สหรัฐฯ กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนผู้บริจาคไต อ้างอิงจากเครือข่ายการจัดซื้อและปลูกถ่ายอวัยวะเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะในฐานข้อมูลระดับชาติ มีชาวอเมริกากว่า 100,000 คนที่รอการปลูกถ่ายไต แต่มีเพียงแค่ 16,000 คน เท่านั้นที่ได้รับการปลูกถ่ายไต ในแต่ละปีไตกว่า 2,000 ชิ้น ที่ได้รับบริจาคจากผู้เสียชีวิตในหสรัฐฯจำเป็นต้องทิ้ง อ้างอิงจากทีมนักวิจัยนานาชาติซึ่งถูกนำเสนอในวันที่ 27 ตุลาคมที่ American Society of Nephrology Weekney 2018 ซึ่งเป็นงานประชุมทางการแพทย์ของผู้เชี่ยวชาญด้านไตใน San Diego

นักวิจัยกล่าวว่าสหรัฐฯควรได้รับคำแนะนำจากฝรั่งเศส ประเทศที่มีการใช้ไตที่ได้รับบริจาคมาอย่างมีประสิทธิภาพ หรือจะว่าง่ายๆคือ ทางสหรัฐฯ ควรเลิกทิ้งไตทีได้รับบริจาคมาได้แล้ว เพราะไตเหล่านั้นสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อีกมากมาย

เมื่อผู้ป่วยได้รับการพิจารณาว่าจะได้รับการปลูกถ่ายไต หมอจะนำไตมาตรวจสอบคุณภาพ ไตของผู้บริจาคจะถูกนำมาตรวจประวัติ หรือที่เรียกว่า KDPI. มีเงื่อนไขมากมายรวมถึงอายุ ปัญหาด้านสุขภาพอย่างเช่น ความดันสูง เบาหวาน เพื่อนำไปสู่การหาค่า KDPI. ดร. Peter Reese ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายไตและรองศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ของ Perelman กล่าวว่า ในสหรัฐฯอวัยวะที่ได้รับการบริจาคมาจากผู้สูงอายุจะมีคุณภาพที่ต่ำ และ มีความเสี่ยงสูงในการปลูกถ่าย ไตที่ไม่มีคุณภาพเหล่านี้จะไม่ได้รับการปลูกถ่าย และจะถูกนำไปทิ้ง ถึงแม้จะอยู่ในกรณีที่ต้องการไตอย่างเร่งด่วนก็ตาม ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในการปลูกถ่ายไตในฝรั่งเศสเต็มใจที่จะรับไตที่มีคุณภาพต่ำเหล่านี้มาปลูกถ่าย นั่นจึงทำให้เกิดคำถามว่า การนำไตคุณภาพต่ำมาปลูกถ่ายจะก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่? และถ้าไม่ ทำไมสหรัฐฯถึงไม่ใช้ไตเหล่านั้น?

ในงานวิจัย Reese ได้ร่วมมือกับทีมงานจากศูนย์การวิจัยเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะกรุงปารีสซึ่งนำโดยดร. Olivier Aubert พวกเขาได้วิเคราะห์ข้อมูลจากการลงทะเบียนการปลูกถ่ายอวัยวะในอเมริกาและฝรั่งเศสระหว่างปี 2004 – 2014 ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ป่วยโรคไตประมาณ 156,000 คน ในสหรัฐฯ และประมาณ 30,000 คน ในฝรั่งเศสที่ได้รับการปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาคที่เสียชีวิต ผู้บริจาคไตในสหรัฐฯมีอายุเฉลี่ย 36 ปี ในขณะที่ ฝรั่งเศสอยู่ที่อายุ 51 ปี นั่นคือความแตกต่างอย่างมากในแง่ของคุณภาพ และยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอายุเฉลี่ยของผู้บริจาคไตในสหรัฐฯ ยังคงเหมือนเดิม แต่ในฝรั่งเศสกลับมากขึ้น

ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าศูนย์ปลูกถ่ายไตในฝรั่งเศส ตอบสนองต่อความท้าทายสำหรับผู้ที่รอการปลูกถ่ายไต โดยการพัฒนาระบบการปลูกถ่ายไตให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นเพื่อรองรับปัญหาในเรื่องอายุที่มากขึ้นของผู้บริจาค งานวิจัยนี้ประเมินว่าหากศูนย์ปลูกถ่ายไตในสหรัฐยอมรับไตที่มีคุณภาพต่ำเช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศสทำ จะมีการปลูกถ่ายไตเพิ่มขึ้นอีก 17,000 เคส ในระหว่างที่งานวิจัยนี้กำลังทำการศึกษาอยู่ นักวิจัยยังคงคาดว่าผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตคุณภาพต่ำจะมีผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับไตคุณภาพสูง การศึกษานี้จะเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงว่าอวัยวะที่ได้รับบริจาคจากผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน

อ้างอิง