ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไป หลังเครื่องบินโบอิง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 132 คน ประสบอุบัติเหตุพุ่งตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ (21 มี.ค.)

เจ้าหน้าที่มากกว่า 2,000 คน ถูกส่งไปช่วยเหลือยังจุดเกิดเหตุ แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่กลางป่าบนภูเขา ดังนั้นการค้นหากล่องดำจึงต้องอาศัยทั้งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน (UAV) และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

จูเสี่ยวตง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากศูนย์กู้ภัยด้วยโดรนในนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นปลายทางของเครื่องบินลำดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่าการกู้ภัยครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมีเส้นทางเดินเพียงไม่กี่เส้นทางที่เชื่อมไปยังจุดเกิดเหตุ

นอกจากนี้ ยังมีฝนตกโปรยปรายบริเวณพื้นที่กู้ภัย เมื่อเวลาราว 07.30 น. ของวันอังคาร (22 มี.ค.) โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันอังคาร (22 มี.ค.) ถึงวันพฤหัสบดี (24 มี.ค.) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภารกิจกู้ภัยครั้งนี้

เครื่องบินโบอิง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส
ชิ้นส่วนของซากเครื่องบินโดยสารที่จุดประสบเหตุในอำเภอเถิงเซี่ยน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน วันที่ 22 มี.ค. 65

อนึ่ง เครื่องบินโบอิง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส (China Eastern Airlines) ซึ่งบินจากเมืองคุนหมิงสู่เมืองกว่างโจว ตกในพื้นที่ภูเขาใกล้กับหมู่บ้านโม่ล่าง อำเภอเถิงเซี่ยน เมืองอู๋โจว เมื่อเวลา 14.38 น. ของวันจันทร์ (21 มี.ค.) ส่งผลให้เกิดไฟไหม้บนภูเขา

ที่มา : ซินหัว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส