หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงานผลการศึกษาใหม่หลายฉบับที่พบ 1 ใน 3 ของเด็กสหรัฐฯ ที่ศึกษาในระดับชั้นต่ำสุด มีทักษะการอ่านไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19

“เด็กในทุกกลุ่มประชากรล้วนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเด็กผิวดำและเด็กฮิสแปนิก รวมถึงครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ผู้ทุพพลภาพ และผู้พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง” รายงานข่าวระบุ

ทักษะการอ่านเบื้องต้นของรัฐเวอร์จิเนียอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ขณะร้อยละ 60 ของนักเรียนโรงเรียนในพื้นที่ยากจนสูงบางแห่งของบอสตัน ถูกจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาการอ่าน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่

ทั้งนี้ วิกฤตการรู้หนังสือไม่ได้เริ่มต้นด้วยโรคระบาดใหญ่ โดยบทความเรื่อง “สัญญาณเตือน : การอ่านของเด็กกำลังถดถอย” (It’s ‘Alarming’: Children Are Severely Behind in Reading) ระบุว่า ก่อนหน้านี้ในปี 2019 ผลการสอบระดับชาติและระดับนานาชาติแสดงให้เห็นว่าทักษะการอ่านของชาวอเมริกันหยุดนิ่งหรือลดต่ำลง ซึ่งขยายช่องว่างระหว่างผู้มีความสามารถสูงและต่ำ 

รายงานชี้ว่าสาเหตุมาจากหลายแง่มุม แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากพุ่งเป้าที่ปัญหาขาดแคลนนักการศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมด้านการออกเสียงและการตระหนักรู้เกี่ยวกับสัทศาสตร์ (การศึกษาเสียงพูดของมนุษย์) ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานของการเชื่อมโยงเสียงพูดภาษาอังกฤษเข้ากับตัวอักษร ส่วนโรคระบาดใหญ่ทำให้ปัญหาเหล่านั้นทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ที่มา : ซินหัว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส