พระเอกฮอลลีวูดนี่หากินกันได้ยาวจริง ๆ นะ อย่าง เลียม นีสัน (Liam Neeson) นี่ 71 ปีแล้ว ก็ยังมีหนังแอ็กชันออกมาเรื่อย ๆ ปีนี้ แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) ในวัย 81 ปี ก็ยังกลับมาโชว์ลีลาเหวี่ยงแส้ให้เราดูอยู่แล้ว
ตอนนี้ก็มาถึงคิวของ ซามูเอล แอล. แจ็กสัน (Samuel L. Jackson) นาน ๆ ทีจะขอรับบทพระเอกสักครั้ง รอบนี้ได้เป็นพระเอกอีกครั้งในวัย 74 ปี กับบทนำในหนังแอ็กชัน ‘The Beast’ ที่แจ็กสันจะรับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่โดนผู้ก่อการร้ายซุ่มโจมตีขณะที่อยู่ในรถประจำตำแหน่ง เลยต้องสวมวิญญาณพระเอกนักบู๊ด้วยตัวเอง
เรื่องย่อ : เมื่อกองกำลังไม่ปรากฎสัญชาติได้ร่วมการก่อรัฐประหารต่อต้านรัฐบาลสหรัฐฯ ในขณะนั้น ประธานาธิบดีก็ได้พบ พลังและความสามารถของ The Beast ซึ่งเป็นความลับสุดยอดของทางราชการ ในช่วงที่แยกห่างจากภรรยาของเขา ประธานาธิบดีก็เรียนรู้ที่จะควบคุมพลังอสุรกาย The Beast ที่อยู่ภายในร่างของเขา และเมื่อตกอยู่ในภาวะอันตราย ประธานาธิบดีจึงต้องใช้พลังของ The Beast ในการช่วยชีวิตตัวเอง และทาฟต์ เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ดูแลอารักขาตัวเขา
The Beast ในที่นี้ใช้เป็นรหัสที่สื่อสารกันในหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกา เรียกแทนรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี และอีกนัยหนึ่งก็คือตัวประธานาธิบดี บทของแจ็กสันอีกด้วย
The Beast เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่โปรเจกต์ที่สตูดิโออนุมัติสร้างก่อนที่จะเกิดการประท้วงของ SAG-AFTRA จึงได้ไฟเขียวให้เปิดกล้องได้เร็ว ๆ นี้ หนังจะกำกับโดย เจมส์ แมดิแกน (James Madigan) ผู้เคยทำหน้าที่ผู้กำกับหน่วยที่ 2 ใน ‘The Meg’ และ ‘Transformers: Rise of the Beasts’ แล้วยังได้ โจเอล คินนามาน (Joel Kinnaman) จาก ‘The Suicide Squad’ และ ‘RoboCop’ มาประกบคู่กับ ซามูเอล แอล. แจ็กสัน ส่วนบทภาพยนตร์ตกเป็นหน้าที่ของ อูแมร์ อาลีม (Umair Aleem) ที่เคยมีผลงานเด่น ๆ อย่าง ‘Kate’ และ ‘Extraction’
ที่จริงแล้ว ซามูเอล แอล. แจ็กสัน ก็เคยรับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามาก่อนแล้ว ในหนังปี 2014 เรื่อง ‘Big Game’ กำกับโดย จาลมารี เฮเลนเดอร์ ( Jalmari Helander) ในเรื่องนี้ เครื่องบิน Air Force One ถูกยิงตก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รอดชีวิต แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเด็กชายวัย 13 ปี ที่มีทักษะการเอาตัวรอดพาเขาออกจากถิ่นทุรกันดารในฟินแลนด์ หนังได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ แต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มผู้ชมนัก เราก็ได้แต่หวังว่าการรับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 2 ของเขา จะประสบผลสำเร็จกว่าครั้งแรก
ช่วงนี้ แจ็กสันกำลังงานชุกมาก นอกจาก ‘The Beast’ แล้ว เขายังมีอีกหลายโปรเจกต์ที่กำลังเรียงคิวเข้าฉายกันอย่างต่อเนื่องจากนี้ไป ในวันที่ 29 กันยายนนี้ ก็จะมี ‘Kill Room’ ผลงานที่แจ็กสันร่วมแสดงกับ อูมา เธอร์แมน และ โจ แมนกาเนียโล ส่วนในวันที่ 10 พฤศจิกายน ผู้ชมเตรียมพบกับ ‘The Marvels’ ภาคต่อของ ‘Captain Marvel’ ที่แจ็กสันจะกลับสู่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลอีกครั้ง ยังไม่หมดแค่นั้น ในปีหน้าก็จะมี ‘Argylle’ ภาพยนตร์แนวสายลับ คอมเมดี้ ที่เขาจะประกบคู่กับ เฮนรี่ คาวิลล์, ตามมาด้วย ‘Garfield’ ภาครีบูต ที่เขาจะพากย์เสียงร่วมกับ คริส แพรตต์ และภาพยนตร์ดราม่า ‘The Piano Lesson’ ที่จะแสดงร่วมกับ จอห์น เดวิด วอชิงตัน
นักแสดงหนุ่ม ๆ หล่อ ๆ ยังไม่งานชุกขนาดนี้เล้ย