หลังจาก Guardians of the Galaxy ได้ปิดฉากลงอย่างสวยงามในภาคที่ 3 ก็นับว่า เจมส์ กันน์ (James Gunn) ได้เสร็จสิ้นภาระหน้าที่กับสตูดิโอมาร์เวลอย่างสมบูรณ์ จากนี้เขาก็เดินหน้าเต็มที่ในฐานะซีอีโอร่วมของสตูดิโอดีซี ร่วมกับ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran)

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจมส์ กันน์ ก็ได้ให้เกียรติไปร่วมพูดคุยกับ ไมเคิล โรเซนบวม (Michael Rosenbaum) อดีตนักแสดงจากทีวีซีรีส์จาก Smallville ในพอดแคสต์ของเขาที่ชื่อว่ ‘Inside of You’ ระหว่างพูดคุยนี้ เจมส์ กันน์ ในฐานะผู้กำกับที่ร่วมงานมาแล้วทั้งดีซีและมาร์เวล ก็เลยได้ชี้ให้เห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างซูเปอร์ฮีโรของดีซีและมาร์เวล แม้จะเป็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนแต่หลาย ๆ คนก็อาจจะมองข้ามไป

“คุณลองมองไปที่ MCU สิ ทางนี้เขาจะมีซูเปอร์ฮีโรแบบเดิม ๆ น้อยมาก ทางนี้เขาแทบไม่มีซูเปอร์ฮีโรแบบที่ต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงเป็นความลับเลยนะ นอกจาก Spider-Man เท่านั้น Captain America ก็เป็นทหารของกองทัพอเมริกันแม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากก็ตาม ส่วน Iron Man ก็เปิดเผยตัวตนในตอนจบของภาคแรก เพราะเขาไม่อยากจะต้องเจอกับเรื่องจุกจิกต่าง ๆ กับการที่ต้องคอยปิดบังสถานะตัวเอง”

เหล่าซูเปอร์ฮีโรยุคเก่า ที่มักปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

ในขณะที่ทางฝั่งมาร์เวลแทบจะไม่สนใจเรื่องของการปกปิดสถานะตัวตนเป็นความลับ แต่สำหรับดีซีแล้วเรื่องนี้นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่เป็นตำนานของทางฝั่งเขาเลย ดีซีจะให้ความสำคัญในเรื่องบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันระหว่างตัวตนที่เป็นมนุษย์และตัวตนที่เป็นซูเปอร์ฮีโร ระหว่าง บรูซ เวย์น กับ Batman, คลาร์ก เคนต์ กับ Superman และ ไดอานา พรินซ์ กับ Wonder Woman ฉะนั้นนักแสดงที่เข้ามารับบทบาทเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของทางฝั่งดีซี จึงมักจะถูกจับตามองจากบรรดาแฟน ๆ เดนตาย ว่าพวกเขาจะตีความบทบาทตอนเป็นซูเปอร์ฮีโรกับตอนเป็นมนุษย์ให้แตกต่างกันอย่างไร ฉะนั้นเรื่องการแบ่งแยกบุคลิกตัวตน 2 บทบาทนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ของทางฝั่งดีซีเค้า

แม้ว่ากันน์จะได้ฝึกวิชาอยู่กับมาร์เวลมายาวนาน เมื่อมากุมบังเหียนอยู่ทางฝั่งดีซีแล้ว เขาก็อยากจะสร้างลายเซ็นของตัวเองขึ้นมากับผลงานของทางฝั่งดีซี ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เขาจะต้องเผชิญนั้้น หนักหนาสาหัสกว่าที่ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ที่รับมืออยู่กับทางฝั่งมาร์เวลแน่นอน เพราะอย่างแรกเลย กันน์ต้องรับมือกับแฟน ๆ ดั้งเดิมกลุ่มใหญ่ของทางฝั่งดีซี ที่ยังพอใจกับยุค ชไนเดอร์เวิร์ส (Snyderverse) และยังอยากจักรวาลเดิมเดินหน้าต่อไป ขณะเดียวกันกลุ่มที่อ้าแขนต้อนรับการมาของกันน์นั้นก็คาดหวังอย่างมากกับการเริ่มต้นแฟรนไชส์ในยุคใหม่และเฝ้ารอซูเปอร์ฮีโรหน้าใหม่ที่จะมสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับฝั่งดีซี

งานยากของกันน์จากนี้ไป คือจะต้องเชื่อมโยงทุก ๆ โปรเจกต์ให้ไปในทิศทางเดียวกันให้ได้ แล้วจากนี้ไป DCU ไม่ได้มีเพียงแค่ภาพยนตร์กับทีวีซีรีส์เท่านั้น แต่ยังจะมีภาพยนตร์แอนิเมชันและวิดีโอเกมอีกด้วย ซึ่งกันน์ก็มีตัวอย่างของทางฝั่ง MCU ให้เห็นเป็นกรณีศึกษาที่ดีแล้ว จากเดิมที่มาร์เวลมีทีวีซีรีส์ Agents of S.H.I.E.L.D ที่อยู่คนละจักรวาลกับ MCU แต่พอดิสนีย์เปิดตัว Disney+ แล้วก็เริ่มรวมเนื้อหาในทีวีซีรีส์เข้ากับ MCU โดยเริ่มจาก Wandavision ในปี 2021 แต่ในช่วงหลัง เมื่อมาร์เวลเร่งผลิตทั้งภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันจำนวนมาก ผลก็คือคุณภาพของเนื้อหาเริ่มลดถอยลง มีทีวีซีรีส์หลายเรื่องที่ไม่ประสบความสำเร็จ และเป็นปัญหาใหญ่ที่ดิสนีย์และมาร์เวลต้องเร่งทบทวน และกำลังปรับเปลี่ยนกระบวนการกันอยู่ในขณะนี้

ที่มา : movieweb