แหล่งข่าวจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ ซึ่งได้เข้ารับฟังการแถลงและตอบข้อซักถามของนายปาร์ค จี-วอน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติออกมากล่าวว่าเกาหลีเหนือเรียกร้องประชาคมโลกยุติหรือลดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในเรื่องที่ห้ามส่งออกและนำเข้าแร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ แลกกับการกลับมาเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ อีกครั้ง

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย เพื่อให้สามารถนำเข้าสุราและชุดสูทชั้นดีเข้ามาในประเทศได้ด้วย 

ซึ่งทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เพิ่งได้เริ่มริ้อฟื้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ระหว่างกันในรอบปี จากการที่เกาหลีเหนือยอมให้ต่อสายด่วนฮอตไลน์ระหว่างรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเกาหลีเหนือเริ่มอยากกลับมาสานสัมพันธ์กับเกาหลีใต้อีกครั้ง

โดยทางมุน แจ อิน ผู้นำของเกาหลีใต้ได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ ทว่าขณะเดียวกัน สหรัฐฯ เองก็ยืนกรานมานานแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากับเกาหลีเหนือไม่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้ได้ จนกว่าเกาหลีเหนือจะยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และการสร้างขีปนาวุธ

นอกจากนี้ ทางสมาชิกสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือกำลังประสบปัญหาการหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 23 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ มาตรการล็อกดาวน์จากโควิด-19 และสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับการเพาะปลูกในประเทศ

ตอนนี้ เกาหลีเหนือกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ปกติแล้ว เกาหลีเหนือจำเป็นต้องใช้อาหารราว 5.5 ล้านตันต่อปี เพื่อประทังชีวิตคนทั้งประเทศ แต่แหล่งข่าวบอกว่าตอนนี้เกาหลีเหนือยังขาดอาหารอยู่อีก 1 ล้านตัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็กำลังเร่งควบคุมราคาข้าวที่ราคาพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส