ในขณะที่คนกำลังถกเถียงกันว่า คำพูดของคริส ร็อก (Chris Rock) ที่ทำให้ วิล สมิธ (Will Smith) โมโหถึงขั้นเดินขึ้นไปตบหน้าร็อกบนเวที เป็นการกระทำที่ร็อกสมควรโดนแล้วหรือไม่? ฝั่งประเทศตะวันตกโดยเฉพาะในหมู่นักแสดงฮอลลีวูดด้วยกัน กลับมองว่าการกระทำของสมิธในครั้งนี้เ ป็นสิ่งที่เลวร้ายซะยิ่งกว่าคำพูดบูลลี่ของร็อกเสียอีก

โดยนักแสดงที่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ล่าสุดคือ จิม แคร์รีย์ (Jim Carrey) ดาราชื่อดังซึ่งไม่เห็นด้วยอย่างมากที่คนยืนปรบมือให้สมิธ ขณะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ (หลังเพิ่งตบหน้าร็อกไปหมาด ๆ) ซึ่งแคร์รีย์ถึงกับพูดว่า เขาคลื่นไส้จะอ้วกกับรีแอ็กชันเหล่านั้นมาก ๆ และมองว่าตัวสมิธสมควรที่จะโดนฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายอย่างยิ่ง

ในการให้สัมภาษณ์กับ CBS This Morning เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมาแคร์รีย์แสดงความคิดเห็นไว้ว่า 

“ผมรู้สึกคลื่นไส้กับการ standing ovation แบบนั้น เรื่องนี้ทำให้ฮอลลีวูดกลายเป็นเหมือนคนใจเสาะเลย และมันกลายเป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่า เราไม่ใช่กลุ่มคนที่เจ๋งที่สุดอีกต่อไปแล้ว” แคร์รีย์ ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรเกล คิง (Gayle King)

คิงถามแคร์รีย์ต่อว่า หากเป็นคนทั่วไปเดินขึ้นไปเวที และทำพฤติกรรมแบบเดียวกับสมิธ พวกเขาคงจะถูก รปภ. รวบตัวออกไปหรืออาจจะถึงขั้นถูกจับกุมด้วยซ้ำ ซึ่งแคร์รีย์ก็ตอบกลับว่า “ใช่ พวกเขาโดนแน่นอน”

แคร์รีย์เผยต่อว่าหากเขาเป็นร็อก เขาคงจะเลือกฟ้องสมิธแน่นอน เพราะการใช้ความรุนแรงบนเวทีที่มีคนจับจ้องทั่วโลกแบบนั้น จะเป็นอะไรที่คงอยู่ตลอดไป 

“เป็นผมนะ ตื่นเช้ามาคงจะฟ้องวิล เป็นเงินสัก 200 ล้านเหรียญ เพราะวิดีโอนั้นมันจะอยู่ตลอดไป เรื่องของเรื่องคือถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจ ก็อาจจะตะโกนขึ้นไปแสดงความไม่พอใจ หรือพูดอะไรบางอย่างบน Twitter ก็ได้ แต่คุณไม่มีสิทธิ์เดินขึ้นไปบนเวทีและตบหน้าใครบางคน เพียงเพราะคำพูดของเขาแบบนั้น”

จากนั้นคิงก็แสดงความคิดเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่มันบานปลายขึ้น และคงไม่มีใครอยากให้มันเกิด ซึ่งแคร์รีย์ก็รีบสวนกลับมาทันทีว่า

“มันไม่ได้เป็นเรื่องที่บานปลายอะไรเลย จู่ ๆ วิลก็ขึ้นไปทำแบบนั้น คือวิลมีบางอย่างในใจ ที่เขารู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว”

แคร์รีย์กับสมิธ

แคร์รีย์ทิ้งท้ายว่า สิ่งที่เขาพูดออกไปเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ที่มองไปยังเหตุการณ์นี้ ซึ่งตัวเขาก็ยังมีความหวังดีให้กับสมิธเสมอ

“ผมไม่ได้คิดจะต่อต้านวิล สมิธ เลย เขาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาเยอะ แต่สิ่งที่เขาทำในวันนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่นัก มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว มันเป็นการทำลายช่วงเวลาดี ๆ ของคนหลาย ๆ คนที่ทำงานหนักเพื่องานนี้”

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส