นับเป็นเวลากว่า 2 ปี ของวง CGM48 วงไอดอลสาวเมืองเชียงใหม่ นับตั้งแต่เริ่มปล่อยเพลงแรก เชียงใหม่106 มาจนถึงปัจจุบันเพลงใหม่ล่าสุด Mae Shika Mukanee – สุดเส้นทาง ก็ได้ถูกปล่อยออกมาเรียบร้อยแล้วพร้อมทั้งงานเปิดตัวเพลง ลำดับที่ 4 “CGM48 4th SINGLE MAESHIKA MUKANEE First Performance” ไปในวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

และวันนี้ตัวแทนของเหล่าเด็กสาวจากภาคเหนือ วง CGM48 ประกอบไปด้วย

คนิ้ง – วิทิตา สระศรีสม

นีนี่ – พิชญาภา สุปัญญา

ปิ๊ง – พิณพณา แสงบุญ

ลาติน – พิมพ์นารา ร่ำรวยมั่นคง 

พิม – พรวารินทร์ วงศ์ตระกูลกิจ

และ Center ของเพลงนี้ ฟอร์จูน – ปัณฑิตา คูณทวี

จะมาบอกเล่าถึงผลงานชิ้นใหม่พร้อมไปกับเบื้องหลัง, ความรู้สึกต่าง ๆ, การเติบโต และการเรียนรู้ จากเวลาที่ผ่านมากว่า 3 ปี บนเส้นทางของการเป็นไอดอลของพวกเธอกันครับ

ฟอร์จูน : พวกเราเดินทางกันมาถึงซิงเกิลที่ 4 แล้วนี้ก็มีความแตกต่างจาก ซิงเกิลที่ผ่าน ๆ มาแน่นอนเพราะว่า CGM48 มีความโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รอบนี้เรามาแบบว่าเป็นสไตล์ชาวร็อก เราจะได้เห็นทุกคนในมุมที่โตมากขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทุกคนก็จะแตกต่างแล้วก็เซอร์ไพรส์กับคอนเซ็ปต์รอบนี้มาก ๆ 

คนิ้ง : คอนเซ็ปต์ของเพลงก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก จากซิงเกิลก่อน ๆ เพราะว่าปกติตั้งแต่แรก ๆ เราจะเป็นแบบน่ารัก ๆ สดใส แต่ว่าคราวนี้ท้าทายด้วยความที่มันมีท่า freestyle ด้วยมีท่าของความเป็นร็อก ต้องโยกหัวต้องปลดปล่อยความเป็นร็อกเกอร์ออกมาจากตัว ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก แต่พวกเราก็ทำออกมาได้ดีจริง ๆ แล้วก็นอกจากนี้ก็ยังมีเนื้อเพลงที่เป็นเนื้อเพลงแนวให้กำลังใจ ก็โดยจะมีท่อนภาษาเหนือด้วย แล้วก็พี่ปิ๊งเป็นคนแต่งด้วยก็เรามาช่วยแปลด้วยเราได้รับเนื้อมาแล้ว

ฟอร์จูน : จริง ๆ เหมือนมีการได้รับแปลเนื้อเพลงมาก่อน แล้วรู้สึกว่าเราอยากมีความใส่ความเป็น CGM48 เข้าไปด้วยเราก็เลยขอปรับบางท่อนบางอัน หรือว่าอยากให้เพิ่มมีภาษาเหนือเข้าไปนิดนึงเพื่อให้มีความเป็น CGM48 มากยิ่งขึ้น มันก็เลยกลายออกมาเป็นมีความเป็น CGM48 มาก ๆ อยู่ในนั้น เพราะพวกเราทุกคนช่วยกันลงไม้ลงมือช่วยกันแต่งขึ้นมาใหม่ จริง ๆ ก็คิดว่าทุกคนเลย เพราะว่าคืออาจจะช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยหรือแบบหลาย ๆ คนก็ช่วยกันเยอะมากแต่ว่าทุกคนช่วยกันที่จะทำเพลงนี้ให้ออกมาดีก็เลยรู้สึกว่ามันมีความเป็นพลังของ CGM48 ในเพลงนี้มาก ๆ เอาท่อนภาษาเหนือมาร้องหน่อยไหม

ปิ๊ง : ร้องพร้อมกัน แม้วันเก่าจะดีเต้าใด ก่อละไว้ในวันตี้เฮาลาจาก 

ฟอร์จูน : แปลหน่อยไหมภาษาเหนือ คนเหนือ แปลหน่อย

ปิ๊ง : ก็คือความทรงจำที่ดีแสนดีก็ต้องทิ้งไว้ในวันที่เราต้องแยกย้ายกันไป

beartai : การเตรียมตัวสำหรับซิงเกิล “MAESHIKA MUKANEE” 

นีนี่ : ต้องเตรียมคอโยกหัวก่อนเลย ร้านนวดต้องเข้าแล้ว การเตรียมตัวของเราก็ไปดูท่าของรุ่นพี่ AKB48 มากขึ้น เราไปดูว่ามีท่าฟรีสไตล์ยังไง แล้วก็คือพี่เขาสุดมากมันมาก แล้วก็ดูว่าควรฟรีสไตล์ยังไงให้มันเข้ายังไงกับเพลงพวกเรา

ฟอร์จูน : ขอเสริมในเรื่องของพี่รินะแล้วกัน คือรู้สึกว่าซิงเกลนี้พี่รินะค่อนข้างที่จะเข้มงวดมาก ๆ ก็เลยรู้สึกว่าซิงเกิลนี้พี่รินะดุ ๆ ขึ้นนะ แต่ว่าเพลงดูโตขึ้น พี่รินะก็เลยดุมากขึ้น แต่ว่าเพราะพี่รินะดุเพราะว่าเขาแบบว่าอยากให้เราได้ดีจริง ๆ ผลตอบรับที่ผ่าน ๆ มาก็เลยดีมาก ๆ ก็เลยต้องขอบคุณพี่รินะจริง ๆ ที่ตั้งใจเทรนพวกเรามาเป็นอย่างดีเลยขอบคุณ อะริกาโตะ

พิม : คือสำหรับหนูก็จะมีท่าฟรีสไตล์แบบว่าเราต้องเป็นคนคิดขึ้นมาเอง หรือว่าเราอาจจะไปดูจากพี่ ๆ AKB48 แต่ของหนูจริง ๆ ก็ไม่ค่อยได้ฟรีสไตล์แบบบ่อยขนาดนั้น เพราะว่าปกติของเราจะไม่ค่อยมีท่าฟรีสไตล์ แบบที่ต้องตึ้ง ๆ แบบร็อกอะไรแบบนี้ ปกติแบบสไตล์น่ารัก แต่ว่าครั้งนี้เป็นแบบต้องร๊อคก็เลยแบบว่าต้องไปดูทำการบ้านมาก่อนด้วย 

ฟอร์จูน : น้องพิมต้องมีการเอนหลัง

พิม : ใช่หนูมีท่อนที่ต้องควงไมค์แล้วก็เอนหลัง ซึ่งหนูเป็นคนที่หลังแข็งมากเลย แล้วตอนแรกที่รู้ว่าต้องเอนหลังคือหลังหนูจะไหวไหม

ฟอร์จูน : แต่ทำได้ดีวันจริงตกใจมาก

ลาติน : คือเอนแบบตกใจมาก

พิม : มันมาเอง

ลาติน : ของหนูนะตั้งแต่วันแรกที่ประกาศ Senbatsu คือหนูเตรียมเล็บผมก่อนเลย เตรียมสีผมก่อนเลย รู้สึกว่าซิงเกิลนี้ต้องมาแน่ ๆ เป็นการย้อมผมครั้งแรกในชีวิตหนูด้วยก็คือซิงเกิลนี้ด้วยก็ตื่นเต้นมาก สำหรับการติด Senbatsu ครั้งแรกหนูรู้สึกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจริง ๆ มันก็มีแอบท้อ หรือว่าเสียใจอกหักหลายครั้ง แต่ว่ารู้สึกว่าพอได้ก้าวเข้ามาในแบบว่า Senbatsu จริง ๆ แล้วหนูไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาเลย เพราะว่าตลอดเวลานั้นหนูก็เตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง แล้วก็ตอนขึ้นเวทีก็รู้สึกดีมาก ๆ รู้สึกแบบเราไม่เสียดายเวลาจริง ๆ ที่ได้ออกมาเหยียบโลกใบใหม่ในครั้งนี้รู้สึกว่ามันแบบสุดยอดมากเลย สนุกมาก หนูอยากติด Senbatsu ต่อไป

คนิ้ง : ถ้าย้อนไปถึงเรื่องวันที่ซ้อมก็หนักหน่วงอยู่พอตัวเลย เพราะว่าตอนนั้นเราแบบใหม่กับอะไรแบบนี้มาก ๆ จะเยอะเกินไปหรือเปล่า จะเริ่มรู้สึกเกร็ง ๆ กังวลแล้วพอทีนี้เราก็ยังจัดระเบียบร่างกายไม่ค่อยได้ ทุกคนก็จะแบบมีมาคนละแผ่น 2 แผ่น มาอยู่ที่คอเพราะว่าถ้าท่านี้มันแบบใช้ทุกสัดส่วนของร่างกายจริง ๆ 

ฟอร์จูน : แล้ววันที่เป็นวันโชว์

คนิ้ง : วันที่เป็นวันโชว์รู้สึกสนุกมากทุกคนแบบให้เมมเบอร์กันเอง หรือแฟนคลับด้วยก็บิลด์กันจนรู้สึกว่าเราคิดถึงบรรยากาศแบบนี้มากจริง ๆ ก็เป็นบรรยากาศที่ทุกคนสนุกสุดเหวี่ยงกันที่สุดไปเลย

ปิ๊ง : ก็วันนั้นคือซิงก่อนหน้านี้ที่เป็น Eien Pressure เราเปิดตัวไปแบบออนไลน์แต่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็น onsite ก็คือจะได้เจอกับแฟนคลับทุกคนในฮอลเลยคือเป็นความรู้สึกที่คิดถึงมาก ๆ ตั้งแต่ซิงเกิลแรกแล้วไม่ได้เจอแฟนคลับที่เยอะขนาดนี้มานานมาก ๆ แล้วก็เพลงมันเป็นเพลงที่ต้องใช้ความร่วมมือจากทางเมมเบอร์แล้วก็แฟนคลับด้วยในการที่จะส่งเสียงเชียร์หรือว่าอะไรแบบนี้ ทำให้มันสนุกแล้วก็มันมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะท่อนโวะโว คือได้ตะโกนกับทุกคน โยกคอกับทุกคน หนูเห็นคนข้างหน้าคือกระโดดเลย หรือว่าโยกคอไปด้วยกันเลยสุดเหวี่ยงมาก ๆ เลย

พิม : เหมือนเห็นมีบางคนเหยียบมอนิเตอร์ด้วยหนูไปย้อนดูมันส์จริง ๆ แล้วก็มีอีกท่อนหนึ่งที่ทุกคนโยกหัว หนูไปดูมา พวกเราโยกแรงมาก ตอนไปดูหนูยังตกใจตัวเอง ทำไมต้องโยกแรงขนาดนั้น ตอนซ้อมก็เบาอยู่นะแต่พอไปจริง ๆ แล้วแรงมากเลย

ฟอร์จูน : วันจริงองค์มันมาไง

พิม : พวกเราเต้นพร้อมกันด้วยแบบเป๊ะเลย

beartai : ความประทับใจในวันเปิดตัวซิงเกิลที่ผ่านมา

ลาติน : จริง โมเมนต์ที่ประทับใจมาก ๆ จริง ๆ คือก่อนขึ้นโชว์เพราะว่าหนูได้ขึ้นเพลงแรกเป็น M2 คือเพลง line up ที่ 2 ใช่ไหม ซึ่งจังหวะที่แบบว่าอยู่ข้างหลังเวทีกับน้องฟ้าใส ก็คือแบบว่านั่งมองหน้ากันแล้วก็แบบว่า เราจะได้ขึ้นไปแล้วนะ วันนี้มันเป็นวันของเราแล้วนะคือจริง ๆ จะร้องไห้น้ำตาจะไหลกันตั้งแต่อยู่ข้างล่างตั้งแต่เพลงแรกแล้ว ยังไม่ได้ขึ้นเลยมันตื่นเต้นมากเลยได้ยินเสียงคนเชียร์ตั้งแต่เพลงแรก รู้สึกดีใจมาก ๆ ตอนแรกประหม่าแต่พอขึ้นไปปุ๊บก็สุดเหวี่ยงเลย

นีนี่ : จะบอกว่าเราห่างหายจากการขึ้นเวทีนานมากเพราะว่าก่อนหน้านี้ก็มีสถานการณ์ covid-19 ด้วยรู้สึกแบบขึ้นมาอีกทีรู้สึกตื่นเต้น และก็ดีใจที่ทำให้แบบแฟนคลับดูเห็นเรามีความสุข เราก็มีเวลาซ้อมด้วยกันค่อนข้างที่จะแบบรวมกันน้อยมาก เพราะว่าบางคนก็ติดภารกิจแต่พวกเราก็ช่วยกันสอนช่วยกันอะไร รู้สึกภูมิใจในตรงนี้ทุกคนช่วยกันซัปพอร์ตเต็มที่มาก ๆ 

พิม : We are family 

นีนี่ : วันงานหนูชอบตอนซ้อมใหญ่เพราะว่าเพื่อน ๆ แบบว่าสู้กันมาก เพราะตอนนั้นเราค่อนข้างที่จะร้อนแต่ว่าสู้ แล้วก็มีการถ่ายกล้องฟิล์มกัน รู้สึกประทับใจตอนวันนั้นเราสู้มาก เหมือนเรามีแรงฮึดสู้ตั้งแต่ก่อนวันจริง

ฟอร์จูน : สำหรับหนูรู้สึกว่าวันเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ผ่านมาค่อนข้างที่จะต่างกับทุกครั้งที่เคยผ่านมา รู้สึกว่าแต่ก่อนเป็นคนที่ค่อนข้างซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เป็นคนค่อนข้างที่จะติดความสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง เลยทำให้แบบเหมือนเวลาโชว์ก็จะรู้สึกว่าต้องคิดสเต็ปต่อไปคืออะไรทำท่านี้ยังไงดี แต่พอวันที่เป็นซิงเกิลของเราจริง ๆ เหมือนเราทิ้งความคิดตรงนั้นไปเลยเหมือนแบบว่าเอาก็เอา เหมือนความคิดตอนนั้นแบบอย่าไปคิดแล้ว แบบน่าจะไม่สวย ผมจะหลุด ทำเต็มที่แล้ว วันนั้นเป็นวันที่รู้สึกว่าสนุกที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลย เหมือนแบบว่าพอเรา เราเป็นมายเซ็ตตัวเองเราได้ทำตรงนี้แบบเต็มที่แล้ว ทุกคนบอกว่ามันสนุกมาก เพื่อน ๆ บอกว่ามันสนุก แฟนคลับบอกว่าสนุก เราก็เลยรู้สึกแบบ โอเค มันสมบูรณ์แล้วกับการที่เรามาอยู่ตรงนี้ เราเหมือนเข้าใจจริง ๆ แล้วการโชว์ที่แท้จริงมันคืออะไร แล้วก็มีความประทับใจคือตอนซ้อมใหญ่คือยังมีความผิดพลาดเกิดขึ้นไม่พร้อมบ้าง แต่พอวันจริงออกมาทุกคนพร้อม ทุกคนแรปเป๊ะตรงบีตทุกคนทำทุกอย่างได้แบบเหมือนซ้อมกันมาอย่างดี เลยรู้สึกว่านี่คือปาฏิหาริย์ของ CGM48 วันซ้อมไม่ดียังไงขึ้นมาทุกครั้งจะดีเสมอ ก็เลยรู้สึกว่าพวกเรามันต้องมีเซนส์หรืออะไรบางอย่างที่มันเชื่อมกันแล้ววันจริงมันแบบมันดีที่สุดแล้ว

คนิ้ง : โมเมนต์จำน่าจะเป็นช่วงของการที่ร้องเพลงอย่างตอนที่เพลงเต้น Eien Pressure คือตอนนั้นสุดเหวี่ยงกันมากแล้วก็ขนลุกเลย พอกลับมาดูอีกรอบนึง แบบทุกคนมันอินเนอร์มันเอเนอร์จี้ได้จริง ๆ แล้วแฟนคลับก็แบบโอ้ย ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นเพลงช้าอย่าง Anata ga Ite Kureta Kara – บ้านแห่งหัวใจ เขาจะส่องไฟฉาย รู้สึกว่ามันทำให้เราไม่ได้ร้องไปให้อะไรแต่ว่าเราร้องไปให้เขาแล้วเขาก็ตอบรับกลับมา มันเหมือนเราได้สื่อสารให้เขาแล้วเขาก็รับฟังเรา เหมือนเราได้คุยกันก็เลยรู้สึกดีมาก ๆ เลย

beartai : แนวทางการออกแบบเสื้อผ้าในครั้งนี้

พิม : ก็ชุดในครั้งนี้ก็จะเป็นแบบว่าแนวที่โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้วก็มีความเป็นชาวร็อคมากขึ้นด้วย ก็ดีเทลก็จะแบบว่ากระโปรงแล้วก็กางเกงที่แตกต่างกันไปแต่ละคน ให้เหมาะกับคาแรคเตอร์ แล้วก็มีเสื้อผ้าที่เป็นเสื้อกั๊กแล้วก็เป็นคอร์เซ็ตแล้วก็มีเครื่องประดับตกแต่งบนหัวที่แบบว่าแตกต่างกันไป อย่างของหนูก็จะเป็นกิ๊บ ของพี่ปิ๊งก็จะเป็นโบว์อันเล็กน้อย ของพี่คนิ้งกับนีนี่ก็จะเป็นโบยาวเฟื้อย อะไรประมาณนี้

ลาติน : มีหลายแบบมากกว่านี้อีก

พิม : ใช่แต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันเลย

ปิ๊ง : มีหมวกอีก

พิม : ใช่เหมือนของพี่ฟอร์แบบนี้เลย

ฟอร์จูน : ทุกคนจะไม่ได้เรียกชื่อวงเราผิด

พิม : แล้วก็มีถุงเท้าแบบว่าสั้นยาวไม่เท่ากันแล้วแต่คนด้วย

ฟอร์จูน : แล้วเป็นรองเท้าบูธด้วย

พิม : ใช่ใส่สบายมากเลย

beartai : ความท้าทายในการเป็นเซนเตอร์เพลงนี้ของฟอร์จูน

ฟอร์จูน : ก็เป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองละกัน ดูเหมือนแบบว่ามีความคาดหวังในตัวเองค่อนข้างสูงก็เลยรู้สึกว่าช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างกดดันตัวเองแต่ว่าเหมือนเพื่อน ๆ คอยเชียร์อัป ก็รู้สึกว่าเราผ่านตรงนี้มาได้เพราะแบบเพื่อน ๆ แล้วก็แฟนคลับทุกคนด้วย ที่แบบเหมือนหลายคนเขาก็ชอบ DM มาแบบถามกดดันไหม แต่ว่าเราก็แบบรับรู้ได้ว่าทุกคนยังอยู่กับเราแล้วก็เอ็นจอยไปกับมัน ก็ทำให้รู้สึกว่าเราผ่านมาได้แล้ว ใช่ดูโตขึ้นตามเพลง

beatai : ความทรงจำที่ผ่านมาในการเป็นสมาชิกของ CGM48 

ฟอร์จูน : ถ้าความประทับใจที่สุดตั้งแต่มาเป็น CGM น่าจะเป็นมิตรภาพเฟรนชิพที่ได้จากที่นี่คือเหมือนได้น้องสาวเพิ่มมาได้พี่สาวเพิ่มมาที่รู้สึกว่าเป็นแบบครอบครัวจริง ๆ ดูเหมือนแบบว่าคลานตามกันออกมาเลยรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ รู้สึกว่าชอบที่พวกเราดูแลซึ่งกันและกัน ชอบที่แบบทุกคนเป็นห่วงเป็นใยกัน หรือว่าแบบคอยดูแลซึ่งกันและกัน รู้สึกว่าถ้าไม่ได้เข้ามาเป็น CGM48 ก็จะรู้สึกว่าเสียใจที่ไม่ได้รู้จักคนพวกนี้

คนิ้ง : ของหนูก็น่าจะออกเชิงแนว ๆ เดียวกับพี่ฟอร์แบบมันมีจริง ๆ นะที่เราอยู่ด้วยกันมันเวลาเรามีปัญหาเราก็ล้อมวงแล้วก็เปิดใจคุยกันมันเลยทำให้เรารู้สึกว่ามันเหมือนเป็นอีกทีหนึ่งที่เหมือนเป็นครอบครัวของเราจริง ๆ ก็รู้สึกดีมากที่เราผ่านอะไรมาหลายอย่างมากไม่ว่าจะดีจะร้ายจะหนักหน่วงจะโดนจะร้อนจะหนาวเราผ่านมาหมดแล้ว

นีนี่ : รู้สึกว่าที่นี่เหมือนเป็น เซฟ โซน ของเรา เวลาเราหันมาแล้วเหนื่อยท้อไม่เจอใคร หันมาเจอเพื่อน แล้วก็แต่ก่อนเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แล้วเหมือนเรามีเป้าหมายเดียวกัน มีความฝันเหมือนกัน แล้วก็ได้มารู้จักกันจ ากคนที่แบบว่าไม่เคยคุยด้วยก็แบบสนิทเลย จากแต่ก่อนก็เคยแบบว่าเคยคิดนะว่า คือเขาไม่ชอบเรารึป่าวเลยไม่คุยกับเรา แต่ตอนนี้สนิทกันมากขึ้น แล้วก็ชอบมิตรภาพใน CGM48 มาก การสนับสนุนกัน แล้วก็การแบ่งของเครื่องใช้ด้วยกันแบบผงซักฟอก ของกินในตู้เย็น แบ่งปันกันช่วย ๆ แชร์

ปิ๊ง : ต้องพูดถึงการเติบโตของ CGM มาก่อนดีกว่าว่าตอนแรกเราเข้ามาทุกคนยังเป็นนักเรียนวัยใสกันอยู่เลยค่ะหนูยังอยู่ม. 5 ตอนนี้หนูจะขึ้นปี 2 แล้วส่วนน้องเล็กของเราน้องฟ้าใสก็เพิ่งจะนางสาวแล้ว จากตอนเด็ก ๆ ยังอายุ 12 อยู่เลย ผ่านมานานมากจริง ๆ แล้วก็เหตุการณ์ที่ประทับใจของหนูก็คือทุ กครั้งที่แบบเราได้ทำอะไรด้วยกันที่เป็นครั้งแรก อย่างเช่นตอนที่ถ่ายทำห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง เราก็โดนระเบิดด้วยกันครั้งแรก เป็นการที่ออกจากบ้านมานอนร่วมกับใครก็ไม่รู้อีก 4 คน เป็นครั้งแรกการได้เลี้ยงแมวครั้งแรกหนูชอบความแบบว่าได้เจออะไรใหม่ ๆ พร้อมกับเพื่อน ๆ 

พิม : จริง ๆ หนูคิดว่าก็คงเหมือนกับพี่ ๆ 3 คนข้างเลยชอบในมิตรภาพของ CGM48 มาก ๆ เลยเราเป็นทั้งพี่เพื่อนน้อง เราผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างมาเช่นระเบิดเมื่อกี้เป็นต้น มันก็เลยแบบรู้สึกว่าเราอยู่กันมาขนาดนี้ แบบถ้าสมมุติว่าในวันหนึ่งที่แบบว่าอยากจะออก แต่ว่ามันก็จะนึกตลอดว่าถ้าเราออกมาแล้วจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วนะ จะไม่เจอเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ อีกแล้ว ก็เลยจะเป็นอีกแบบหนึ่งที่แบบว่าโอเคไม่ออก เราจะอยู่กับเพื่อน ๆ จนกว่าเราจะจบไปด้วยกัน

ลาติน : ต้องพูดว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่นี่ให้ครอบครัวกับหนูจริง ๆ ตอนแรกเรามาเรายังเป็นตัวเล็ก ๆ ฟันเหยิน ๆ ใส่เสื้อสีรุ้ง ตีปิงปอง แต่งหน้ายังไม่เป็นเลย พี่ปิ๊งยังใช้ดินสี EE เขียนคิ้วอยู่เลย

นีนี่ : แต่ก่อนใช้สีเดียวแต่งทั้งหน้า

ลาติน : อะไรเป็น glitter ก็ถมใส่ตาไปก่อน เราก็โตขึ้นเยอะมากเลย ตอนนี้พี่ปิ๊งก็เขียนคิ้วโดยไม่ต้องใช้ EE แล้วจริง ๆ ทั้งความสนุกแล้วก็บางทีที่แบบว่าอย่างโควิดแบบนี้เราก็แยกย้ายกันไปบ้างแต่ว่าทุกครั้งที่กลับมาก็รู้สึกแบบได้เติมเต็มมาก ๆ เลยเมื่อก่อนก็รู้สึกว่าหนูเป็นคนที่ครอบครัวเล็ก ๆ ที่บ้านแล้วพอมาอยู่ที่นี้คนเยอะเฮฮาแล้วหนูชอบอยู่กับคนเยอะ ๆ ก็รู้สึกเต็มอิ่มมากขอบคุณ 2 ปีที่ผ่านมาก็จัดฟันเสร็จแล้วด้วยหน้าสวยแล้ว

beartai : ในระยะเวลากว่า 3 ปีแต่ละคนรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง

ลาติน : สิ่งที่เปลี่ยนไปหนูรู้สึกเลยอย่างแรกก็คือฟัน สีผม หนูอยากจะบอกว่าครั้งแรกที่หนูเหยียบเข้ามาในวงนี้หนูน้ำหนัก 36 สูงแค่ 156 หนูสูง 156 เมื่อก่อน ตอนนี้หนูสูง 167 แล้วก็หนัก 47 แล้วรู้สึกโตขึ้นมากจริง ๆ ตอนนี้หนูเป็นพี่ ม. 5 แล้วเป็น 2 ปีที่รวดเร็วมากจริง ๆ 

นีนี่ : ของหนูหน้าตาเลยหน้าตาดีขึ้นแต่ก่อนยังเป็นเด็กน้อย ผมดำแล้วก็หน้าม้าเต่อ ๆ เติบโตขึ้นคืออาจจะเป็นนิสัยด้วยเหมือนความคิดเปลี่ยนโตขึ้นเราก็เปลี่ยนแต่ก่อนเป็นคนขี้น้อยใจขี้งอลหนูรู้ตัวแต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วตอนนี้คิดเป็นแล้วรู้สึกว่าเราได้เรียนรู้ความผิดพลาดในอดีต อดีตเคยพังปัจจุบันดีกว่าก็เลยรู้สึกดีใจที่ตัวเองโตขึ้นมาได้อีกก้าวหนึ่ง

ฟอร์จูน : ถ้าที่ผ่านมารู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างคิดว่าน่าจะความคิดส่วนใหญ่ เพราะว่าหนูข้างโตแล้วด้วย แล้วหนูก็รู้สึกว่าการอยู่ตรงนี้ค่อนข้างที่จะใช้สมองเยอะนิดนึง ก็เลยรู้สึกว่าเหมือนจิตใจทางความคิดเปลี่ยนไป เริ่มมีความแบบปล่อยวางในอะไรบางอย่างลง แล้วก็ให้ความสำคัญกับอะไรมากขึ้น รู้สึกว่าแบบเหมือนได้ใช้ความคิด ให้เป็นเหมือนโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น บางอย่างเราอาจจะยังเด็กไปในตอนนั้น แต่ตอนนี้เรามานึกได้ว่าที่ผ่านมามันเป็นแบบนี้นะ ก็เลยรู้สึกว่าที่เปลี่ยนไปมากที่สุดน่าจะคือความคิด

คนิ้ง : ก็สำหรับหนูมันรู้สึกว่าสิ่งที่มันเป็นเหมือนสิ่งที่ได้มาเพิ่มมากขึ้นก็คือ ประสบการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเหยียบระเบิดไ ด้ขึ้นเครื่อง หรือว่าทำอะไรต่าง ๆ แบบสิ่งที่เราไม่เคยกินมาก่อนแล้วอยู่ดี ๆ ก็ได้กิน ได้ไปทะเลด้วย ไคิดว่าถ้าไม่มาอยู่จุดนี้ อาจจะอีกนานกว่าเราจะได้ทำสิ่งนั้น และรู้สึกว่าเราภูมิใจ เพราะว่าในการที่เรามองไปกับเพื่อนรุ่นเดียวกับเรา เรารู้สึกว่าเราได้รับประสบการณ์มากกว่าเขาเรารู้สึกว่าเราดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะมาก ๆ เลย

พิม : ก็ของหนูรู้สึกว่าน่าจะเป็นความคิดแล้วก็การอดทนความอดทน เมื่อก่อนอาจจะไม่ได้ไปทำอะไรมากวัน ๆ ก็เรียนแล้วก็กลับบ้านแต่ว่าพอเราได้มาทำงาน เราก็รู้จักคนมากขึ้น เราก็ต้องมีการปรับตัว แล้วก็ต้องมีความอดทนในการทำงาน เพราะว่าอย่างแบบคนอื่นอาจจะแบบมีการเรียนแล้วก็ทำการบ้าน แต่ว่าพวกเราจะต้องเรียนด้วยทำงานด้วย ก็จะมีภาระมากขึ้นกว่าคนอื่นนิดหน่อย ก็รู้สึกว่าเรามีความอดทนมากขึ้น

ปิ๊ง : สำหรับหนูคือกล้ามเนื้อ คือแบบว่าเราใช้เวลา 3 ชั่วโมงในทุกวันเต้น มันเป็นเวลาเกือบ 3 ปี ตอนนี้คือรู้สึกว่าเป็นคนที่แข็งแรงมากขึ้น จาก 3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เปลี่ยนไปคิดว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่เรายังเรียนมัธยมอยู่ คือเราเป็นคนที่เด็กที่สุดในรุ่นจาก 200 กว่าคน เราก็จะทำตัวเป็นเบบี้ พี่ช่วยหน่อยอันนี้ทำยังไง แต่พอมาที่นี่ เราได้อยู่กับน้อง ๆ ก็ต้องทำตัวเป็นพี่ใหญ่มากขึ้น แล้วก็ต้องดูแลคนอื่น แล้วก็มีโปรเจกต์ CAT IDOL ที่ผ่านมาก็ได้เลี้ยงแมว ได้เป็นคุณแม่ ต้องมีความรับผิดชอบที่มากขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นทักษะความเป็นผู้นำ กับกล้ามเนื้อ

beartai : พูดถึงความสำเร็จของสมาชิกวง CGM48 กับงาน General Election ที่ผ่านมา

นีนี่ : ก็หนูได้อันดับที่ 44 ร่วมกับปิ๊งด้วยที่ปิ๊งได้ Next Girls 

ปิ๊ง : 45 ต่อจากเขาเลย

นีนี่ : เป็นเพื่อนกันก็ขอบคุณแฟนคลับที่กว่าที่ซัปพอร์ตเราแล้วก็ให้เราขึ้นมาถึงจุดนี้แล้วก็คิดว่าเราตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดได้ฟังเพลงแล้วแบบน่ารักสดใสมากเลยรอติดตามได้เลยเขาประกาศเพลงแล้ว

ลาติน : ชื่อเพลงอะไรนะ

นีนี่ : Kinou Yori Motto Suki

ปิ๊ง : ก็อยู่เพลงเดียวกับนีนี่ก็คอนเซ็ปต์ก็เป็นน่ารักสดใส แล้วก็คือมันเป็นครั้งที่ 2 ด้วยที่ CGM48 ร่วมงาน General Election คือปีแรกเราเข้าไปเอาประสบการณ์ แต่ว่าปีนี้พวกเราเอาจริง พวกเรายกทัพมาได้เยอะมากแล้วก็น้อง ๆ CGM48 ก็ติดเข้าไปเยอะมากรู้สึกดีใจกับน้อง ๆ เพื่อน ๆ ที่จะได้ร่วมงานด้วยกันแล้วก็กับพี่ BNK48 ครั้งนี้ด้วย

ฟอร์จูน : ของหนูอยู่ Under Girls ก็ได้ลำดับที่ 22 เพลง Make Noise เป็นเพลงแบบว่าแซ่บ ๆ รอบนี้จะแซ่บให้เต็มที่แน่นอนเพราะว่า CGM48 ไม่น่าค่อยได้เพลงแบบนี้เท่าไหร่พอได้โอกาสมาตรงนี้เราได้เป็นเพลงแนวนี้รู้สึกว่าดีมากเลยที่ได้เพลงแบบนี้เราจะได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมายังไงก็ฝากของ Under Girls ด้วยแล้วก็มีน้อง ๆ อีกหลายคนเลยของ CGM48 ที่ติดเข้าไปยังไงฝาก CGM48 ด้วย

คนิ้ง : หนูก็ได้อันดับที่ 6 มาก็ขอบคุณทุกคนมากจริง ๆ เหมือนกันที่ช่วยกันพาให้หนูมาอยู่จนถึงจุด ๆ นี้ได้ก็รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยแล้วก็จะได้ไปญี่ปุ่นครั้งแรกด้วยก็ฝากด้วยจะถ่ายรูปมาให้เยอะ ๆ เลย

พิม : ของหนูก็ได้อันดับที่ 5 ก็ทำได้เพราะแฟนคลับเลยแล้วก็แบบว่าได้กำลังใจจากพี่ ๆ เพื่อน ๆ แบบว่ามันก็มีช่วงที่แบบว่ารู้สึกเฟล ๆ นิดหน่อย แต่ว่ามีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ บอกว่าเหมาะสมแล้ว เอาเลย ก็เลยรู้สึกมั่นใจมากขึ้นบวกกับแฟนคลับก็ให้กำลังใจมาตลอดเลยก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ จริง ๆ เชื่อว่าแฟนคลับก็รู้อยู่แล้วว่าหนูก็รักเขา

ฟอร์จูน : ก็เดี๋ยวขออนุญาตเป็นฝาก ซิงเกิลที่ 4 เลยแล้วกันชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า MAESHIKA MUKANEE ชื่อภาษาไทยคือสุดเส้นทาง ก็ตอนนี้ปล่อย MV แล้วใน YouTube ของ CGM48 แล้วก็สามารถไปฟังใน Streaming ต่าง ๆ ได้เลยยังไงก็ฝากไปปั่นวิวกันเยอะ ๆ  ด้วยแล้วก็ยังมีเพลงรองด้วย

คนิ่ง : ชื่อว่าเพลง Niji no Ressha – รถไฟสายรุ้ง มีหนูกับน้องชมพูเป็น Center แล้วก็เป็นเพลงที่ได้รับมาจาก AKB00 ที่เป็นการ์ตูน

ฟอร์จูน : แล้วก็ขอฝากเพลง Unit ครั้งแรกของ CGM48 ด้วยชื่อเพลงว่า Tomodachi – เพื่อน ก็มีฟอร์จูนแล้วก็มี แองเจิล 2 คน เป็นเพลงร้องซึ้ง ๆ ยังไงก็สามารถไปย้อนดู Live  งาน First Performance ของพวกเราได้ในช่องยูทูบของ CGM48 แล้วก็สามารถพรีออเดอร์ ซิงเกิลที่ 4 ได้ใน Shopee ก็ Pre-oder ได้ถึงกรกฎาคมเลย ยังไงฝากพรีออเดอร์กันเยอะ ๆ มาสนับสนุนวงพวกเราให้เติบโตกันไปจนสุดเส้นทางเลย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส