการวางตัวไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อสามสี่เดือนก่อนภายในพรรค มีการตกลงกันว่า ถ้ากรณีนายกรัฐมนตรีคนก่อนคือ มุฮ์ยิดดิน ยัซซิน ต้องลาออกเนื่องจากแรงกดดันจากพรรคฝ่ายค้านและประชาชน นายซาบรีจะมาเป็นตัวเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที เพื่อกันไม่ให้พรรคฝ่ายค้านซึ่งมีอดีตรองนายกรัฐนมตรี อิบราฮิบ อันวา เป็นหัวหน้ารอท่าเข้าเสียบอยู่

ทั้ง ๆ ที่พรรคร่วมอัมโนมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเต็มไปด้วยเรื่องคอร์รัปชัน เรื่องอื้อฉาวแต่ละเรื่องนั้นมีมูลค่ามหาศาลเป็นหมื่น ๆ ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถทำลายบารมีที่สร้างสมกันมานานกว่า 6 ทศวรรษ พรรคนี้ยังเป็นเสาหลักของการเมืองมาเลเซียอยู่ถึงแม้ว่าจะสูญเสียอำนาจเมื่อ 2 ปีก่อน สืบเนื่องจากกรณีคอรัปชั่นครั้งมโหฬารในรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก 

ลึก ๆ คนมาเลย์เห็นและยอมรับว่าพรรคอัมโนเป็นพรรคที่ปกป้องผลประโยน์ของชาวมาเลเซีย หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ภูมิบุตร’ คือคนพื้นถิ่นนั่นเอง การเมืองมาเลเซียจึงเป็นการเมืองเลือกข้างชัดเจน คือจะเอาข้างคนมาเลย์หรือข้างคนอื่น พรรคการเมืองตัวแทนคนจีนและอินเดียในมาเลเซียเป็นตัวประกอบให้กับพรรคอัมโนเท่านั้น

มาเลเซียต้องการเป็นประเทศอิสลามแนวหน้าที่มีความเจริญ มีการพัฒนาสังคมที่ทันสมัย เพื่อเป็นตัวอย่างให้ประเทศอิสลามกระแสหลักในโลก มาเลเซียต้องแข่งกับอินโดนีเซียและตุรกีซึ่งมีปณิธานคล้ายกัน มาเลเซียมักมีท่าทีการทูตที่แข็งกร้าวไม่เหมือนกับสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับตะวันออกกลางหรือโรฮิงญา

ด้วยนโยบายพรรคอัมโนต่อประเทศเพื่อนบ้านมีความต่อเนื่องมาตลอด ส่วนความสัมพันธ์กับไทยนั้นจะไม่กระทบกระเทือน การแก้ไขปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ยังคงดำเนินต่อไป แต่ผลคืบหน้าช้ามากเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 การเจรจาสันติภาพกับผู้เกี่ยวข้องที่มีมาเลเซียเป็นผู้ประสานก็ยังดำเนินการอยู่

เพียงแต่ว่าหลังจากที่ไทยช่วยมาเลเซียแก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็นได้ มิตรภาพไทยกับมาเลเซียก็ไม่เคยใกล้ชิดกันอีกเลยจนถึงปัจจุบัน เพราะไทยไม่ไว้ใจฝ่ายความมั่นคงของมาเลเซียเกี่ยวกับเหตุการณ์ในภาคใต้นั่นเอง 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส