สำหรับพ่อบ้านที่เห็นผลการวิจัยนี้อาจจะอึ้งไปชั่วขณะ ขณะที่แม่บ้านก็อาจจะยิ้มหัวเราะได้ใจ เพราะมีผลการวิจัยจากสถาบันที่เชื่อได้ออกมาสนับสนุนแบบนี้ ผลการวิจัยนี้ได้รับการเปิดเผยผ่าน  เว็บไซต์ของสถาบันออกฟอร์ด ในหัวข้อเกี่ยวกับการศึกษาผู้สูงวัยในระยะยาว ได้ให้ข้อยืนยันว่า “การมีภรรยาจอมบงการ จะมีชีวิตที่ยืนยาว” ขยายความมาอย่างนี้ว่าพฤติกรรมของ คู่สามี-ภรรยา ต่างก็มีผลกระทบต่อสุขภาพซึ่งกันและกัน สามีที่มีภรรยาคอยเอาใจใส่ควบคุมเรื่องราวต่าง ๆ นานาในชีวิต ก็ควรจะซาบซึ้งในการเอาใจใส่จากภรรยาเพราะผลดีคือสุขภาพและอนามัยที่ดีในชีวิต

ภรรยาที่จุกจิกจะมีผลดีต่อชีวิตสามี

บรรดาพ่อบ้านที่มีภรรยาคอยจุกจิกจู้จี้อยู่แล้ว อาจจะเห็นแย้งว่าเมียแบบนี้กวนใจ น่ารำคาญ มันไม่น่าจะเรียกว่าชีวิตสมรสที่ดี นักสังคมวิทยา จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน สเตท ก็เลยเผยด้านดีของภรรยาแบบนี้ เพื่อให้พ่อบ้านได้มองเห็นผลลัพธ์โดยรวมในด้านบวกว่า พ่อบ้านที่มีภรรยาคอยควบคุมอย่างนี้ล่ะ จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานน้อยลง หรือถ้าเป็นไปแล้ว โอกาสที่จะได้หายเป็นปกติก็สูงอยู่นะ ต้องขอบคุณภรรยาที่คอยเอาใจใส่นะ

ฮุย ลุย หัวหน้าทีมวิจัยในหัวข้อนี้ออกมาเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า

ผลการวิจัยสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในครอบครัวว่า บ้านไหนที่มีภรรยาคอยจ้ำจี้จำไชสามีในเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะสามีที่มีสุขภาพไม่สู้ดีนัก หรือสามีที่เป็นโรคเบาหวาน แน่นอนว่าโรคนี้เป็นโรคฮิตที่พ่อบ้านหลายคนเป็นแล้ว อีกหลายคนก็อยู่ในภาวะเสียง สามีในกลุ่มนี้ยิ่งจำเป็นที่จะต้องมีภรรยาคอยตามสอดส่องพฤติกรรมการกินอย่างใกล้ชิด อาจทำให้บรรดาสามีรู้สึกอึดอัดหรือรำคาญที่ไม่ได้กินอะไรตามใจปากอย่างเคย ก็จะบ่นว่าภรรยาตัวเอง เป็นเมียที่จุกจิก ขี้บ่น ต้องมองในแง่ดีว่ามีคนคอยดูแลและเอาใจใส่เพราะเป็นห่วงนะ และผลดีก็คือสุขภาพตัวเอง

เพราะถ้าเป็น “เบาหวาน” ขึ้นมา นั้นมีผลตามมาที่น่ากลัว และรักษาหายได้ยาก แนวโน้มประชากรที่เป็น “เบาหวาน” ก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนทางการเริ่มมีการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มทั่วไปแล้ว มีการเก็บภาษีตามปริมาณน้ำตาลแล้วด้วย ในสหรัฐอเมริกานั้น เบาหวานเป็นโรคร้ายลำดับที่ 7 ที่คร่าชีวิตประชากรอเมริกัน

จุกจิกมากไปก็ไม่ดี

ก็ใช่ที่บางคนอาจจะคิดว่าการที่มีภรรยาขี้บ่นจุกจิกมากไป ชีวิตมันก็ไม่มีความสุขนะ ผลการวิจัยเองก็ไม่ได้โต้แย้งในเรื่องนี้ เพราะถ้าภรรยาที่ควบคุมบงการชีวิตสามีมากเกินไป ก็เปรียบได้กับโรคร้ายที่มีผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน ในการวิจัยนี้ได้ตามติดชีวิตสามีภรรยาจำนวน 1,228 คู่ ที่มีอายุอยู่ในช่วง 57 – 85 ปี พบว่า ถ้าชีวิตคู่ไม่มีความสุขซึ่งกันและกัน ก็ไม่ต่างกับโรคร้ายที่ค่อย ๆ บ่อนทำลายสุขภาพแล้วก็ทำให้ชีวิตสั้นลงได้เช่นกัน

ควบคุมมากไป ร้ายกว่าดี


การควบคุมอีกฝ่ายมากเกินไป จะส่งผลต่อความเครียดในครอบครัว ชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุขก็ก่อผลร้ายให้กับทั้งคู่ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่เดนมาร์ก มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ด้วยการตามศึกษาข้อมูลคู่สมรสมากถึง 10,000 คู่ เป็นระยะเวลา 11 ปี พบว่าสามีภรรยาคู่ไหนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีบทบาทกำหนดควบคุมมากเกินไป จะมีโอกาสทำให้อายุขัยสั้นลงถึง 50 – 100% เลยทีเดียว

ชีวิตคู่ที่ดี เมียแข็งแรง


สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่สุขภาพ แต่ต้องสอดคล้องกันไปทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย มีการตามสำรวจชีวิตแต่งงานหลายคู่ พบว่าหลังแต่งงานอย่างราบรื่นไปแล้ว 5 ปี โอกาสที่จะเกิดโรคเบาหวานในคู่สมรสก็น้อยลงด้วย โดยเฉพาะฝ่ายภรรยา เพราะเพศหญิงมักจะมีประสาทสัมผัสพิเศษต่อสัมพันธ์ในชีวิตคู่ดีเสมอ ถ้าพวกเธอรู้สึกมีความสุขในชีวิตคู่ ภรรยาก็จะมีสุขภาพอนามัยดีขึ้นตามไปด้วย

 

อ้างอิง