ปี 1994 นับเป็นปีที่สมควรจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดตลอดไป เพราะเป็นปีที่ฮอลลีวูดสร้างหนังที่มีคุณค่าขึ้นแท่นหนังคลาสสิกออกมามากมายหลายเรื่อง และหลายเรื่องก็อยู่ในโรงฉายพร้อมกันด้วย ในเดือนตุลาคมปี 1994 เป็นเดือนที่สหรัฐอเมริกา มีหนังอย่าง Forrest Gump, Jurassic Park, The Shawshank Redemption, The Lion King และ Pulp Fiction ยังมีรอบฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์

และหนังเหล่านี้ก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในพิธีแจกรางวัลออสการ์ครั้งที่ 67 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1995 และหนัง 5 เรื่องที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมก็คือ Forrest Gump, Quiz Show, The Shawshank Redemption, Four Weddings and a Funeral, Pulp Fiction ซึ่งแต่ละเรื่องก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนังเรื่องโปรดของใครหลาย ๆ คน และแน่นอนว่าเมื่อ ผลประกาศออกมาว่าผู้ชนะในปีนั้นก็คือ Forrest Gump จึงมีทั้งแฟน ๆ ที่เห็นชอบกับการตัดสิน และแฟน ๆ ที่เห็นค้าน หลายเสียงมองว่า The Shawshank Redemption หรือไม่ก็ Pulp Fiction สมควรที่จะเป็นผู้ชนะมากกว่า

3 ภาพยนตร์ตัวเต็งรางวัลออสการ์ “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” ปี 1994

นับถึงวันนี้ก็ผ่านมา 29 ปีแล้ว แต่กรณีโต้แย้งในเรื่องนี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่ใบนโลกออนไลน์ แต่ ทอม แฮงส์ (Tom Hanks) ในฐานะนักแสดงนำที่คว้าออสการ์สาขานักแสดงนำชายจากเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ก็ไม่เคยออกมาให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าวนี้ จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง ที่ The New York Times มีโอกาสสัมภาษณ์แฮงส์ และได้ถามความเห็นของเขาต่อประเด็นโต้แย้งนี้ ซึ่งแฮงส์เองก็ค่อนข้างให้ความเห็นในเชิงเห็นด้วยกับการที่ ‘Forrest Gump’ คว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แม้ว่าบรรดานักวิจารณ์จะมองว่าหนังก็เป็นเพียงแค่ “สัญลักษณ์หนึ่งที่โดดเด่นในยุคที่กระแสนึกถึงความหลังกำลังเฟื่องฟู”

“ปัญหาของ ‘Forrest Gump’คือหนังมันทำเงินได้ถึงพันล้านเหรียญไงครับ ถ้าเราเลือกทำแต่หนังที่ประสบความสำเร็จได้ ป่านนี้ผมกับบ็อบคงเป็นอัจฉริยะกันไปแล้ว” แฮงส์เอ่ยถึง โรเบิร์ต เซเม็กคิส (Robert Zemeckis) ผู้กำกับ Forrest Gump

“แต่เพราะว่าหนังมันประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามไง เราก็เลยกลายเป็นอัจฉริยะสุดเลวร้าย แล้วไงล่ะ มันเป็นปัญหาที่แย่หรือเปล่า ? ก็เปล่าเลย แต่มันก็มีหนังสือหลายเล่มนะ ที่พูดถึงหนังที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล แต่ไม่มีชื่อ ‘Forrest Gump’ อยู่ในนั้นเลย เพราะอะไรล่ะ โอ้ เพราะมันคือหนังตัวแทนเทศกาลแห่งการนึกถึงความหลังอันแสนหวานเลี่ยน”

โรเบิร์ต เซเมกคิส ขณะกำกับ โรบิน ไรต์ และ ทอม แฮงส์

แฮงส์เล่าต่อว่าเขาเห็นหลายบทความที่เขียนว่า ‘Pulp Fiction’ ของ เควนทิน ทาแรนทิโน สมควรได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมากกว่า ซึ่งผู้เขียนให้ความเห็นว่า “นี่คือผลงานชิ้นเอกอย่างไม่ต้องสงสัย”

แต่แฮงส์ก็เห็นว่า ‘Forrest Gump’ สมควรแล้วกับรางวัล

“ฟังนะ คือสำหรับคนอื่นคิดเห็นอย่างไรผมไม่รู้หรอก แต่สำหรับผมมันมีฉากที่น่าจะทำให้ใจเราแตกสลายได้อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย เป็นฉากที่ แกรี ซินิส เขาเล่นเป็น ผู้หมวดแดน เขาเดินขึ้นมาบนบ้านพร้อมภรรยาชาวเอเซียของเขา ในวันแต่งงานของฟอร์เรสต์และเจนนี่”

ประเด็นของแฮงส์ในฉากนี้ก็คือ “ขาวิเศษ” หรือขาเทียมของผู้หมวดแดนที่ทำให้เขากลับมาเดินได้นั้น มันสื่อถึง “ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยเผชิญมา และซาบซึ้งต่อความเจ็บปวด ความโศกเศร้าทุกหยาดหยดที่เขาผ่านพ้นมาได้ และตรงนี้ก็เป็นฉากหนึ่งที่มีความหมายลึกซึ้งแอบแฝงไว้”

ฉาก Magic Legs

‘Forrest Gump’ กวาดออสการ์ไปได้ 6 รางวัล ได้แค่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, วิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม, ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ส่วน ‘Pulp Fiction’ ที่มีนักวิจารณ์ และแฟน ๆ กลุ่มใหญ่เชียร์ ก็คว้าออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปได้

ที่มา : huffpost