วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน Firefly ผู้ให้บริการขนส่งอวกาศขนาดเล็กได้ยิงจรวด Alpha แบบใช้แล้วทิ้งไปสู่อวกาศเป็นครั้งแรกเพื่อให้บริการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็กเชิงพาณิชย์จากฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนีย แต่หลังจากที่จรวดบินขึ้นไปได้ราว 2 นาทีจนความเร็วถึงระดับเหนือเสียง จรวด Alpha ได้ออกอาการผิดปกติ ซึ่งภาพในวิดีโอแสดงให้เห็นว่าจรวดได้เริ่มพลิกคว่ำตีลังกาและบินออกนอกเส้นทาง จากนั้นก็เกิดระเบิดสิ้นสุดภารกิจ

หลังจากการระเบิดของจรวด ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กเผยว่า Space Launch Delta 30 หน่วยงานกำกับดูแลการปล่อยภารกิจอวกาศได้ระเบิดทำลายจรวดจนสิ้นสลายเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากการปล่อยจรวดจากพื้นดินของสหรัฐฯ จะมีการติดตั้งระบบยุติการบินด้วยระเบิดที่สามารถสั่งทำลายจรวดได้จากระยะไกล เพื่อไม่ให้จรวดบินออกนอกเส้นทางไปพุ่งชนทำลายชีวิตผู้คนและทรัพย์สินบนพื้นดิน และย้ำว่าทีมสืบสวนจะประชุมกันเพื่อหาสาเหตุของความล้มเหลวแล้วแจ้งให้ทราบกันต่อไป

Firefly ก่อตั้งขึ้นเมื่อมกราคม 2014 ในชื่อ Firefly Space Systems ต่อมามีนาคม 2017 ถูกปลุกคืนชีพจากการล้มละลายขึ้นใหม่ในชื่อ Firefly Aerospace (แต่ในวงการอวกาศนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า Firefly) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้บริการขนส่งดาวเทียมขนาดเล็กไปสู่วงโคจร ดังนั้นในเส้นทางนี้จึงกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Rocket Lab และ Astra

เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Firefly ได้รับสัญญาจ้าง 93.3 ล้านเหรียญ (3,225 ล้านบาท) จากนาซาในการขนส่งชุดการทดลองทางวิทยาศาสตร์และการสาธิตเทคโนโลยี 10 รายการไปยังพื้นผิวบนดวงจันทร์ในปี 2023 ด้วยหุ่นยนต์ลงจอด Blue Ghost ของ Firefly ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Artemis

แม้ว่าภารกิจบินสู่อวกาศครั้งแรกของจรวด Alpha จะล้มเหลว แต่ Firefly ก็เผยว่าจะใช้ข้อมูลที่ได้รับจากเที่ยวบินทดสอบครั้งนี้นำไปใช้กับภารกิจในอนาคต สรุปง่าย ๆ ว่าความผิดพลาดครั้งนี้จะช่วยให้ Firefly สามารถพัฒนาจรวดเพื่อขนส่งดาวเทียมไปสู่อวกาศและร่วมโครงการใหญ่ ๆ ของนาซา

ที่มา : cnet.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส