Promobot เป็นบริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ชั้นนำของโลกสัญชาติรัสเซีย ตกเป็นข่าวดังอีกครั้ง หลังจากเมื่อปีก่อนก็ตกเป็นข่าวมารอบหนึ่งแล้ว เพราะโดนอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ฟ้องร้องกรณีที่เอาใบหน้าของเขาไปใช้เป็นใบหน้าหุ่นยนต์โดยไม่มีการขออนุญาตแต่อย่างใด มารอบนี้ Promobot กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง ทางบริษัทจึงออกประกาศเป็นทางการบนเว็บไซต์ ขอซื้อลิขสิทธิ์ใบหน้าบุคคล และเสียง เพื่อใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่

Promobot มีชื่อเสียงอย่างมากในการผลิตหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนจริง ๆ มาตั้งแต่ปี 2019 ทางบริษัทได้ออกหุ่นยนต์ในชื่อรุ่น “Android Robo-C” เป็นการผลิตตามใบสั่งซื้อ แล้วแต่ลูกค้าอยากจะให้หุ่นยนต์ออกมารูปร่างหน้าตาเหมือนใครก็ได้

“ตอนนี้ใคร ๆ ก็สามารถสั่งซื้อหุ่นยนต์ที่อยากจะให้หน้าตาเป็นแบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะใช้ในธุรกิจหรือใช้ส่วนตัว”
อเล็กซี ลุซฮาคอฟ (Aleksei Iuzhakov) ประธานคณะกรรมการผู้บริหาร Promobot กล่าวกับสื่อ

อเล็กซี ลุซฮาคอฟ (Aleksei Iuzhakov)

มาถึงปีนี้ Promobot ได้พัฒนามาอีกขั้นแล้ว เมื่อบริษัทกำลังพัฒนา ‘หุ่นยนต์ผู้ช่วย’ ที่จะสามารถทำงานในธุรกิจต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นในโรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือในแหล่งชุมชนต่าง ๆ แต่ในขั้นตอนนี้ทาง Promobot ต้องการใบหน้าบุคคลจริงที่จะมาใช้เป็นต้นแบบในการผลิต

Promobot ได้ประกาศรับซื้อใบหน้าบุคคลผ่านทางข่าวประชาสัมพันธ์ขององค์กร ซึ่งระบุอีกด้วยว่า “พร้อมที่จะจ่ายให้ในมูลค่า 200,000 เหรียญ (6 ล้านบาท) สำหรับใครก็ได้ที่ยินดีจะมอบสิทธิ์ในการใช้ใบหน้าของเขาเป็นใบหน้าหุ่นยนต์ไปตลอดกาล” แต่ในประกาศนี้ไม่ได้ระบุวัย เพศ หรือรายละเอียดเพิ่มเติมที่บริษัทต้องการ แต่ระบุเพียงว่า “ต้องการใบหน้าที่ดูใจดีและเป็นมิตร”

Promobot เปิดเผยเพิ่มเติมมาว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้รับออเดอร์จากหลายบริษัทในสหรัฐอเมริกาแล้ว ว่าต้องการหุ่นยนต์ผู้ช่วยไปใช้ในสนามบิน, ศูนย์การค้า และร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ทั่วทวีปอเมริกาเหนือ และประเทศแถบตะวันออกกลาง” หลังจากที่บริษัทได้ตกลงเลือกใบหน้าบุคคลแล้วมาดำเนินการผลิต ก็คาดว่าน่าจะได้เห็นหุ่นยนต์ผู้ช่วยเหล่านี้เริ่มออกใช้งานได้ในปี 2023″

หน้าตาของหุ่นยนต์รุ่น Android Robo-C

หลังจาก Promobot ออกประกาศรับซื้อลิขสิทธิ์ใบหน้าได้เพียงไม่กี่วัน จนถึงวันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บริษัทก็ถอนประกาศรับซื้อออกจากหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง ทั้งนี้บริษัทให้เหตุผลว่า
“ถึงวันนี้เรามีผู้แจ้งความประสงค์ต่อประกาศดังกล่าวเข้ามาแล้วกว่า 20,000 ราย เราจึงต้องระงับข้อเรียกร้องดังกล่าว เราต้องขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย”

สำหรับผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจากบริษัทแล้วนั้น เขาหรือเธอจะถูกนำใบหน้าไปขึ้นรูปเป็นต้นแบบ 3 มิติ ทั้งหน้าและลำตัว และขั้นตอนที่ยากขึ้นมาก็คือ เขาหรือเธอนั้นต้องบันทึกเสียงเป็นเวลา 100 ชั่วโมง เพื่อใช้ในการพัฒนาเป็นต้นแบบเสียงของหุ่นยนต์

อ้างอิง