‘Cleopatra’ เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ใหญ่ของฮอลลีวูดที่ได้รับการจับตามองมาโดยตลอด แต่เมื่อผู้กำกับ แพตตี้ เจนกินส์ (Patty Jenkins) ก้าวออกจากตำแหน่งผู้กำกับ โปรเจกต์ก็ดูเหมือนจะไร้ความคืบหน้า และมีข่าวว่าโปรเจกต์ถูกย้ายจากพาราเมาท์ไปอยู่กับยูนิเวอร์แซลแล้วตั้งแต่ช่วงกลางปี 2022 แต่นับจากนั้นมาเราก็ไม่ได้ข่าวคราาวความคืบหน้าของโปรเจกต์กันอีกเลย แต่ กัล กาด็อต (Gal Gadot) นักแสดงนำก็ออกมายืนยันว่าบทภาพยนตร์นั้นเขียนเสร็จตั้งแต่พฤศจิกายน 2021 แล้ว เสร็จตั้งแต่ตอนนที่เจนกินส์ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งผู้กำกับเลย ถึงตรงนี้เริ่มไม่มั่นใจกันแล้วว่า บทภาพยนตร์ในเวอร์ชันล่าสุดนี้ยังคงเป็นผลงานของ เลทา คาโลกริดิส (Laeta Kalogridis) ผู้เขียน ‘Alita: Battle Angel’, ‘Terminator Genisys’ อยู่หรือไม่

กัล กาด็อต และ แพตตี้ เจนกินส์

จึงกล่าวได้ว่า ‘Cleopatra’ เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์เจ้าปัญหา ทั้งด้วยขั้นตอนการสร้างที่กินเวลายาวนาน และเจอกับกระแสต่อต้านมากมายนับตั้งแต่การประกาศเลือกให้ กัล กาด็อต มารับบทคลีโอพัตรา ว่าเป็นกระบวนการฟอกขาว (whitewashing) ถึงแม้ว่าเธอจะมีเชื้อสายอิสราเอลก็ตาม แต่กลุ่มผู้ที่ไม่เห็นชอบก็ชี้ประเด็นตรรงที่ว่า ภาพลักษณ์ของกาด็อตนั้นดูเป็นคนผิวขาวเกินไป ไม่ตรงกับความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ที่ว่า พระนางคลีโอพัตรานั้นมีส่วนผสมหลายเชื้อชาติ และเป็นการย่ำรอยความผิดพลาดเดิมในอดีตครั้งที่ฮอลลีวูดก็เคยให้ เอลิซาเบธ เทย์เลอร์ (Elizabeth Taylor) มารับบทนี้ในยุค 60’s แต่กาด็อตเองก็ออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ โดยชี้ให้เห็นว่า พระนางคลีโอพัตราก็สืบเชื้อพระวงศ์มาจากราชวงศ์ทอเลมีแห่งมาซิโดเนีย ฉะนั้นการที่จะหานักแสดงที่มาจากภูมิภาคนี้นั้น ตัวเธอเองนั่นล่ะ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

กัล กาด็อต เซ็นสัญญาเป็นผู้อำนวยการสร้างและแสดงนำใน ‘Cleopatra’ มาตั้งแต่ปลายปี 2020 แล้ว ในวันนั้นเธอตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับผู้กำกับ แพตตี้ เจนกินส์ ที่กำกับเธอมาแล้วจาก ‘Wonder Woman’ ทั้งสองภาค แต่พอหนังประสบปัญหาติดขัดต่าง ๆ นานา ส่งผลให้เจนกินส์ลาออกจากตำแหน่งผู้กำกับไปเป็นผู้อำนวยการสร้างแทน แล้วก็ได้ตัว คาริ สโคแลนด์ (Kari Skogland) ผู้กำกับหญิงจาก ‘The Falcon and the Winter Soldier’ มารับช่วงต่อแทน

กัล กาด็อต บนปก VOGUE Hong Kong

จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่กาด็อตได้ไปร่วมงานกับนิตยสาร ‘Vogue Hong Kong’ ฉบับเดือนกรกฏาคมนี้ ซึ่งในเล่มนี้เธอก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานต่าง ๆ ของเธอรวมไปถึงเรื่องราวของ ‘Cleopatra’ โปรเจกต์ที่ก่อให้เกิดเสียงต่อต้านมากมายด้วย กาด็อตเผยว่าเธอเองรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการเล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ และในตอนนี้เธออยากจะชี้แจงถึงความเข้าใจผิด ๆ ต่อตัวเธอในฐานะผู้ที่จะมารับบทพระนางคลีโอพัตรานี้

“อิสราเอลมีพรมแดนติดกับอียิปต์นะคะ แล้วตัวฉันเองก็เติบโตมาพร้อม ๆ กับเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับพระนางคลีโอพัตรา เป็นชื่อที่กล่าวถึงกันอยู่แทบทุกครัวเรือน ถ้าพวกคุณมองว่า ‘Wonder Woman’ เป็นผู้นำหญิงที่มีความแข็งแกร่งเป็นตัวละครจากจินตนาการ ในทางกลับกัน พระนางคลีโอพัตรานี่ล่ะคือบุคคลที่มีตัวตนจริง เธอเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบในเรื่องราวที่ฉันอยากจะเล่าออกมา ฉันเองก็ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพระนางคลีโอพัตราอยู่หลายเล่ม พอได้อ่าน ฉันก็ร้อง ว้าว! เธอช่างน่าทึ่งมาก ฉันเคยรับรู้เกี่ยวกับพระนางคลีโอพัตรามาจากภาพยนตร์ ได้รับรู้ว่าพระนางเป็นหญิงที่มีความเย้ายวนใจ เธอมีความสัมพันธ์กับ จูเลียส ซีซาร์ และ มาร์ก แอนโธนี (แม่ทัพชาวโรมัน) แต่ที่จริงแล้วเรื่องราวของเธอยังมีอะไรมากมายกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้มาก่อนกาลเวลา อียิปต์ในยุคของเธอนั้น ถือว่าเป็นโลกอนาคตของเราในตอนนี้ก็ว่าได้ สำหรับฉันแล้ว ฉันรู้สึกกระตือรือร้นมากที่จะบอกเล่าเรื่องราวของพระนาง และนำความยุติธรรมมาสู่ตัวละครนี้ รวมไปถึงมรดกของเธอและเฉลิมฉลองให้กับพระเกียรติของเธอ เรามีบทภาพยนตร์ที่สวยงามแล้ว ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะแบ่งปันเรื่องราวนี้ออกสู่โลกกว้าง และจะเปลี่ยนรูปแบบการเล่าเรื่องเสียใหม่จากเดิมที่เป็นเพียงราชินีที่มีแต่ความเย้ายวนใจ”

Queen Cleopatra โปรเจกต์ของ Netflix ที่เจอเสียงโต้แย้งนักหน่วง

ด้วยความที่เป็นโปรเจกต์ที่เดินหน้าไปบนความขัดแย้งและกระบวนการผลิตที่ล่าช้าเช่นนี้ ก็นับว่าเป็นโปรเจกต์ที่น่าติดตามว่า ‘Cleopatra’ จะผ่านพ้นปัญหาและได้รับการสร้างจนแล้วเสร็จได้หรือไม่ บวกกับการที่ Netflix ก็เพิ่งสตรีมมิง ‘Queen Cleopatra’ มินิซีรีส์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสต่อต้านเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังเข้าสู่ Top 10 ได้สำเร็จ ยิ่งชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระนางคลีโอพัตรานี่เปรียบเสมือนโปรเจกต์ต้องห้าม แตะต้องเมื่อใดเป็นอันต้องเจอกับกับข้อครหามากมาย

ที่มา : screenrant